สิงคโปร์ปล้นชัยบอลไทย 2-1

ทีมชาติไทยทำดีที่สุดหลังบุกพ่าย เทมาเส็ก สิงคโปร์ แชมป์เก่าถึงถิ่น 1-2


โดยเจ้าถิ่นได้ประตูชัยจากลูกจุดโทษที่สร้างความกังขาให้กับนักเตะ และสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลอาเซียน คัพ รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ต้องรอชี้ชะตาที่สนามศุภชลาศัยในนัดที่ 2

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน คัพ 2007 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก เป็นการดวลกันระหว่างทีมเจ้าภาพร่วม ทีมชาติไทย กับ สิงคโปร์ เมื่อวันพุธที่ 31 มกราคม 2550 ณ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์


โดยเกมนี้ทีมชาติไทยค่อนข้างประสบปัญหาตัวผู้เล่นคนสำคัญมีอาการบาดเจ็บหลายราย


ซึ่งในรายที่ลงไม่ได้มี ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กองหน้ากัปตันทีมไม่ได้เดินทางไปเกาะสิงคโปร์ในนัดนี้ ขณะที่ในรายอื่นที่มีอาการเจ็บ แต่ยังต้องแข็งใจไปเล่นนัดนี้ อาทิ ดัสกร ทองเหลา, นิรุจน์ สุระเสียง เป็นต้น

เริ่มเกมมาในครึ่งแรก ทีมเจ้าถิ่นบนแผ่นดินเทมาเส็ก เปิดเกมแรงใส่ทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่อง

สุธี สุขสมกิจ ไล่บอลระหว่างเกม



ด้วยการทำฟาวล์ผู้เล่นคนสำคัญของทีมขวานทองอย่าง ดัสกร และ นิรุจน์ เพื่อเบรกเกมของทีมชาติไทยไม่ให้ครองบอลได้อย่างสะดวกนัก

ผ่าน 10 นาทีแรกของการแข่งขัน ทั้งสองทีมยังครองเกมได้ไม่ถนัดนัก ซึ่งหลังจากนั้นดูเหมือนเสียงเชียร์จะกระตุ้นให้นักเตะเจ้าถิ่นเริ่มที่จะทำเกมรุกขึ้นมาได้บ้าง ขณะที่ทีมแข้งไทยก็ยังเล่นแบบรัดกุม แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดเกมรุกได้

กระทั่งนาทีที่ 17 นักเตะทีมชาติไทย ก็เสียประตูให้ทีมคู่แข่ง เมื่อทีมนักเตะไทยพลาดท่าจากการที่มีผู้เล่นกองหลังบาดเจ็บ ส่งผลให้ นอห์ อาลาม ชาห์ นักเตะเจ้าถิ่นที่ครองบอลอยู่ในกรอบเขตโทษได้จังหวะซัดบอลแฉลบเข้าประตูทีมชาติไทยไปก่อน 0-1

และเป็นผู้เล่นทีมเจ้าถิ่นที่โดนใบเหลืองเป็นคนแรก จาก นาร์วาฟ ที่ทำฟาวล์ผู้เล่นไทย ถึงนาทีที่ 34 นิรุจน์ สุระเสียง นักเตะไทยก็โดนใบเหลืองไปอีกราย หลังจากนั้น อีกเพียง 1 นาที โค้ชหรั่ง จัดการส่ง ณัฐพงษ์ สมณะ ลงไปเล่นแทน ฌัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ที่เจ็บเล่นต่อไม่ไหว

จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก รุดดิน ผู้เล่นของ สิงคโปร์ ได้รับใบเหลือง หลังพุ่งเข้าเสียบข้อเท้าของ ดัสกร กระทั่งหมดเวลา 45 นาทีแรก ทีมชาติไทยยังตามหลังสิงคโปร์อยู่ 0-1


กลับมาแข่งขันกันต่อในครึ่งหลัง รูปเกมยังตกเป็นของเจ้าถิ่นอยู่เช่นเคย

พิพัฒน์ ต้นกันยา ดีใจหลังพังประตูตีเสมอ 1-1



หลังเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักเตะไทยยังคงพยายามเจาะเกมทางริมเส้นเหมือนเดิม และก็เป็น นิรุจน์ ที่ผ่านบอลทะลุช่องให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล็อกหลบผู้รักษาประตูสิงคโปร์ ก่อนปาดบอลเข้าไปตุงตาข่าย ตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 49


เล่นเกมหนักกันทั้งสองทีม

ถัดจากนั้นอีก 2 นาที ทีมชาติไทย ก็ได้ใบเหลืองไปอีกราย เมื่อ ดัสกร ไปทำฟาวล์ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม

นาทีที่ 62 สุเชาว์ นุชนุ่ม รับใบเหลืองไปเป็นคนที่ 3 ของทีมชาติไทย หลังผู้ตัดสินมองว่าเจตนาทำร้ายคู่แข่ง ถัดมาอีก 2 นาทีทีมชาติไทยเกือบได้ประตูขึ้นจากลูกยิงไกลกว่า 30 หลาของ สุรีย์ สุขะ แต่นายทวารเจ้าถิ่นปัดออกไปได้


ปล้นชัยชนะช่วงท้ายเกม


นาทีที่ 81 เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อผู้ตัดสินในสนามตัดสินใจให้ทีมชาติสิงคโปร์ได้ลูกจุดโทษ หลังมองว่า นิเวส ศิริวงศ์ กองหลังชาวไทยไปทำฟาล์วผู้เล่นเจ้าถิ่น พร้อมทั้งให้ใบเหลืองกองหลังทีมชาติไทย ส่งผลให้ผู้เล่นทีมไทยรวมถึง ชาญวิทย์ ผลชีวิน โค้ชชาวไทยไม่พอใจคำตัดสิน ทำให้เกมหยุดไปกว่า 10 นาที แ

ต่สุดท้ายนักเตะทีมเยือนก็ตัดสินใจกลับไปเล่นต่อ พร้อมกับเสียประตูจากลูกจุดโทษ เมื่อ มุสตาฟิก ฟาห์รุดดิน นักเตะตาน้ำข้าวของสิงคโปร์ ซัดเข้าไป ส่งผลให้ทีมชาติไทยตามหลังสิงคโปร์ 1-2 ขณะที่ทีมไทยเปลี่ยนตัวเอา ขวัญชัย เฟื่องประกอบ ลงมาทำหน้าที่แทน ศรายุทธ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออกในนัดนี้

หลังจากนั้น ผู้เล่นทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ กระทั่งครบเวลาการแข่งขันทีมชาติไทยบุกไปแพ้ทีมสิงคโปร์ แชมป์เก่า 1-2 สำหรับการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ เกมที่สองจะลงเล่นกันที่สนามศุภชลาศัย ของประเทศไทย ในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2550


รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติไทย ประกอบด้วย

กิตติศักดิ์ ระวังป่า, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, เจษฏา จิตสวัสดิ์, นิเวส ศิริวงศ์, สุรีย์ สุขะ, ดัสกร ทองเหลา, นิรุจน์ สุระเสียง, สุธี สุขสมกิจ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, ศรายุทธ ชัยคำดี และ พิพัฒน์ ต้นกันยา

โค้ชลอดช่องโวสมควรชนะ-จวกแข้งไทยใช้มือเล่นตุกติก

ราโดจโก้ อาฟราโมวิช โค้ชของทีมชาติสิงคโปร์



ราโดจโก้ อาฟราโมวิช โค้ชทีม เทมาเส็ก สิงคโปร์ มั่นใจลูกทีมสมควรได้รับชัยชนะ พร้อมจวกแข้งไทยเล่นตุกติกใช้มือตลอดเกม ในศึกอาเซียน คัพ รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน คัพ 2007 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ระหว่างทีมเจ้าภาพร่วม ทีมชาติไทย กับ สิงคโปร์ เมื่อวันพุธที่ 31 มกราคม 2550 ณ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ผลปรากฏว่า พลพรรคจากแดนสยาม พ่ายต่อ เทมาเส็ก สิงคโปร์ แบบเจ็บแสบ 1-2 โดยเกมดังกล่าวได้เกิดการประท้วงในช่วงท้ายครึ่งหลังของนักเตะทีมไทย ที่ไม่พอใจผู้ตัดสินชาวมาเลเซีย ซึ่งตัดสินใจให้ลูกจุดโทษกับนักเตะเจ้าภาพ จนเป็นประตูชัยในเกมนี้

โดย ราโดจโก้ อาฟราโมวิช ออกมาเปิดเผยว่า สิงคโปร์ เหมาะสมแล้วกับชัยชนะในนัดแรก

ชนะก็คือชนะ เราสมควรได้รับชัยชนะในคืนนี้เป็นอย่างยิ่ง ทั้งการได้ประตูที่ยอดเยี่ยมจาก โนห์ อาลาม ชาห์และลูกจุดโทษ เกมนี้สมควรลงโทษนักเตะไทยเพราะว่าพวกเขาใช้มือเล่นบอลตลอดเกม ส่วนเรื่องการตัดสินลูกโทษ ผมมองไม่ชัดเจนแต่ยอมรับว่าคู่ต่อสู้ใช้มือดึงหลังผู้เล่นเรา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นของครึ่งหลัง เมื่อ อาลาม ชาห์ถูกกระชากและน่าจะเป็นจุดโทษเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ทีมเราเล่นได้เยี่ยมมาก ขอแสดงความยินดีกับพวกเขาและแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ในสนาม

นอกจากนี้ โค้ชชาวเซิร์บ ออกอาการไม่พอใจกับการกระทำของนักเตะไทย ที่ประท้วงการตัดสินของกรรมการที่ให้จุดโทษ

มันเป็นเรื่องตลก ผมได้สั่งให้นักเตะตั้งใจเล่นและมุ่งมั่นกับเกมของตนเอง เพราะมั่นใจว่าไทยจะกลับมาฮึดสู้อย่างเต็มที่แน่นอน

สำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ประเทศไทย ณ สนามศุภชลาสัย

ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีแฟนบอลชาวไทยซึ่งไม่พอใจกับการตัดสินในเกมแรกจะเดินทางเข้ามาชมอย่างล้นหลาม และอาจจะต้องมีการป้องกันความปลอดภัยของนักเตะ ทว่าทางกุนซือของแดนลอดช่อง ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายเช่นนั้น

สำหรับผมแล้ว นี่คือกีฬาฟุตบอลและมี 11 ผู้เล่นแต่ละฝ่ายทำการแข่งขัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนอัฒจันทร์เป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องต้องเข้ามาควบคุม นักเตะของเราเคยเล่นมาในสภาพกองเชียร์แบบนี้มาก่อนแล้ว ดังนั้น ผมไม่คิดว่าจะมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นกับพวกเขา



โค้ชหรั่ง รับแข้งไทยโดน เทมาเส็ก ปล้นชัยชนะ

"โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมนี้



อาจารย์หรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน โค้ชทีมชาติไทย ยอมรับลูกทีมโดนผู้ตัดสินชาวมาเลเซีย ปล้นชัยชนะไปมอบให้ เทมาเส็ก สิงคโปร์ หลังโดนพิษลูกจุดโทษปัญหาในช่วงท้ายเกม ศึกอาเซียน คัพ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

หลังการแข่งขันฟุตบอลอาเซียน คัพ 2007 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก จบลงที่ชัยชนะของทีมชาติสิงคโปร์ เหนือทีมชาติไทย 2-1 เมื่อวันพุธที่ 31 มกราคม 2550 ก็มีประเด็นปัญหาตามมา เมื่อเกิดการประท้วงในระหว่างการแข่งขันช่วงท้ายเกมของนักเตะทีมไทย ที่ไม่พอใจผู้ตัดสินชาวมาเลเซีย ซึ่งตัดสินใจให้ลูกจุดโทษกับนักเตะเจ้าภาพ จนเป็นประตูชัยในเกมนี้

โดย โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน หัวหน้าโค้ชชาวไทย ออกมาเปิดเผยหลังเกมการแข่งขันว่า

ผมคิดว่ามันชัดเจนมาก ว่า นี่ไม่ใช่ลูกจุดโทษแน่นอน หากใครได้ชมเกมนัดนี้จะเห็นว่าผู้ตัดสินคนนี้พยายามช่วยเหลือเจ้าภาพตลอด ผมบอกได้เลยว่าน่าเกลียดมาก ไม่คิดว่าการกระทำแบบนี้จะเกิดกับประเทศที่เจริญทางวัตถุอย่างสิงคโปร์

นอกจากนี้ อาจารย์หรั่ง ยังได้ยืนยันด้วยว่า การที่ประท้วงครั้งนี้ไม่มีเจตนาที่จะไม่แข่งขันต่อ

ผมยืนยันได้เลยว่า ไม่ได้คิดว่าจะไม่เล่นต่อ แต่อยากให้ สหพันธุ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ทราบว่า ผู้ตัดสินรายนี้ไม่ควรทำหน้าที่ต่อไป ผมทำงานในวงการนี้มาหลายปี รู้ดีว่าจังหวะบอล 50-50 ผู้ตัดสินก็มักจะให้เจ้าภาพได้เปรียบอยู่แล้ว แต่ขนาดนี้ถือว่าน่าเกลียดมากกับการให้จุดโทษทีมสิงคโปร์ ทั้งๆ ที่ นิเวส ศิริวงศ์ กองหลังไทยไม่ได้ไปดึง ไม่ได้ผลัก แล้วก็ไม่ใช่ลูกที่จะได้ประตูด้วย แถมยังให้ใบเหลืองนักเตะไทยอีก ผมไม่พอใจมาก

ขณะเดียวกัน โค้ชชาญวิทย์ ได้ขอบคุณแฟนลูกหนังชาวไทยด้วย

ผมขอบคุณแฟนฟุตบอลชาวไทยที่ให้กำลังใจทีมชาติไทยมาโดยตลอด แม้ว่าเราจะถูกปล้นชัยชนะในนัดนี้ไปจากเราก็ตาม

อย่างไรก็ตาม นักเตะทีมชาติไทยยังมีโอกาสแก้มืออีกครั้ง ในการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ เกมที่สองจะลงเล่นกันที่สนามศุภชลาศัย ของประเทศไทย ในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2550




แหล่งที่มา


จากผู้จัดการ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์