ตามฝันช้างไทยที่เมืองผู้ดี


สำหรับคอลูกหนังตัวจริงของเมืองไทย ทั้งเป็นผู้เล่นและผู้ชม เชื่อว่าส่วนใหญ่ ชื่นชอบบอลลีกยุโรปเป็นพิเศษ และเชื่อว่านักเตะหลายคน ใฝ่ฝันว่าเสี้ยวหนึ่งของชีวิต จะมีโอกาสได้เหยียบผืนหญ้า และลงโลดแล่นบนสังเวียนลูกหนังเมืองผู้ดี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นตำรับของเกมลูกหนัง


ในอดีตยุคลูกหนังไทย เฟื่องฟู เคยมีนักเตะไทย ก้าวไปเปิดตลาดลูกหนังต่างชาติกันมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีใคร เคยได้ไปเหยียบสังเวียนลูกหนังอังกฤษ สักราย และส่วนใหญ่จะไปเล่นกับ ทีมมหาอำนาจลูกหนังเอเชีย ซะเป็นส่วนใหญ่ หากให้เอ่ยชื่อคงบอกไม่ถูกเพราะจำไม่ได้ แต่ที่รู้และเป็นข่าวไปทั่วประเทศ เห็นจะมีวิทยา เลาหะกุล กับ เดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่ไปสร้างชื่อบนดินแดนเกาหลี แต่พอหมดจากยุคนั้น แข้งไทย ก็จะวนเวียนค้าแข้งอยู่ละแวกอาเซียนซะเป็นส่วนใหญ่

ต่อจากนั้นเข้าถึงยุคผลัดใบของลูกหนังไทย ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คือนักเตะคนแรก ที่ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมฝึกซ้อม กับสโมสรเมืองผู้ดี เมื่อบินไปร่วมทดสอบฝีเท้า กับทีมฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ทีมระดับดิวิชั่น 2 (ขณะนั้น) แต่ด้วยสรีระร่างกายที่บอบบาง และเล็กกว่านักเตะยุโรป ทำให้ ซิโก้ อดเซ็นสัญญากับทีม และบินกลับมาเมืองไทย พร้อมกับประสบการณ์อันล้ำค่า

นอกจากนี้ยังมี ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ที่เคยเป็นเด็กฝึกของคริสตัล พาเลซ และทำผลงานได้ค่อนข้างดี แต่ด้วยยังเป็นนักเตะระดับเยาวชน และยังไม่ติดทีมชาติชุดใหญ่ ทำให้ไม่ได้ใบอนุญาตทำงานหรือเวิร์กเพอร์มิต จึงไม่ได้เซ็นสัญญากับทีมอีกเช่นกัน

แต่เมื่อรอบปีที่ผ่านมา เบียร์ช้าง ได้เซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ทีมระดับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และต่อมาได้จับมือกันริเริ่มโครงการ คัดเลือกนักเตะดาวรุ่งจากประเทศไทย เพื่อเดินทางไปฝึกฝีเท้าเพิ่มเติม พร้อมเข้าคอร์สในระดับอนุปริญญาที่ คร็อกซ์เทธ ในเปรสตัน ตามโปรแกรม ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสโมสรและไมเออร์สคัฟ คอลเลจ ซึ่งนักเตะรุ่นแรกประกอบด้วย ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย, รัตตพล ปิยะวุฒิสกุล และสมปอง สอเหลบ แต่ไปได้ไม่นาน เกิดปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจกัน จึงเหลือเพียงแค่รัตตพล กับ สมปอง เท่านั้นที่อยู่เมืองผู้ดี ต่อ


ช่วงแรกไม่ได้รับการยอมรับเพราะคนไทยตัวเล็ก


เมื่อจบซีซั่น 2004-2005 ขุนพล ทอฟฟี่ ทำผลงานได้เกินคาด จบด้วยอันดับ 4 ของตาราง และคว้าสิทธิ์เล่นบอลยุโรปได้อีกด้วย ทำให้เบียร์ช้าง ยื่นขอต่อสัญญาออกไปอีก และเป็นผลสำเร็จ เมื่อเอฟเวอร์ตัน ตกลงต่อสัญญากับช้าง อีก 3 ปี และโครงการช้างไทย ไปเอฟเวอร์ตัน ก็ยังคงดำเนินต่อไป

ซึ่งการคัดเลือกนักเตะไทย ยังเป็นไปในรูปแบบเดิม คือเปิดคัดนักเตะอายุไม่เกิน 18 ปี ทั่วประเทศให้เหลือเพียงแค่ 3 คน และสามช้างไทย รุ่นที่ 2 ก็คือ ศักรินทร์ จันทร์โยธา, รณชัย รังสิโย และนฤพล อารมณ์สวะ โดยทั้งสามคนจะได้ลงฝึกซ้อมกับอะคาเดมี่เอฟเวอร์ตัน เลยทันทีเป็นเวลา 9 เดือน

ก้าวแรกที่พวกเขาเหยียบสู่อะคาเดมี่เอฟเวอร์ตัน สิ่งที่สามช้างไทย ได้รับคือ การไม่ยอมรับที่เป็นคนเอชียรูปร่างเล็ก แต่ทันทีที่พวกเขาได้มีโอกาสร่วมฝึกซ้อม และลงเล่นทั้งแมตซ์กระชับมิตร และแมตซ์เป็นทางการกับอะคาเดมี่เอฟเวอร์ตัน พวกเขาได้โชว์ฝีเท้า จนทุกคนในทีมต้องยอมรับ และซูฮกความเก่งกาจในฝีเท้านักเตะไทย


โดยเกมแรกของสามช้างไทย ลงประเดิมสีเสื้อ "ทอฟฟี่" คือเกมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ในชุด 17 ปี


ซึ่งเกมนี้เรียกได้ว่าโชคเข้าข้างนักเตะไทย เมื่อเอฟเวอร์ตัน ต้องขาดนักเตะตัวหลักถึง 6 คนโดย 3 คนติดทีมชาติอังกฤษ ยู-17 ปี และอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ ทำให้สตาฟฟ์โค้ชตัดสินใจใส่ชื่อ 3 นักเตะไทย ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงทันที และพวกเขาทำผลงานได้เข้าตาทั้งหมด แถมรณชัย รังสิโย และ ศักรินทร์ จันทร์โยธา ยังตะบันให้ทีมได้คนละเม็ดด้วย แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมเอาชนะได้พ่ายไป3-6

หลังจากนั้นช้างไทย ทั้งสามเชือก ก็ได้รับโอกาสจากโค้ช ทอฟฟี่ จูเนียร์ ส่งลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง และทำผลงานได้ดีขึ้น เรียกได้ว่าทั้งสามพัฒนาฝีเท้าขึ้นทีละขั้น ตลอด 6 สัปดาห์ที่เข้ามาฝึกปรือฝีเท้า โดยทีมอะคาเดมี่ เอฟเวอร์ตัน ลงสนามไปแล้ว 7 นัด แบ่งเป็นลีกของอะคาเดมี่ 5 นัด แพ้ ลีด 2-6 รณชัย รังสิโย และ ศักรินทร์ จันทรโยธา ยิงคนละ 1 ลูก, ชนะ ฮัดเดอร์ฟิลล์ 2-1 นฤพล อารมณ์สวะ ยิง 1 ลูก, ชนะ ดาร์บี้ 1-0 นฤพล เปิดให้เพื่อนร่วมทีมยิง, เสมอ เวสบรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1, ชนะ ลิเวอร์พูล 5-1 ศักรินทร์ จันทรโยธา ยิงแฮตทริก, รณชัย รังสิโย ยิง 2 ประตู ส่วนเกมนอกลีก เสมอ เซาร์พอร์ท 2-2 นฤพล ยิง 1 ลูก และ เฟรนลี่แมตช์ ชนะ แมนซิตี้ 2-0 ศักรินทร์ ยิง 1 ลูก โดยแทบทุกเกม ต้องมีชื่อนักเตะไทย เป็นผู้ผลิตสกอร์ หรือไม่ก็เป็นคนผ่าน ให้เพื่อนร่วมทีมเข้าสังหารประตู


เกมล่าสุดเจ้าแซมรณชัย ซัดประตูตีเสมอให้ทอฟฟี่ เมื่อเปิดรังเจอกุหลาบไฟ


รวมถึงเกมล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ขุนพล ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน เปิดรังไล่ตีเสมอ กุหลาบไฟ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 โดยประตูตีเสมอก็มาจากการเข้าทำของ 2 นักเตะไทยเมื่อ เจ้าโก้ ศักรินทร์ จันทร์โยธา โดนผู้รักษาประตูของแบล็คเบิร์น รวบขาล้มลงในกรอบเขตโทษ และเป็น เจ้าแซม รณชัย รังสิโย รับหน้าที่สังหารเข้าประตูไปไม่เหลือซาก

เห็นได้ว่าตลอดเวลาเดือนเศษ แข้งไทย ทั้งสามคน สามารถปรับตัวให้เข้า กับระบบการเล่นเมืองผู้ดี ได้อย่างรวดเร็ว แม้ชีวิตการเป็นอยู่ของทั้งสาม จะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อแต่ละคนต่างเข้าพักโฮมสเตย์ หรือแฟมิลี่ หลังละ 1 คน จะมีโอกาสได้พบกันก็ต่อเมื่อ ไปเรียนและฝึกซ้อมเท่านั้น ที่สำคัญพวกเขายังต้องเผชิญกับ ปัญหาเรื่องภาษาที่ยังพูดแบบงูๆ ปลาๆ ทำให้สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ยังดีที่มี โค้ชจุ่น จตุพร ประมลบาล เป็นพี่เลี้ยงให้


ผลงานดีมีโอกาสติดตัวสำรองสูง นัดถัดไปของ3ช้างไทย คือบุกสุสานผีแดง

ด้วยผลงานของทั้งสามคนที่ผ่านมา เป็นที่ถูกใจ เรย์ ฮอลล์ ผอ.ศูนย์ฝึกของเอฟเวอร์ตัน เป็นอย่างมากถึงกับเอ่ยปากชื่นชมว่า เป็นนักเตะที่มีอนาคต และมีโอกาสที่จะเซ็นสัญญา เป็นนักเตะของอะคาเดมี่ แบบเต็มตัวอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม นอกจากนี้ฮอลล์ยังบอกอีกว่าทั้งสามคนมีโอกาสที่จะก้าวจากเยาวชนนักเตะอะคาเดมี่ ของเอฟเวอร์ตัน ขยับไปเป็นนักเตะทีมสำรองก็มีสูง แต่ว่าจะมีปัญหาเรื่องเวิร์กเพอร์มิตเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หากไม่สามารถขึ้นไปเล่นทีมสำรอง พร้อมกันได้ 3 คน ก็จะเลือกคนที่ดีที่สุดขึ้นไปเล่น


หลังจากนี้อีก 8 เดือนช้างไทย ทั้งสามเชือก ต้องอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเอง เมื่อพี่เลี้ยงของเขา ต้องบินกลับบ้านเกิด ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือ นับว่าเป็นบททดสอบที่ดียิ่ง ว่าพวกเขาดีพอที่จะสะกดชื่อของตัวเอง ว่าเป็นนัมเบอร์วันของเมืองไทย ที่เซ็นสัญญาเป็นนักเตะกับสโมสรเมืองผู้ดี ได้หรือไม่ โดยโปรแกรมนัดต่อไปของพวกเขาคือ เกมบุกถ้ำ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม อะคาเดมี่ ลีก วันเสาร์ที่ 15 ต.ค. นี้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์