กิเลนยิ้มร่าจ่อแชมป์ไทยลีก,วางใจปีหน้าเรเน่คุมต่อ

กิเลนยิ้มร่าจ่อแชมป์ไทยลีก,วางใจปีหน้าเรเน่คุมต่อ

กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยิ้มร่าหลังผลคู่ ชลบุรี เอฟซี กับบุรีรัมย์ พีอีเอ ออกเสมอ ทำให้ตัดทีม ฉลามชล ออกจากสารบบลุ้นแชมป์ไปแล้ว เหลือแค่ บุรีรัมย์ พีอีเอ เท่านั้น มั่นใจอีกแค่ 1 แต้ม ที่ต้องการทำได้แน่นอน เชื่อหลังจบเกมที่จะไปเยือน เอสซีจี สมุทรสงคราม ศุกร์ที่ 22 ต.ค. นี้ ทีมจะได้ฉลองแชมป์กันล่วงหน้า ขณะที่อนาคต เรเน่ เดอซาเยียร์ สดใส หลังน่าจะไม่พลาดพาทีมป้องกันแชมป์เอาไว้ได้แถมอีก 3 รายการก็ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์


แข้ง กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่เดินทางมาปักหลักอยู่ในเมืองอเลปโป ประเทศซีเรีย เพื่อทำศึกเอเอฟซี คัพ 2010 รอบรองฯ นัด 2 กับเจ้าถิ่นอัล อิตติฮัด ในวันที่ 19 ต.ค. 53 นี้ ตรงกับเวลาไทย 00.00 น. นั้น ต่างดีใจกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นทีมงานสตาฟฟ์โค้ช หรือนักเตะเองก็ตาม
เมื่อรับข่าวผลการแข่งขันเกมสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่ 29 ของทีมชลบุรี และนัดที่ 28 ของบุรีรัมย์ พีอีเอ ในถิ่นของ ฉลามชล เมื่ออาทิตย์ที่ 18 ต.ค. 53 ที่ผ่านมา ที่ลงเอยด้วยผลเสมอกันไป 2-2
ซึ่งผลเสมอในเกมดังกล่าว ทำให้ทีมรองแชมป์เก่า 2 ปีติดต่อกันก่อนหน้านี้อย่าง ชลบุรี หมดลุ้นแชมป์ไปแล้ว แต่ บุรีรีมย์ พีอีเอ ยังมีลุ้นแชมป์อยู่ ซึ่ง ชลบุรี เตะไปแล้ว 29 นัด มี 59 แต้มตามหลังเมืองทองฯ 4 แต้ม แม้จะชนะในนัดสุดท้าย ก็ไม่มีทางได้แชมป์อยู่ดี เหลือลุ้นแค่รองแชมป์เท่านั้น
ขณะที่บุรีรัมย์ พีอีเอยังมีลุ้นแชมป์อยู่ โดยต้องให้เมืองทองฯ ยูไนเต็ดจ่าฝูงแชมป์เก่าแพ้ 2 นัดที่เหลือต่อเอสซีจี สมุทรสงคราม ในการไปเยือน 22 ต.ค. นี้ และปิดท้ายด้วยการเยือนทีโอที แคท เอฟซี 24 ต.ค. ที่จะถึง
แล้วทีม ปราสาทสายฟ้า ต้องชนะรวดต่อศรีสะเกษ เมืองไทย ในนัด 28 ที่ต้องไปเยือน 20 ต.ค. นี้ และปิดท้ายเกมในบ้านที่จะพบกับอินทรีเพื่อนตำรวจ 24 ต.ค. ถึงจะได้แชมป์โดยจะมีแต้มเท่ากับเมืองทองฯ แต่เฮด ทู เฮดจะดีกว่า กิเลนผยอง เพราะเลกแรกบุกมาเสมอ 0-0 ก่อนจะกลับไปชนะได้ในบ้านตัวเอง 1-0
จากสถานการณ์ดังกล่าว ถือว่าโอกาสที่เมืองทองฯ จะคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ได้นั้นถือว่ามีสูง เพราะคู่ต่อสู้อย่างเอสซีจี สมุทรสงครามกับ ทีโอที แคท นั้นรอดตกชั้นไปแน่นอนแล้ว การที่ทีมเมืองทองฯ จะเก็บอีก 1 แต้ม จาก 2 นัดที่เหลืออยู่ จึงไม่น่าเป็นเรื่องยาก
ล่าสุดนั้นบรรดานักเตะในทีมต่างแสดงความมั่นใจกันทุกคนว่า ทีมเมืองทองฯ จะป้องกันแชมป์ได้สำเร็จแน่นอน เช่นเดียวกับ เสี่ยเป้ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไปของสโมสรที่เชื่อว่าลูกทีมจะทำได้ ขณะที่ เรเน่ เดอซาเยียร์ ก็มั่นใจสุดๆ ว่า เขาจะเป็นกุนซือต่างชาติรายที่ 3 ต่อจาก เจสัน ลีวิธ ชาวอังกฤษ ที่เคยพาบีอีซี เทโรฯ และ โจเซ่ อัลเวส เบอร์วิช ที่เคยพาทีทีเอ็ม พิจิตรสมัยเป็นทีมพนักงานยาสูบคว้าแชมป์ไทยลีกได้ ได้อย่างแน่นอน
โดย เรเน่ บอกด้วยว่า ต้องการจะทำแต้มให้ได้มากกว่าฤดูกาลที่แล้วที่เมืองทองฯ ทำไว้ที่ 65 แต้มด้วย โดยขณะนี้เมืองทองฯ เตะไป 28 นัด มี 63 แต้มแล้ว


วางใจกุนซือเบลเยียมคุมทัพต่อ

เสี่ยเป้ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ยังได้ออกมากล่าวอีกด้วยว่า ปีนี้ผมเชื่อว่าแชมป์ไม่น่าจะหลุดมือจากทีมเมืองทองฯ ไปแน่นอน แม้คำว่าเกมลูกหนังฟุตบอลลูกกลมๆ จะไม่มีอะไรแน่นอน แต่ถึงขณะนี้กับอีกแค่ 1 แต้มจาก 2 นัดนั้นผมเชื่อว่าเราจะทำได้สำเร็จเพราะนักเตะทุกคนมีความเชื่อมั่นและมั่น ใจกันสุดขีด โดยเฉพาะหลังจากที่ทราบผลว่า ชลบุรี เสมอกับ บุรีรัมย์ ซึ่งเท่ากับตัดชลบุรีออกจากการลุ้นแชมป์ไปแล้ว
ขณะที่บุรีรัมย์ พีอีเอ ต้องชนะรวดแล้วต้องให้เราแพ้รวดทั้ง 2 เกมซึ่งคงเกิดขึ้นได้น้อยมากกับสถานการณ์ดังกล่าว ผมเชื่อว่าหลังจบเกมที่เราต้องไปเยือนเอสซีจี สมุทรสงครามในวันที่ 20 ต.ค. นี้ เราจะคว้าแชมป์มาครองได้ทันที เพราะเราต้องการอีกแค่ 1 แต้มจาก 2 เกมที่เหลือเท่านั้น ผมเชื่อว่าลูกทีมทุกคนทำได้แน่นอน และแฟนๆ ทีมเมืองทองฯ คงจะได้ฉลองอย่างมีความสุขร่วมกันแน่นอนหลังจบเกมกับเอสซีจี สมุทรสงคราม
ถ้าเราได้แชมป์ไทยลีกเท่ากับว่าปี 53 นี้เราได้แชมป์แล้ว 2 รายการคือถ้วย ก กับ ไทยลีก เรายังเหลืออีก 3 รายการให้ลุ้นทั้งเอเอฟซี คัพ, ไทยคม เอฟเอ คัพ ที่ผ่านถึงรอบก่อนรองฯ ได้แล้ว และโตโยต้า ลีก คัพ อีกรายการที่เราเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ด้วยผลงานที่ออกมาเช่นนี้เราคงจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวกุนซือไปจาก เรเน่ เดอซาเยียร์ แน่นอน เพราะถือว่าเขามีผลงานที่พาเราป้องกันแชมป์ไทยลีกเอาไว้ได้ และรายการอื่นๆ ก็มีลุ้นแชมป์อยู่ทุกรายการด้วย เชื่อว่าบอร์ดบริหารทีมน่าจะไว้วางใจให้เขาทำทีมเราต่อไปในฤดูกาลหน้า ส่วนจะขยายสัญญาต่อไปอีกหรือไม่นั้นค่อยพิจารณากันอีกที เนื่องจากสัญญาเดิมของเขาจะยังคุมทีมต่อไปอีก 1 ปีคือปี 2554 เสี่ยเป้กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์