หรั่ง ฟุ้งลูกหนังไทยสู้ได้ทุกทีม

กุนซือทีมชาติไทย “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ฟุ้งทีมลูกหนังไทยสู้ได้ทุกทีม

เพียงแต่ขาดเรื่องความสำเร็จเท่านั้น ปลื้มใจแฟนบอลเข้าใจเกมฟุตบอล ลั่นพาทีมไทยก้าวขึ้นระดับเอเชีย ส่วนแผนการเตรียมทีมซีเกมส์ต้องรอนโยบายที่ชัดเจนก่อนออกสตาร์ทเดินเครื่อง แย้มตัวผู้เล่นยึดตัวเก่าจากแชมป์ที่ฟิลิปปินส์และเอเชี่ยนเกมส์เป็นหลัก พร้อมส่งสตาฟฟ์โค้ชลงพื้นที่ดูนักเตะในศึกลูกหนังไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก ชี้หากฟุตบอลลีกเริ่มเร็วจะเป็นผลดีต่อการเตรียมทีมชาติไทย

แม้จะทำทีมตกรอบแรกในลูกหนัง "เอเชี่ยนคัพ 2007"
 
แต่ "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ยังได้รับความไว้วางใจให้ทำทีมชาติไทยต่อไปเพื่อเตรียมทีมเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 6-15 ธันวาคมนี้ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ช่วงปลายปี และฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ที่จะเริ่มแข่งขันในปี 2008

ล่าสุด “โค้ชหรั่ง” เปิดเผยว่า

การเตรียมทีมสู้ศึก 3 รายการใหญ่นั้นตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะกำหนดแผนการเตรียมทีมได้ เพราะต้องรอนโยบายผู้จัดการทีมและสมาคมฟุตบอล อีกทั้งต้องดูโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์  พรีเมียร์ลีกก่อน แต่ในภาพรวมแล้วยังใช้วิธีการเดิมอยู่คือในช่วงการแข่งขันฟุตบอลลีกจะส่งสตาฟฟ์โค้ชไปดูนักเตะที่อยู่ในข่ายทุกสนาม ก่อนที่จะมาร่วมพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้จะพิเศษกว่าครั้งที่ผ่านมาคือจะคัดเลือกนักเตะเฉพาะที่อยู่ในข่ายเท่านั้นเนื่องจากระยะเวลามีจำกัด 

 กุนซือทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า
 
ในส่วนตัวนักเตะจะพิจารณาจากชุดซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ยังเล่นได้ประมาณ 5-6 คน จากชุดเอเชี่ยนเกมส์ ที่โดฮา ประเทศกาตาร์ รวมทั้งจากการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะเรียกประมาณ 25-30 คน ซึ่งจะทำควบคู่กับนักเตะชุดใหญ่อีกส่วนหนึ่งสำหรับเตรียมทีมเพื่อลงสู้ศึกลูกหนังชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ดังนั้นถ้าโปรแกรมฟุตบอลลีกเลื่อนมาเตะเร็วขึ้นจะเป็นผลดีต่อการเตรียมทีมชาติไทยโดยเฉพาะศึกซีเกมส์ ที่จะต้องคว้าแชมป์มาครองให้ได้

  ผมคิดว่าตอนนี้แฟนฟุตบอลเข้าใจว่าฟุตบอลคืออะไรแล้ว

“บางครั้งเล่นดี แต่ไม่ชนะ อย่างการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าทีมไทยเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก เรื่องวิธีการเล่นสามารถที่จะสู้ได้ทุกทีม แต่สิ่งที่ขาดเพียงอย่างเดียวคือความสำเร็จเท่านั้น เมื่อแฟนบอลเข้าใจดีแล้วอย่างนี้ผมทำทีมถึงไหนถึงกัน เชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน มีงบประมาณเตรียมทีมที่เพียงพอ ความสำเร็จที่จะก้าวขึ้นเทียบชั้นเอเชียอยู่แค่เอื้อม”