บังยีขอโทษไทยฟอร์มห่วยแต่ไม่ออก

"บังยี" เปิดใจขอโทษทีมไทยฟอร์มห่วย ไม่ทิ้งเก้าอี้นายกลูกหนัง-ไม่ปลด"ร็อบโบ้" โวลุยบอลโลก แฟนบอลลั่นตามไล่ทุกที่ สง ครามโซเชียลยังเดือดฝ่ายหนุน-ต้านวิจารณ์กันเละ

กระแสต้านการทำงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยภายใต้การกุมบังเหียนของ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอล ยังโดนแฟนฟุตบอลกดดันให้สละเก้าอี้เพื่อรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของทีมชาติ หลังจากนักเตะทีมชาติไทยตกรอบแรกในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010” ที่ประเทศอินโดนีเซีย

 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ธันวาคม นายวรวีร์ กล่าวในรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ว่า ต้องขอแสดงความเสียใจและขอโทษแฟนฟุตบอลไทยยืนยันว่าเสียใจและผิดหวังมากกว่าคนอื่นๆ เพราะเป็นผู้นำองค์กร ส่วนเรื่องการลาออกจากตำแหน่งนั้นต้องแยกกัน เพราะนายกสมาคมฟุตบอลไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำทีม แต่ถ้าบทบาทของตัวเองมีความบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเอาใจใส่ทีมไม่ดี ทีมไม่ได้ฝึกซ้อมตามที่กำหนดไว้ก็อาจต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

 “สมาคมฟุตบอลให้นักฟุตบอลเก็บตัวในโรงแรมที่พักอย่างดี มีเงินโบนัสและอัดฉีดให้เต็มที่ แต่เรื่องการทำทีมไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ผมตั้งใจทำงานและทำอย่างเต็มที่ตามแบบสากลปฏิบัติ ตอนนี้มีทีมชาติในฟีฟ่า 208 ประเทศ หากฟุตบอลแพ้แล้วนายกสมาคมลาออกคงต้องมีการเปลี่ยนกันทุกเดือนหรือเปลี่ยนกันมากที่สุด หากผมเข้าไปก้าวก่ายการทำงานของโค้ช ไปจัดตัวผู้เล่นเองผมน่าจะต้องรับผิดชอบ แต่หน้าที่ผมคือการสนับสนุนทีม” นายวรวีร์ กล่าว

เผยอิตาลี-ฝรั่งเศษหนักว่าไทย

 นายกสมาคมฟุตบอลกล่าวต่อว่า อิตาลีที่เป็นแชมป์โลกยังตกรอบแรกในครั้งถัดไป หรือฝรั่งเศสเป็นรองแชป์โลกยังตกรอบแรก ตรงนี้ถือว่าหนักกว่าของไทยแน่นอน แต่ก็ไม่มีนายกสมาคมลาออก ต้องมองว่าตอนนี้ทุกชาติในภูมิภาคอาเซียนอยากจะโค่นไทยทั้งนั้น แต่ละชาติพัฒนากันเต็มที่ประมาทใครไม่ได้เด็ดขาด ความจริงเราไม่ได้ผูกขาดว่าเป็นเจ้าอาเซียน เพียงแค่คนไทยยังยึดติดตรงนี้เพราะเคยเป็นแชมป์ซีเกมส์มา 8 สมัย

 “ทัวนาเมนต์แต่ละรายการมีองค์ประกอบและปัจจัยต่างกัน อย่างซูซูกิ คัพ ผมก็ไม่อยากจะบอกว่าผู้ตัดสินมีส่วนและไม่อยากพาดพิงหรือตำหนิเพราะมันเปลี่ยนคำตัดสินไม่ได้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ส่วนเรื่องโปรแกรมการแข่งขันในประเทศที่มองว่าเป็นปัญหานั้น ต้องยอมรับว่าเราเจอทั้งเหตุการณ์บ้านเมืองและฝนจนเกมต้องเลื่อนจากเดิม ตรงนี้ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อทีมชาติไทยแน่นอน นโยบายหลักของสมาคมฟุตบอลคือสร้างลีกให้แข็งแกร่งที่สุด และอีกนโยบายคือสร้างทีมชาติสู่นานาชาติ ตอนนี้ลีกที่แข็งแกร่งอาจจะมีผลกระทบบ้าง” นายวรวีร์ กล่าว

โวเดินหน้าทำให้ดีที่สุด

 ส่วนการเพิ่มโปรแกรมลีกคัพขึ้นมาระหว่างฤดูกาลนั้น นายวรวีร์ กล่าวว่า มีการตกลงกับสโมสรแล้วว่าห้ามทีมชาติมาเล่นลีกคัพ ซึ่งสโมสรเข้าใจดีจนถึงนัดรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศถึงค่อยลงเล่น เพราะผ่านเอเชี่ยนเกมส์มาแล้ว ลีกคัพเป็นการสร้างรายได้ให้สโมสร สโมสรต้องการหารายได้จากสิทธิประโยชน์และเพิ่มรายได้ต่างๆ เพราะแต่ละปีต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก ตรงนี้ทีมสโมสรไม่ได้บ่นถึงการเพิ่มโปรแกรมขึ้นมาและถือเป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุน เนื่องจากกระแสเกมของสโมสรกำลังบูมอย่างมาก

 “ผมยอมรับว่าเกมในประเทศส่งผลต่อทีมชาติ แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะจัดการปัญหาเรื่องนี้ได้ โดยเฉพาะโปรแกรมแข่งขันต่างๆ หากไม่มีเหตุการณ์ไม่ปกติในบ้านเมืองจะจัดการได้แน่ ปีหน้าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะสมาคมมีเวลาในการวางแผนงานเพื่อเตรียมทีมชาติสำหรับโอลิมปิกรอบคัดเลือกและฟุตบอลโลกรอบคัดลือก สำหรับปัญหาที่ผ่านมาผมไม่โทษใคร ในฐานะผู้นำองค์กรขอรับผิดชอบและจะทำใหม่ให้ดีที่สุด”

 นายวรวีร์ย้ำว่า ถ้าดูผลงานเป็นนัดอาจจะมองว่าฟุตบอลไทยล้มเหลว แต่ในภาพรวมขอเวลาอีกสัก 1-2 ปี จะเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่าลีกกำลังสร้างนักฟุตบอลที่แข็งแกร่ง เกมที่ไทยแพ้ญี่ปุ่นในเอเชี่ยนเกมส์น่าจะเป็นสัญญาณว่าลีกที่กำลังพัฒนาสามารถสร้างนักเตะให้พัฒนาขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้แล้ว และจะทำให้ทีมไทยมีความหวังมากขึ้น

เหน็บถือป้ายไล่ไม่เป็นธรรม

 ส่วนอนาคตของไบรอัน ร็อบสัน กับการคุมทีมชาติไทย นายวรวีร์กล่าวว่า ร็อบสันมีเวลาไม่มากพอในการทำทีม หากไปปลดออกจากตำแหน่งถือว่าไม่ยุติธรรม แต่ทุกอย่างอยู่ที่ตัวของร็อบสัน ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะให้สิทธิ์ในการทำทีมเต็มที่ จะปรึกษาสภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลเพื่อหาทางพัฒนามากขึ้น แต่อยากจะให้มีทีมเสริมเป็นคณะกรรมการทีมชาติเหมือนในต่างประเทศที่จะคอยสนับสนุนและส่งเสริมการทำทีมชาติไทยแบบรอบด้าน

 “เป้าหมายในฟุตบอลโลก 2014 น่าจะเป็นตัวกำหนดอนาคตที่ชัดเจนของไบรอัน ร็อบสัน ในการทำทีมชาติไทย ส่วนตัวผมเองไม่ยึดติดกับตำแหน่งนายกสมาคมอยู่แล้ว เพราะเป็นนักกีฬามาตลอด หากใครคิดว่าเหมาะสมก็พร้อมเสมอ และนับถือความคิดเห็นของทุกคน ถ้าใครมีปัญหาไม่พอใจผมก็ยินที่จะเชิญมาพุดคุยและเสนอแนะได้ทุกอย่าง แต่ถ้าอยู่ดีๆ มายกป้ายไล่ออกก็ถือว่าไม่ยุติธรรมต่อผม ถ้ามาคุยแล้วเสนอแนะแล้วผมไม่ทำค่อยมาไล่ดีกว่า ผมยินดีคุยกับทำคนเพื่อทำทีมชาติไปให้ไกลที่สุด” นายวรวีร์ กล่าว

หนุน-ต้านโต้ระอุโซเชียล

 ความเคลื่อนไหวของแฟนฟุตบอลชาวไทยโลกไซเบอร์ ต่างแสดงความผิดหวังกับฟอร์มการเล่นอันตกต่ำของทีมชาติไทย หลังสิ้นลายเสืออาเซียนตกรอบแรกศึก “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010” ที่ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมระดมพลไล่นายวรวีร์ และไบรอัน ร็อบสัน ที่อาคารมาลีนนท์ วันที่ 11 ธันวาคม เวลา 09.00 น. และวันที่ 19 ธันวาคม เวลา 10.30 น. ที่สมาคมฟุตบอล ภายในสนามศุภชลาศัย

 สงครามโซเชียลมีเดียระหว่างฝ่ายหนุนและฝ่ายต้านบนเว็บไซต์เฟซบุ๊กตลอดวันที่ 9 ธันวาคม สองฝ่ายต่างงัดเหตุผลและวิจารณ์อีกฝ่ายอย่างเผ็ดร้อน โดยเพจ "มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน ไม่เอาสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยชุดนี้" มีผู้เข้ามาลิงก์กว่า 2 หมื่นราย โพสต์กราฟฟิกระบุข้อความกล่าวอ้างว่า "หนึ่งปีที่ผ่านมา ทีมชาติไทยเราสร้างสถิติใหม่มากมาย 1.วันที่ 24 ธ.ค.2551 ทีมชาติไทยแพ้ ทีมชาติเวียดนาม คาบ้าน เป็นครั้งแรกในรอบ 41 ปี 2.วันที่ 18 พ.ย.2552 ทีมชาติไทย แพ้ทีมชาติสิงคโปร์ คาบ้าน เป็นครั้งแรก ในรอบ 34 ปี 3.วันที่ 11 ธ.ค.2552 ทีมชาติไทย (ชุด 23 ปี) ตกรอบแรกซีเกมส์ เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี ขอบคุณสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ขออวยพรให้พวกท่านมีความสุขสบาย ครองตำแหน่งไปนานๆ ชั่วลูกชั่วหลาน"

 นอกจากนี้บางข้อความแนะนำว่า 

- "1.หาคนวางระบบสมาคม 2.หาโค้ชที่เล่นบอลบนพื้น 3.เปลี่ยนตัวนายกสมาคม 4.เอาพวกเล่นแอ็กๆ ออกไปจากทีม" 

- หรือ "ผลดี ...ของการใช้โค้ชต่างชาติ 1.สร้างความเชื่อมั่นต่อนักเตะ 2.มีระบบ ประสบการณ์ที่มากมาย 3.นำเอาสไตล์การเล่นมาประยุกต์ 4.การันตี ด้วยประเทศมหาอำนาจลูกหนัง 

- ผลเสีย...ของการใช้โค้ชต่างชาติ 1.ไม่รู้จักนักเตะดีพอ /ไม่รู้จักเลย 2.ขาดความทุ่มเท ด้วยใจเต็ม 100 3.การสื่อสารด้านภาษา/วัตนธรรม 4.เปลืองงบมากๆ 5.มาแล้วก็จากไป"

 ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของกลุ่มหนุนบังยีและสมาคมฟุตบอลบนเฟซบุ๊ก เพจ "มั่นใจว่าคนไทยเกิน 10 ล้านคน สนับสนุนสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย" มีผู้เข้ามาลิงก์ประมาณ 500 ราย โพสต์ข้อความว่า "สดุดีนักเตะทีมชาติไทยและทีมงานสตาฟฟ์โค้ช โดนพิษกรรมการเป่าเอนเอียงเสียจุดโทษปัญหาถึงสองครั้งสองครา แต่ไม่มีวอล์กเอาท์เหมือนบางทีมในไทยลีก นี่อาจเป็นผลมาจากการที่ท่านวรวีร์ กำชับนักเตะว่าให้เล่นฟุตบอลอย่างมีสปิริต" รวมทั้ง "อย่ายอมแพ้ครับท่าน จงสู้ต่อไป ยังมีคนไทยกว่า 10 ล้านคน เป็นกำลังใจให้ท่านอยู่ครับ ท่านจำไว้นะครับ.... ปลายทางสวยงาม ... เสมอ"

แฟนจี้ขอโทษ-รื้อสมาคม

 นายพินิจ งามพริ้ง ประธานชมรมเชียร์ไทย และผู้ก่อตั้ง www.cheerthai.com ให้สัมภาษณ์ "คม ชัด ลึก" ถึงเป้าหมายการชุมนุมของแฟนฟุตบอลว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะในโลกอินเทอร์เน็ต หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นพลังขับเคลื่อนของแฟนฟุตบอลชาวไทยที่หมดศรัธา หมดความอดทนต่อการบริหารของนายวรวีร์ จากปัญหาสารพัดที่สะสมมาหลายปี กระทั่งการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 ที่อินโดนีเซีย ทีมชาติไทยฟอร์มย่ำแย่สุดๆ จึงกลายเป็นเชื้อปะทุขึ้น และเริ่มขยายวงออกไปเรื่อยๆ

 ข้อเรียกร้องของแฟนฟุตบอลประการแรกคือ นายวรวีร์ ต้องพ้นจากเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอล ประการที่สอง หากยืนยันที่จะอยู่ต่อ ต้องเสนอแผนปรับโครงสร้างการบริหารให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการเลือกนายกสมาคมฟุตบอล ควรมาจากการโหวตของสมาชิก 3 ฝ่าย คือ สโมสรฟุตบอล ผู้เชี่ยวชาญในวงการ และแฟนฟุตบอล ป้องการการล็อบบี้ตำแหน่ง รวมทั้งคานอำนาจผู้บริหาร และประการสุดท้าย นายวรวีร์ ควรหยุดโทษคนอื่น และรู้จักการขอโทษแฟนฟุตบอลด้วย

ฮึ่ม "บังยี" ไม่ออกเจอไล่ทุกที่

 "คุณวรวีร์ควรพิจารณาตัวเองบ้าง ไม่ใช่โทษการเมือง กรรมการ หรือโปรแกรมการแข่งขัน เพราะคุณมีอำนาจและมีส่วนในการตัดสินใจได้ เมื่อเห็นว่าตารางแข่งมันแน่นเกินไป เบียดเวลาของทีมชาติก็หาทางแก้ไข เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพียงรู้แค่วันสองวัน ทุกอย่างมันอยู่ในมือคุณ เรื่องแบบนี้เหมือนติดกระดุมผิดเม็ดแรกทำให้ผิดไปหมด ดังนั้นถ้าคุณวรวีร์ไม่ลาออก หรือไม่มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงใดๆ เราคงไม่หยุดแค่นี้อาจร้องไปยัง กกท. (การกีฬาแห่งประเทศไทย) ที่สำคัญอาจเกิดปรากฏการณ์ตามไล่ทุกที่ คือทีมไทยไปเตะที่ไหน จะโห่ไล่คุณวรวรีย์ที่นั่น" นาจพินิจ กล่าว

 นายพินิจ กล่าวถึงนักเตะทีมชาติไทยว่า แฟนฟุตบอลให้กำลังใจนักเตะทุกคนเสมอ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดจากการวางแผนที่ผิดพลาดของสมาคมฟุตบอล อย่างพนักงานบริษัทเอกชนทำผิดพลาดซีอีโอก็ต้องรับผิดชอบ การแข่งขันรายการนี้เราไม่พร้อม ต่างกับทีมชาติลาวมุ่งมั่นมากเตรียมตัวนานถึง 4-5 เดือน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์