เเม่เจ้า...ปี 2026 ไทยเล็งยื่นจัดบอลโลก




นายวรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย พร้อมด้วย นายชุมพล ศิลปอาชา รมต.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มองว่าประเทศไทยมีโอกาสเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2026 ส่วนพื้นที่เนรมิตสนามรองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตซอลโลก 2012 คาดลงตัวที่ภายใน กกท.
       
       เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ.2553 เวลา 14.00 น. วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ, อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ, กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าพบ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
       
       โดยการเข้าพบครั้งนี้มีสาระสำคัญอยู่ที่การนัดแนะเรื่องการสัมมนาหัวข้อ “ประเทศไทยกับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก” ในวันจันทร์ที่ 6 กันยายนนี้ เวลา 8.00 น. ที่อาคารรัฐสภา 2 ซึ่งจะอธิบายถึงขั้นตอนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพว่าจะต้องทำอะไรบ้างและเตรียมการพัฒนาด้านใดบ้าง ทั้งในส่วนของสนามแข่งขัน โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม เป็นต้น โดยมองว่าโอกาสที่ไทยจะยื่นขอเป็นเจ้าภาพอยู่ที่ปี 2026 เป็นต้นไป
       
       ทั้งนี้ นายชุมพล แสดงความคิดเห็นในเบื้องต้นว่ามีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะเสนอตัวรับหน้าเสื่อโดยไม่ต้องเป็นเจ้าภาพร่วม เนื่องจากมีเมืองใหญ่ที่มีความพร้อมกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ อาทิ ชลบุรี, นครราชสีมา, เชียงใหม่, สงขลา, สุพรรณบุรี เป็นต้น เพียงแต่ต้องปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้ได้ตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กำหนด รวมถึงการพัฒนานักเตะไล่ตั้งแต่ระดับเยาวชนขึ้นมา เพื่อให้ทีมชาติมีศักยภาพที่แข็งแกร่งสมฐานะเจ้าภาพฟุตบอลโลก
       
       ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือการเป็นเจ้าภาพจัดฟุตซอลชิงแชมป์โลก ปี 2012 ซึ่งได้มีการหารือว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ประกอบด้วย คณะกรรมการอำนวยการกลาง ที่จะให้ “นายกมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน, คณะกรรมการบริหารการจัดการแข่งขัน ซึ่ง นายชุมพล เป็นประธาน และ คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ที่มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานสภาที่ปรึกษา สภานายกกิตติมศักดิ์ สมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธาน
       
       นอกจากนั้นยังหารือกันถึงเรื่องหาพื้นที่สร้างสนามฟุตซอลสำหรับใช้ในพิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขัน ซึ่งต้องมีความจุ 10,000-15,000 ที่นั่งตามที่ฟีฟ่ากำหนด โดยเบื้องต้นคาดว่าจะตัดตัวเลือกอย่าง หนองจอก และ การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่สะดวกในเรื่องการเดินทางและการขอใช้พื้นที่ออก และน่าจะลงตัวที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเล็งใช้พื้นที่บริเวณสนามยิงเป้าบินในการสร้าง ส่วน อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ก็ให้ปรับปรุงภายใต้งบ 150 ล้านบาท โดยไม่ต้องทุบทิ้งเพื่อสร้างสนามขึ้นมาใหม่

ขอบคุณเนื้อหาและภาพจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์