ยีลั่น 50 ล้านไม่พอ สั่งทุ่มทุนสู้บอลโลก

ประมุขลูกหนังไทย “บังยี” วรวีร์ มะกูดี

ประกาศทุ่มทุนสู้เต็มที่เพื่อล่าฝันฟุตบอลโลก 2010 หยันแค่ 50 ล้านบาทไม่พอสานฝันคนไทย มั่นใจวินาทีนี้นักเตะไทยพร้อมต่อกรทุกชาติ แต่ต้องรอลุ้นผลจับสลากแบ่งสายรอบคัดเลือกในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อดูโอกาสฝันเป็นจริง พร้อมสั่งเคลียร์โปรแกรมเตะ “ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก” อาจร่นให้กลับมาเตะเร็วขึ้นเพื่อเปิดทางให้การเตรียมทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ แย้มแนวทางทำงานดึงคีย์แมนมากฝีมากทั้ง “บิ๊กหอย” ธวัชชัย สัจจกุล, “บิ๊กกร๊อง” วิรัช ชาญพานิชย์ และ “กาเซ็ม” เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ร่วมเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาทีมชาติไทย ที่ห้องอาหารโฮ คิทเช่น สี่แยกเหม่งจ๋าย

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม

มีการจัดเลี้ยงขอบคุณนักเตะทีมชาติไทยชุดสู้ศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย หรือ “เอเชี่ยนคัพ 2007” พร้อมทั้งเลี้ยงส่ง รุด ไมส์เนอร์ นักกายภาพชาวเยอรมัน ที่กำลังจะเดินทางกลับประเทศ รวมถึงเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดให้ “เป็ด” นิเวส ศิริวงค์ ปราการหลังตัวเก่งที่อายุครบ 30 ปี

 “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า

ก่อนอื่นคงต้องขอบคุณแฟนบอลที่ให้กำลังใจนักเตะทีมชาติไทยเป็นอย่างดีในเอเชี่ยนคัพที่ผ่านมา แม้ว่าผลงานของทีมอาจจะไม่เป็นที่น่าพอใจอย่างที่หวัง แต่ทุกคนพยายามกันสุดความสามารถแล้วและต้องบอกว่าตอนนี้ทีมชาติไทยกำลังเดินมาถูกทาง ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลขอบอกว่าขอเวลาอีกนิดรับรองว่าจะสร้างทีมชาติไทยให้เป็นทีมชุดที่ดีที่สุด

นายกสมาคมลูกหนังไทย ยังกล่าวอีกว่า

เป้าหมายต่อจากนี้ไปคือซีเกมส์ คิงส์คัพ และ ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โดยจะมอบหมายให้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง และ ชาญวิทย์ ผลชีวิน ร่วมกันทำงานในฐานะผู้จัดการทีมและหัวหน้าผู้ฝึกสอนเหมือนเดิม เพราะต้องการให้การทำงานมีศูนย์กลางอยู่ที่เดียว แต่จะดึงเอาคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมทำงาน

 “สมาคมฟุตบอลต้องการคนมีความสามารถเข้ามาช่วยกันทำงานเยอะๆ ไม่ใช่ว่า

ให้ทีมงานชุดเดิมทำงานแล้วจะไม่มีคนอื่นเข้ามาช่วย ผมอยากจะได้คนมีฝีมือทั้ง ธวัชชัย สัจจกุล, วิรัช ชาญพานิชย์ รวมถึง เกษม จริยวัฒน์วงศ์ เข้ามาร่วมทำงานเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาด้วย ซึ่งเป้าหมายขั้นต้นจากนี้ไปคือต้องได้ทั้งแชมป์ซีเกมส์และคิงส์คัพ ขณะที่เป้าหมายใหญ่สุดอยู่ที่ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก” บังยี กล่าว

 ประมุขลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า
 
สมาคมฟุตบอลพร้อมทุ่มงบประมาณเต็มที่สำหรับฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก คิดว่าเงิน 50 ล้านบาทอาจจะไม่พอต่อการสานฝันฟุตบอลโลกด้วยซ้ำ ซึ่งสมาคมฟุตบอลจะพยายามหาเงินทำทีมให้มากที่สุด หากว่างบประมาณพร้อมเมื่อไรจะเปิดเผยให้ทราบทันที ส่วนตัวแล้วเชื่อว่านาทีนี้นักเตะไทยสามารถสู้กับทุกชาติในเอเชียได้ แต่สิ่งสำคัญต้องอยู่ที่ผลการจับสลากแบ่งกลุ่มในเดือนพฤศจิกายนด้วย

 “ผลงานของทีมชาติไทยจากเอเชี่ยนคัพครั้งนี้ทำให้ค่อนข้างเบาใจเยอะ เพราะสามารถสู้กับทีมใหญ่ๆ ได้สบายๆ ถึงตรงนี้มั่นใจว่าทีมชาติไทยสามารถเจอทีมใหญ่ๆ ของเอเชียอย่าง ออสเตรเลีย ซาอุดีอาระเบีย ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ได้เลย โดยเราจะต้องเตรียมทีมกันอย่างเต็มที่และเชื่อว่าทีมชาติไทยน่าจะมีลุ้นทำผลงานที่ดีในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก”

นอกจากนี้ “บังยี” กล่าวว่า

สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนตอนนี้คือเคลียร์โปรแกรมไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก เพื่อเปิดทางให้การเตรียมทีมซีเกมส์ให้เร็วที่สุด ไม่แน่ว่าจากกำหนดเดิมที่เกมจะกลับมาเตะในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ อาจจะร่นมาเตะเร็วขึ้นก็ได้ เพราะดูแล้วผู้เล่นในกีฬามหาวิทยาลัยโลกก็เป็นคนละกลุ่มกับที่เล่นในไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก ดังนั้นอาจจะต้องหารือกันเพื่อให้เกมกลับมาเตะเร็วที่สุด

 “ไทยลีกจะจบเดือนพฤศจิกายน ส่วนซีเกมส์เตะเดือนธันวาคม ดูแล้วโปรแกรมไทยลีกไม่เกิดผลดีต่อการเตรียมทีมแน่ จึงต้องพยายามหาวิธีเตะให้จบเร็วที่สุด ซึ่งทีมซีเกมส์จะไม่มีการไปเก็บตัวต่างประเทศ แต่อาจจะไปแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ต่างๆ อย่างเมอร์เดกา คัพ หรืออกรี แบงก์ คัพ ที่เวียดนาม ซึ่งในอนาคตหากจัดวางโปรแกรมในประเทศให้ดีแล้วอาจจะมีการสร้างทีมอนาคตส่งไปตระเวนแข่งที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน เพื่อสร้างให้แกร่ง”
 

 “บังยี” กล่าวอีกว่า
 
สำหรับ รุด ไมส์เนอร์ ที่ถือเป็นเพื่อนที่ดีและมีประโยชน์มหาศาลในการช่วยทำทีมชาติไทย จะกลับมาช่วยทำทีมอีกครั้งในซีเกมส์ปลายปีนี้ ส่วนการประกาศเลิกเล่นทีมชาติไทยของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน ศรีปาน และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น นั้นก็ได้บอกกับทั้ง 3 คนไปแล้วว่าให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งตัดสินใจเลิก ให้พักร่างกายให้เต็มที่ก่อนแล้วค่อยคิดใหม่ว่าจะเอาอย่างไร เพราะดูแล้วทั้ง 3 คนน่าจะเล่นไหวจนถึงฟุตบอลโลก