ไล่ฆ่า เปา ยุคมืดฟุตบอลไทย ใครคือตัวถ่วง.....?

อรรถกร เวชการ

กลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำลายบรรยากาศฟุตบอลไทยฟีเวอร์อีกครั้ง ภายหลังข่าวอันสืบเนื่องมาจากกรณี อรรถกร เวชการ ผู้ตัดสินของไทยพรีเมียร์ ลีก ที่ลงทำหน้าที่ตัดสินเกมคู่ บุรีรัมย์ พีอีเอ ปะทะกับ พลังเอ็ม โอสถสภสา เอ็ม 150 ถูกคนร้ายไล่ยิง แต่โชคช่วยไม่เป็นอะไร ส่งผลให้เกิดคำถามมากมายถึงการกระทำอันป่าเถื่อนแบบนี้ ทำลายบรรยากาศดีๆ ของวงการฟุตบอลไทย หลายเสียงถามถึงความปลอดภัยในชีวิตของผู้ตัดสินมีมากแค่ไหน ถามไถ่ถึงการพนันในวงการลูกหนัง และการดำรงค์อยู่ของมาเฟียลูกหนัง ฯลฯ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ จึงได้สอบถามไปยังกูรูในวงการว่าอะไรทำให้ฟุตบอลไทยยังไม่ไปไหน ที่สำคัญใครคือตัวถ่วงความเจริญ...?

นายอรรณพ สิงห์โตทอง

นายอรรณพ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมชลบุรี ฝีปากกล้า กล่าวว่า ตราบใดที่วงการนี้ยังมีผู้ทรงอิทธิพลซึ่งนิยมใช้กำลังผ่านการข่มขู่ และไล่ยิงกรรมการแบบนี้ เนื่องจากอาจจะมีมาเฟียบางคนที่ขอไปยังกรรมการแล้วกรรมการไม่ให้ หรือทำหน้าที่แล้วไม่ถูกใจ ก็แสดงให้เห็นเลยเมื่อขัดใจคุณจะโดนอะไรบ้าง ไม่ว่าจะออกมาหน้าไหนผลพวงจากข่าวในครั้งนี้มันก็ทำให้วงการฟุตบอลไทยที่ใครๆ มองว่าเป็นยุคสว่างกลับชิบหาย

ภาพมันเหมือนว่าฟุตบอลไทยบูม ดูดี แต่มันก็ยังมาเสียเรื่องวงจรอุบาทว์จากผู้มีบุญคุณมาขอโน่นนี่จากผู้ตัดสินเหล่านี้ มันทำให้สังคมคนทำดี ซึ่งเรื่องมาเฟียแบบนี้ทีมชลบุรีก็เพิ่งเจอมา ซึ่งก่อนแข่งแมชต์แปลกๆ นี้อยู่ดีๆ ผมตั้งคำถามว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนตัวผู้ตัดสิน-ไลน์แมนแบบกระทันหัน ก่อนเกมผมก็เตือนผ่านเทิดศักดิ์ ใจมั่นให้กำชับน้องๆ คุมอารมณ์ให้อยู่ระวังโดนใบเหลือง โดนจุดโทษแบบไม่แฟร์ ปรากฏว่าที่ผมเตือนเกิดขึ้นทั้งหมด คำถามก็คือวันนี้ยังมีมาเฟียลูกหนังอยู่ทำแบบนี้ผมว่าไม่แฟร์

ผู้จัดการทีมชลบุรีเอฟซี ฝีปากกล้า กล่าวอีกว่า ปัจจุบันวงการลูกหนังไทยมีมาเฟียอยู่เยอะ คนพวกนี้ไม่มองว่าเกมฟุตบอลแฟร์ๆ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ซึ่งหากวันนี้พวกคุณยังมีผลประโยชน์เช่นนี้มันก็จะทำให้วงการฟุตบอลไทยชิบหาย มีบอลแต่ไม่มีแฟนบอล ที่สำคัญเรื่องแบบนี้มันทำให้คนตั้งใจทำฟุตบอลจริงๆ ท้อได้ ดังนั้นอย่ามาถามว่าถ้าวันนี้ยังมีการยิงกัน ขอกัน ตราบใดที่คุณยังไม่รู้จัก แพ้ ชนะ อภัย ไม่ต้องคิดไกลถึงไปบอลโลกอีกหน่อยวงการนี้ก็เสื่อม

บางคนคิดแค่ว่าทำฟุตบอลมีขึ้นเพื่อจะให้ตัวเองยิ่งใหญ่ และทำให้เป็นธุรกิจ ซึ่งความคิดแบบนี้มันจะทำให้วงการฟุตบอลตาย ถามว่าเมื่อไหร่จะรู้แพ้ ชนะ อภัย ตอบได้เลยว่ายาก ถ้าจะเปลี่ยนอะไรให้ดีขึ้น แนะนำให้ได้คือ จงเริ่มที่ตัวคุณเองก่อน คุณต้องคิดถึงประโยชน์ส่วนใหญ่ แพ้บ้าง ชนะบ้าง มันเป็นไปตามธรรมชาติ กรรมการตัดสินผิดได้ แต่ต้องเป็นไปตามสุจริตใจหรือไม่ตั้งใจ ไม่ใช่มีใครไปสั่งผู้จัดการทีมบอลแพ้ได้ แต่ไม่ใช่แพ้เพราะวงจรมันอุบาทว์ ฟุตบอลไทยถึงจะยั่งยืน ผู้จัดการทีมชลบุรีสรุป

นายนันทขว้าง สิรสุนทร

นายนันทขว้าง สิรสุนทร หรือเกี้ยง แฟนพันธุ์แท้ทีมฟุตบอลแมนยูฯ และนักดูฟุตบอลตัวจริงเสียจริง ยอมรับว่า หลังจากข่าวประเภทไล่ยิงกรรมการ กองเชียร์ตีกัน ล้มฟุตบอล ที่ปรากฏออกมาตามสื่อที่ผ่านมา ในฐานะคนที่ชอบชมฟุตบอลไทยมันทำให้คนส่วนใหญ่หมดความอยากที่จะดูหรือสนใจทันที

จริงๆ แฟนบอลไทยแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มหนึ่งกำลังตั้งท่าว่าจะเข้าไปดูบอลไทยดีไหม อีกกลุ่มหนึ่งก็พร้อมจะเข้าไปเป็นแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งตนเป็นคนที่อยู่กลุ่มแรก ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ คือถ้าบรรยากาศบอลไทยเป็นแบบนี้นะเราไม่ดู ถ้ายังมีการตีกัน ด่ากัน ไล่ยิงกัน ดูบอลเมืองนอกสนุกกว่า ถึงจะบินไปดูถึงที่ก็ยังคิดว่าคุ้มค่า และสนุกกว่า ผมพูดแบบนี้ไม่ได้ไฮโซนะ สมัยก่อน ก็เคยบ้าแต่งหน้าเพื่อไปเชียร์ฟุตบอลที่สนามศุภชลาศัยหลายครั้ง เมื่อครั้งยังไม่มีการตีกัน แต่พอปัจจุบันพอบอลไทยมาเป็นลีกระดับชาติแล้ว ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ฉะนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลต้องลงมาดูแลอย่างเข้มงวด

สาวกตัวเอ้ของทีมปีศาจแดง บอกอีกว่า ฟุตบอลไทยที่มีบรรยากาศดีที่สุดก็ตอนในยุค 80 ที่เป็นฟุตบอลไทยแลนด์ตอนนั้นเราดีกว่านี้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นกรรมการ คนดู และนักฟุตบอล ดูแล้วมันมากเลยทุกอย่างทุกแมชต์เรียบร้อยไปหมด แต่พอมาเป็นตอนนี้กลับเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะการควบคุมอารมณ์ของคนดู

ปัญหาที่ทำให้คนเบื่อที่จะชมฟุตบอลไทย และทำให้ฟุตบอลไทยไม่ไปไหนก็คือ เรื่องการควบคุมอารมณ์ปัจจุบันพ่อ-แม่ของวัยรุ่นหลายคนที่เป็นแฟนๆ บอลที่ผมได้ไปคุยมาเขาไม่อยากให้ลูกๆ เข้าไปดูเพราะมีแต่ความรุนแรงในการใช้อารมณ์ไม่รู้จักแพ้ชนะและคำว่าอภัย 2. เรื่องของมึนเมา 3. การพนัน แล้วการพนันมันเหมือนกับว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่เยอะ แต่ก็สร้างปัญหา 4. เรื่องของการตีกัน ซึ่งน่าเสียดายที่นักเตะไทยบางคนมีความสามารถมาก แต่ไม่เติบโตเรื่องอารมณ์ คุณลองสังเกตดูว่าหลังจากคุยกัน อีกไม่นานก็เกิดข่าวแบบนี้ มันตลกไหมที่ตัวเองดูบอลมาเกือบทั่วโลก แต่บอลไทยของตัวเองกลับไม่ดู ดังนั้นผมอยากให้เลิกพูดซะทีว่าบอลไทยจะไปบอลโลก ถ้าคนไทยยังไม่เติบโตทางอารมณ์

ในฐานะแฟนฟุตบอล นันทขว้าง ฝากทิ้งท้ายไปถึงพวกที่ไม่รู้จักแพ้ ชนะ อภัย ด้วยว่า ผมดูฟุตบอลเองแล้วก็ผิดหวังหลายครั้ง แต่ถ้าเราอดไว้ กัดฟัน การที่แพ้เขาวันนี้ไม่ได้ทำให้เราจบสิ้น บอลมันแข่งกันทุกวัน วันนี้แพ้ แต่อีกสักวันเราก็ชนะ อันนี้คือศักดิ์ศรีที่แท้จริง ไม่ใช่ไปดักตีเขาที่หน้าปากซอย ต้องไปเอาคืนในสนามถ้าคุณทำแบบนี้นานแค่ไหนฟุตบอลไทยก็ไม่เจริญ

นายอดิสรณ์ พึ่งยา

นายอดิสรณ์ พึ่งยา หรือ  แจ๊กกี้ นักพากษ์ฟุตบอลชื่อดัง ผู้เฝ้ามองฟุตบอลไทย แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ไล่ยิงผู้ตัดสินที่เกิดขึ้นมันสะท้อนว่านอกจากฟุตบอลจะเป็นกีฬาแล้ว วันนี้เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่าวงการฟุตบอลมันมีคนอีกกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์จากการเล่นพนันอย่างชัดเจน

วันนี้เราต้องยอมรับก่อนว่าฟุตบอลไทยมันยังมีการล้มบอลกันมาก บางแมชต์ก็มีการล้มชนล้มก็มีให้เห็น แม้กระทั่งเรื่องการไล่ยิงผู้ตัดสินจะไม่มีทางเกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ เพราะที่อังกฤษก่อน-หลังแข่งผู้ตัดสินจะพักตามโรงแรมไม่ให้ใครมาวุ่นวายเลย เวลาไปสนามแข่งฝ่ายเจ้าบ้านก็จะดำเนินการดูแลให้เป็นอย่างดี มีคนคุ้มกัน อีกส่วนหนึ่งก็คือแฟนบอลต้องมีการปรับตัวบ้าง เพราะคนไทยนั้นเวลาดูบอลมักจะเกิดอาการรุนแรง ไม่เหมือนฝรั่งที่มีสปริต แม้กระทั่งคำตัดสินที่ค้านสายตาเขาก็ยอมรับผู้ตัดสิน อย่างกรณี เทียรี อองรี เอามือปัดบอลเขายังออกมาขอโทษ ถ้าเป็นเมืองไทยปัญหาคือเราไม่ยอมรับคำตัดสิน ซึ่งตนคิดว่าแย่ยิ่งกว่าผู้ตัดสินผิดพลาด แย่กว่าการล้มบอล แย่กว่าอะไรทั้งสิ้น เมื่อก่อนเราสามารถดูบอลแล้วก็นั่งตรงไหนของสนามก็ได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าอันตราย ความรู้สึกคำนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ บอลแพ้คนไม่แพ้ ก็ยังมีอยู่ก็ต้องแก้ไขให้คนไทยมีสปริต ซึ่งทุกๆ ฝ่ายก็ต้องช่วยกันขัดเหลา ทุกๆ คนต้องช่วยกันปูพื้นฐานสำคัญของกีฬาที่ว่า รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ที่เราท่องมาตั้งแต่เด็กๆ แม้กระทั่งผู้ตัดสินผิดพลาดก็ต้องยอมรับด้วย


แจ๊กกี้หนุ่มผู้ที่คลุกคลีกับฟุตบอลมายาวนาน
บอกอีกว่า คนไทยชอบตั้งทฤษฎีชอบที่จะเชื่อตนเองแต่ไม่เคารพความคิดของผู้อื่น อย่าพยายามตั้งเป้าว่าเราจะไปบอลโลกเร็วๆ นี้ ซึ่งผมว่าอีกสัก 20 ปีถ้าเราตั้งใจทำให้ลีกแข็งแกร่งอาจจะขึ้นชั้นแนวหน้าได้ใครจะรู้

นายพิษณุ นิลกลัด

ด้านนายพิษณุ นิลกลัด ผู้ที่คลุกคลีก และรักวงการฟุตบอลมายาวนานกว่า 10 ปี กล่าวว่า การที่จะทำให้ฟุตบอลไทยบูมได้ขนาดนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะก่อนหน้าที่จะมีฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกนั้นมีคนดูเพียง 30-50 คน บางนัดทีมงานมากกว่าผู้ชมฟุตบอลซะอีก ซึ่งวันนี้ฟุตบอลไทยเดินทางมาได้ขนาดนี้โดยผ่านทั้งการตลาด ความบันเทิงและความเป็นอเมริกันเข้ามาผสมกันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ฟุตบอลไทยจะถูกทำลายลงไปเพราะเรื่องเหล่านี้

ต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีการพนันเยอะ อีกทั้งปัญหาเรื่องผู้ตัดสินก็เกิดจากบ้านเรายังไม่มีระบบการคัดกรองเพื่อเป็นการรับประกันว่าผู้ตัดสินมีความยุติธรรม ส่งผลให้เกิดความคลางแคลงใจในการตัดสินว่าการเป่ามันผิดพลาด ตั้งใจ หรือเจตนา พอเกิดความลังเลเมื่อไหร่และมีการพนันเข้ามาเกี่ยวด้วย มันจะเชื่อโดยสนิทใจว่าผิดโดยตั้งใจ พอเป็นแบบนี้แล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมันมีเงินจำนวนมหาศาล ตนเคยคุยกับเพื่อนนักข่าวเมื่อไม่ถึง 2 เดือนว่าคอยดูนะว่ากรรมการจะอันตราย เพราะว่าการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งอันตรายจริงๆ ด้วย

นายพิษณุ แนะนำแนวทางแก้ไขด้วยว่า ระยะสั้นๆที่สำคัญคือต้องคัดกรองผู้ตัดสินที่มีเครดิตที่ดีประวัติดี มันจะทำให้เชื่อไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันใครที่เล่นละเมิดกฎหมายในขณะนี้นั้น เราต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด ระยะยาวต้องสร้างการอบรมบ่มนิสัยแล้วก็สร้างวัฒนธรรม เพราะว่าบ้านเมืองเราไม่ค่อยจะตรงกันเท่าไหร่ในเรื่องความคิด เช่นเรื่องการเมืองและเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ค่อยตรงกันอยู่แล้ว ลามมาถึงวงการกีฬาด้วยอันนี้คือสิ่งที่ต้องปลูกฝังทั้งในโรงเรียน และครอบครัว ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กว่าคนญี่ปุ่นทำไมต้องปลูกฝังลูกให้ใช้ห้องน้ำ ว่าทำไมถึงเป็นประเทศที่ห้องน้ำสะอาดที่สุดในโลก แบบนี้คือใช้เวลา

ต้องขอเวลาสัก 2 ปีสำหรับคำถามเมื่อไหร่ไทยจะได้ไปบอลโลกเพราะมันมีหลายทีมที่มาจากนักการเมือง การที่มีทีมที่มาจากนักการเมืองเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเบื่อกันเมื่อไหร่ เพราะนักการเมืองต้องการโปรโมตตัวเองหรือท้องถิ่นของเขา เขาก็จะยังแข็งแรงดีอยู่ ถ้าเขาเบื่อขึ้นมาก็จะเป็นเครื่องมือ แล้วฟุตบอลไทยลีกจะยังยืนอยู่ได้ก็ต้องมีเรื่องของกีฬาและธุรกิจ การเมืองอย่างเดียวนั้นมันไม่ทำให้วงการฟุตบอลไทยยังยืนก็ต้องแก้กันไป นักวิจารณ์ชื่อดังกล่าวในที่สุด.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์