ฮอตไม่เลิก!ฉลามกินปลาทู4-1เทิดศักดิ์โชว์เหนือส่องฟรีคิกขึ้นนำก่อน

ฮอตไม่เลิก!ฉลามกินปลาทู4-1เทิดศักดิ์โชว์เหนือส่องฟรีคิกขึ้นนำก่อน

ชลบุรี เอฟซี 4 - เอสซีจี สมุทรสงคราม 1

 
ที่สนาม ส.พล.ชลบุรี  เป็นการพบกันของ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ทีมรองจ่าฝูงจาก ไทยลีก ที่ผ่านรอบ 3 มาด้วยการชนะ สมุทรสาคร เจเค 1-0  เปิดบ้านพบกับ ปลาทูคะนอง เอสซีจี สมุทรสงคราม ทีมจาก ไทยลีก เช่นเดียวกัน  อันดับที่ 10 ที่ผ่านรอบ 3 มาด้วยการชนะ เอฟซี ภูเก็ต ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-1 หลังเสมอในเวลาปกติ 1-1 โดยทั้งสองทีมเคยพบกันมาในลีก  ปรากฏว่านัดแรกที่สนามแห่งนี้ เอสซีจีฯ บุกมายันเสมอไว้ได้ 0-0 ทว่าเลกสองเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชลบุรี เพิ่งบุกไปชนะ เอสซีจีฯ ได้ถึงถิ่น 3-0
      

ฉลามชุดใหญ่, ปลาทูชุดเล็ก

 
สำหรับผู้เล่นในเกมนี้ที่เจ้าบ้านจัดลงสนาม  ถือเป็นชุดใหญ่ขาดเพียงภูริฑัต  จาริกานนท์ มิดฟิลด์ตัวตัดเกมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น  ทว่าที่เหลือลงกันครบครัน  ทั้งเทิดศักดิ์  ใจมั่น, พิภพ  อ่อนโม้, สุรีย์  สุขะ, เอกพันธ์  อินทะเสน, ณัฐพงษ์  สมณะ ฯลฯ  ส่วนทีมเยือนพักผู้เล่นตัวหลักหลายคน  ประกอบกับติด คัพ ไท ไม่สามารถลงเล่นได้  แต่ยังนำทัพโดยจีรวัฒน์  แก้วโบราณ, สิทธิพันธ์  ชุมช่วย, อภินันท์  แก้วปีลา ฯลฯ


      

เทิดศักดิ์ส่องฟรีคิก ชลฯ นำ 1-0

 
เริ่มเกมมาได้นาทีเดียว ชลบุรี ได้ลุ้นก่อน  เมื่อ เอกพันธ์  อินทะเสน เปิดบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาไปที่เสาแรกเหมือนไม่มีอะไร  แต่เอกศักดิ์  บัวเบา กองหลังทีมเยือนแหย่เท้าสกัด  บอลปลิ้นเข้ากรอบประตู  แต่ยังดีที่พุทธศาสน์  บุญปก นายทวาร เอสซีจีฯ ไม่เผลอ  กระโดดรับไว้ได้หวุดหวิด และจากจังหวะดังกล่าว พุทธศาสน์ ขว้างบอลโต้กลับไว  ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น ไตรภพ  ชูชื่นกลิ่น กองกลางตัวเก่งของ ปลาทู จะได้สับไกเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ  บอลพุ่งแหวกอากาศก่อนพุ่งชนคานอย่างจัง  ชวดออกนำเจ้าบ้านอย่างน่าเสียดาย
 

น.5 ชลบุรี ก็เบิกสกอร์แรกได้สำเร็จ  เมื่อได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา  และเป็น น้าเทิด เทิดศักดิ์  ใจมั่น เพลเมกเกอร์จอมเก๋าที่รับหน้าที่ปั่นหนีกำแพงเสียบเสาสองเข้าประตูไปอย่างสวยงาม  ให้ ชลบุรี ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0
หลังได้ประตูออกนำ  ทำให้ ชลบุรี เล่นอย่างไร้ความกดดัน  และ น.7 ก็ได้ลุ้นยิงประตูอีกครั้ง  เมื่อ ภานุวัฒน์  จินตะ จ่ายบอลทะลุช่องให้ พิภพ  อ่อนโม้ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษฝั่งซ้ายเต็มข้อ  ทว่าบอลไม่ตรงกรอบไปเข้าข้างหน้าต่างอย่างน่าเสียดาย
 

จากนั้น เอสซีจีฯ พยายามเปิดเกมบุกหวังเอาตีเสมอให้ได้เหมือนกัน  ซึ่งก็มีโอกาสใน น.11 จากการยิงไกลกว่า 30 หลาของ ไตรภพ  ชูชื่นกลิ่น ทว่าหนนี้ สินทวีชัย  หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตู ฉลามชล ยังปัดบอลข้ามคานออกไปได้น.15 เอกภูมิ  โพธารุ่งโรจน์ ปีกร่างเล็กตัวจี๊ดของทีมเยือน  มีพื้นที่เล่นดวลกับ สุรีย์  สุขะ แบ็กขวาทีมชาติไทยตัวต่อตัว  ก่อนกระชากบอลหลุดเข้าไปถึงเส้นหลัง  แต่จังหวะยิงมี สินทวีชัย  หทัยรัตนกุล นายทวาร ชลบุรี ออกมาปิดมุมไว้ได้ทัน  ทำให้ได้เพียงลูกเตะมุมเท่านั้น
 

  เกมของทีมเยือนเริ่มดีขึ้นตามลำดับ  และมีโอกาสได้ครองบอลบุกมากกว่าจนมาได้ลุ้นอีกครั้งจากการยิงโล่งๆ หน้ากรอบเขตโทษของ เอกภูมิ  โพธารุ่งโรจน์ น.21 ทว่าบอลเจ้ากรรมดันไม่ตรงกรอบ  เกมผ่านมาครบครึ่งชั่วโมงของเกม ชลบุรี หลังจากขึ้นนำก็ไม่มีโอกาสจบสกอร์เลย  แถมยังเกือบโดนตีเสมอด้วยจาก สิทธิพันธ์  ชุมช่วย ที่ได้จังหวะสับไกยิงเต็มข้อหน้าเขตโทษ  แต่บอลเบาเกินไป สินทวีชัย รับเข้าซองสบาย
 

หลังจากที่บุกอยู่เพลินๆ น.39 ทีมเยือนก็มาโดนนำห่างจนได้  เมื่อ ฌูลล์ บาก้า จ่ายบอลออกทางขวาให้ สุรีย์  สุขะ ที่เติมเกมขึ้นมาเปิดไปที่เสาสองคืนให้กับ ฌูลล์ บาก้า อีกครั้ง  ก่อนที่ดาวยิงต่างชาติจะโหม่งกลับมาที่เสาแรกให้ พิภพ  อ่อนโม้ เข้าชาร์จจ่อๆ ระยะแค่หลาเดียวตุงตาข่าย  ให้ ชลบุรี นำ 2-0 ก่อนจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้
 

ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันใหม่  ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัว  โดยใช้ผู้เล่นชุดเดิมลงสนามทั้งหมด  และเปิดฉากมาแค่ 5 นาที  เจ้าบเนได้ลุ้นประตูที่สามก่อน  จากฟรีคิกของ เทิดศักดิ์  ใจมั่น ที่เปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษ  แต่บอลลึกไปเข้ามือ พุทธศาสตร์  บุญปก นายทวาร เอสซีจีฯ รับเข้าซองไว้ได้
 

  น.55 เอาซีจีฯ ทำเกมขึ้นมาลุ้นบ้าง  และหนนี้ต่อบอลกันได้สวย  โดย สิทธิพันธ์  ชุมช่วย ทำชิ่งกับ ไตรภพ  ชูชื่นกลิ่น ก่อนที่ สิทธิพันธ์ จะได้บอลและสับไกยิงบนเส้น 18 หลา  แต่ สินทวีชัย นายทวาร ชลบุรีฯ ยังเซฟไว้ได้  และถัดมานาทีเดียว สุรีย์  สุขะ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ  ทว่าจังหวะซัดกลับติดเซฟของ พทธศาสตร์  บุญปก ผู้รักษาประตู เอสซีจีฯ ที่ออกมาบล็อกไว้ได้ทัน
 

เกมทำท่าเหมือนไม่มีอะไร  แต่ น.68 เจ้าถิ่นสามารถใส่สกอร์ที่สามให้ทีมตนเองได้  เมื่อ เดฟ  ซิมสัน กองหน้าผิสีที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงไป  จ่ายให้ พิพภ  อ่อนโม้ หลุดเข้าไปในเขตโทษ  ก่อนโดน พุทธศาสตร์  บุญปก นายทวาร เอสซีจีฯ ออกมาทำฟาล์ว  ทำให้ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ  และ “น้าเทิด” เทิดศักดิ์  ใจมั่น รับหน้าที่สังหารไม่พลาด  ให้ ชลบุรีฯ นำห่าง 3-0 และเป็นประตูที่สองของ “น้าเทิด” ในเกมนี้
 

จากนั้น น.76 ทีมเยือนได้ประตูตีตื้น  จากจังหวะที่ ดียุฟ บีรัม บีรัม หลุดเดี่ยวจากกลางสนามเข้าไปดวลกัลป์ สินทวีชัย  หทัยรัตนกุล นายทวารเจ้าบ้านตัวต่อตัว  ทว่าดาวยิงผิวสีกลับซัดติดเซฟของผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติไทย  แต่บอลยังมาเข้าทาง ดียุฟ บีรัม และจังหวะนี้ สุทธินันท์  พุกหอม กองหลังชลบุรีฯ ไปดุง บีรัม ล้มลง  ผู้ตัดสินเป่าให้ทีมเยือนได้ลูกจุดโทษทันที  โดย มิเชล ชาร์ลีน กองกลางตัวรับของทีมรับหน้าที่สังหาร  แต่ติดเซฟของ สินทวีชัย ทว่าจีรวัฒน์  แก้วโบราณ กองหน้ากัปตันทีมเป็นคนเดียวที่วิ่งเข้าไปซ้ำเต็มข้อตุงตาข่าย  ให้ ปลาทูคะนอง ไล่มา 1-3
 

หลังตีไข่แตกได้แต่เจ้าถิ่นไม่เสียกระบวน  และ น.82 ก็มาได้ประตูนำห่างออกไปอีกครั้ง  เมื่อ ณัฐพงษ์  สมณะ เปิดบอลจากเส้นหลังฝั่งซ้ายไปบริเวณจุดโทษให้ เอกพันธ์  อินทะเสน แต่บอลหลุดไปถึง สุรีย์  สุขะ ที่ยืนรอเก็บตกอยู่  ซัดไม่เหลือซากให้ ชลบุรีฯ นำ 4-1
 

ท้ายเกม น.86 เจ้าถิ่นส่ง  ภูริฑัต  จาริกานนท์ กองกลางดาวรุ่งลงสนาม  และ ชลบุรีฯ ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนทันที  เมื่อ ภูริฑัต อยู่ในสนามได้ไม่ถึงนาทีก็ต้องโดนไล่ออก  หลังไปพุ่งเสียบ ไตรภพ  ชูชื่นกลิ่น ทำให้ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามไป  โดย เจ้าแบง ถึงกับยกมือขอโทษแฟนบอลทั้งสนาม  ก่อนที่เวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูกันได้เพิ่ม  จบเกม ชลบุรีฯ เปิดบ้านชนะ เอสซีจี สมุทรสงครามฯ 4-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 ต่อไป  ส่วน เอสซีจีฯ ตกรอบนี้รับเงินไป 5 หมื่นบาท


 


คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม 
ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย  หทัยรัตนกุล 7, สุรีย์  สุขะ 7, ณัฐพงษ์  สมณะ 6.5, สุทธินันท์  พุกหอม 6.5, ชลทิศ  จันทคาม 6.5, ภานุวัฒน์  จินตะ 6.5, เทิดศักดิ์  ใจมั่น 7 (ภูริฑัต  จาริกานนท์ -), อดุล  หละโสะ 6, เอกพันธ์  อินทะเสน 6.5, ฌูลล์ บาก้า 5.5 (เดฟ ซิมสัน 6), พิภพ  อ่อนโม้ 6.5 (สุกรี  อีแต 5) 
เอสซีจี สมุทรสงคราม : พุทธศาสตร์  บุญปก 5, อภินันท์  แก้วปีลา 5.5 (พัชรินทรท์  สุกใส 5), กันตภณ  สมพิทยานุรักษ์ 5, เซเลสเตียน 5.5 (เอลวิส 5), เอกศักดิ์  บัวเบา 5.5, ไตรภพ  ชูชื่นกลิ่น 6, พิทวัส  ทองแพง 5 (ดิยุฟ บีรัม 5.5), มิเชล  ชาร์ลีน 5, สิทธิพันธ์  ชุมช่วย 5.5, เอกภูมิ  โพธารุ่งโรจน์ 6, จิรวัฒน์  แก้วโบราณ 5.5


 


สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปวันที่ 26 ส.ค. นี้ ในศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ มี 2 คู่ระหว่าง ทหารบก พบกับ บุรีรัมย์ พีอีเอ ที่สนามกองทัพบก เวลา 18.00 น. ขณะที่อีกคู่ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด เวลา 19.00 น. ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม



src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O100825B1U6O.jpg


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์