บอลไทยกากได้ใจ สุดท้ายโกงอาศัยจุดโทษ ไทยเน่าคาบ้านโดนโปแลนด์ยำเละ 1-3


















ทีมฟุตบอลแดนสยามไปไม่รอดถูกโปแลนด์ชุดเล็กที่เหลือ 10 ตัวในช่วงท้ายเกมไล่อัดเละเทะ 3-1 โอกาสสัมผัสแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพริบหรี่ เว้นเสียแต่ว่าจะเอาชนะเดนมาร์กในนัดสุดท้ายด้วยสกอร์ท่วมท้นเท่านั้น

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 40

วันพุธที่ 20 มกราคม 2553

ไทย 1-3 โปแลนด์

ประตู : 0-1 ฮามิล กลิ๊ก น.43, 0-2 มาเลสกี้ น.53, 0-3 โรบัค มาร์ซิน น.87, 1-3 เทิดศักดิ์ ใจมั่น น.90+1

รายงานสดติดขอบจอโดย : Santiago

ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา ไบรอัน ร็อบสัน ส่งกีรติ เขียวสมบัติ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า ขณะที่ณรงค์ชัย วชิรบาลวันนี้ไม่ได้ลงสนาม เพราะมีอาการบาดเจ็บ

ครึ่งแรก

เกมเป็นของโปแลนด์ แต่แนวรับไทยยังไม่พลาด

เริ่มมา 3 นาที เปสโก้ ได้บอลจากฟีลอฟสกี้ ได้ซัดเล่นทางหวังจะให้เบียดเสาเข้า แต่ได้แค่เข้าหน้าต่างประตู

นัดนี้ต้องชมทีมชาติไทยที่เล่นทุ่มเทกันทุกคน แต่ยังสู้ความแข็งแกร่งและความหนักหน่วงสไตล์ยุโรปของโปแลนด์ไม่ได้ การต่อบอลงามๆไปถึงหน้าเขตโทษหรือโยนเข้าทำยังไม่ค่อยมีให้เห็น ส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บกินของแข้งโปลมากกว่าที่เกมดีกว่า แต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์เช่นกัน

ไทยตั้งลำได้เริ่มไล่นวด

ผ่านไป 15 นาที เกมเริ่มสนุก ไทยมีโอกาสบุกขึ้นเข้าทำหลายต่อหลายครั้ง แต่ที่ยังขาดคือโอกาสจบสกอร์

เกมดำเนินไปครึ่งชั่วโมง เกมส่วนใหญ่ชิงไหวชิงพริบกันอยู่ตรงกลาง แต่โปแลนด์เริ่มเห็นช่องโหว่ทีมไทย เริ่มเจาะตามช่องเข้าทำได้หวาดเสียวอยู่หลายครั้ง ต้องชมกองหลังไทยที่ยังช่วยกันดี

เปสโก้ยิงเต็มข้อ แต่กวินเซฟสวย

นาทีที่ 37 เป็นจังหวะที่น่าได้ประตูมากที่สุดของโปแลนด์ เมื่อเปสโก้ มิดฟิลด์ของโปแลนด์หาจังหวะได้ซัดเต็มข้อระยะ 25 หลา บอลพุ่งสวย แต่ต้องชมเจ้าตอง กวิน ธรรมสัจจจานันท์ ที่บินทุบไว้ได้สวย ครั้นเพื่อนร่วมทีมจะซ้ำก็ดันโหม่งไม่ตรงกรอบ ออกหลังอย่างกับเป็นกองหลังไทย

โปแลนด์เจาะเซตพีซขึ้นนำจนได้

ความพยายามของโปแลนด์มาได้ผลในนาทีที่ 43 ริบาสใช้อีซ้ายปั่นฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตโทษ แต่ฮามิล กลิ๊ก เซนเตอร์แบ็คที่เติมขึ้นมาได้เข้าเปลี่ยนทางบอล บอลไม่แรงแต่ทิศทางกำลังจะเข้าประตู กวิน กับณัฐพร พยายามจะสกัดออกจากเส้นให้ได้ แต่ไม่พ้นไปโดยกลิ๊กที่ตัวใหญ่มาพยายามมาซ้ำดาบสอง จนเข้าประตูทีมไทยไป เป็นประตูส่งโปแลนด์ขึ้นนำ 1-0

เวลาที่เหลือ โปแลนด์พยายามหันมาเล่นงานไทยด้วยลูกเซตพีซจนแฟนบอลสยามใจหายใจคว่ำไปตามๆกัน แต่ยังไม่ได้ประตูเพิ่มและจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง

ร็อบโบ้เปลี่ยนสมปองลงแทนดัสกร

ไบรอัน ร็อบสัน ตัดสินใจเปลี่ยนเอาสมปอง สอเหลบลงมาแทนดัสกร ทองเหลา ที่วันนี้สู้การปะทะของโปแลนด์ไม่ได้ ไทยกลับมาเล่นระบบ 4-4-2 แล้ว

นาที 50 สุธีเปิดฟรีคิกจากทางขวาบ้าง บอลมุดเกือบเสียบใต้คาน จนฟีลอฟสกี้ต้องปัดทิ้งออกหลังไป

โปแลนด์บุกเป็นชุด นำห่าง 2 เม็ด

นาที 53 โปแลนด์ที่บุกอยู่พักใหญ่มาได้ประตูนำห่าง 2-0 เริ่มจากมิเซลยูสกี้ แบ็คขวาเติมขึ้นมาผ่านหน้าปากประตูทีมไทยมาตกที่อิวานสกี้ที่เช็ดเบาๆมาเข้าทางริบาสพอดี ทว่าริบาสดันยิงไม่เต็ม แต่บอลผิดเหลี่ยมกลายเป็นดีมาเข้าทางมาเลสกี้ ที่ยืนถูกตำแหน่งพอดียิงเข้าไปจ่อๆ 5 หลาเป็นประตู ชนิดที่กวินได้แต่มอง

ร็อบโบ้เล่นหน้าสามหวังทวงประตู

ร็อบโบ้ตัดสินใจส่งอานนท์ สังสระน้อย ดาวซัลโวไทยลีกลงมายืนเป็นกองหน้าตัวที่สามมาแทนที่อดุลย์ หละโสะ มิดฟิลด์ตัวตัดเกมในนาทีที่ 59 จนเกมของไทยเริ่มต่อบอลกันเร็วขึ้น และนาทีที่ 65 ก็ส่งสุรีย์ สุขะ แบ็คจอมบุกลงมาช่วยเกมรุก

พอนำห่างโปแลนด์เริ่มผ่อนเกมและเน้นเกมรับ แต่พอได้โต้กลับถือว่าน่ากลัวทีเดียวเพราะเติมกันมาเป็นแผง ไทยเกือบเสียลูกสามเหมือนกัน

อากาศร้อนคนก็ร้อนโปแลนด์โดนเหลืองแดง

นาที 85 เปสโก้ที่โดนใบเหลืองไปแล้วไปต่อว่าผู้ตัดสินเพราะหงุดหงิดที่โดนรังสรรค์เล่นนอกเกม กลายเป็นเปสโก้ที่โดนใบเหลืองใบที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

10 ตัวโปแลนด์นำขาด 3-0

แต่กลายเป็นโปแลนด์ 10 ตัวที่ได้ประตูที่สามหนีปิดกล่อง จากจังหวะที่ริบาสพาบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายใส่พานมาให้โรบัค มาร์ซิน ตัวสำรองที่ยืนว่างอยู่ ได้แต่งเข้าซ้ายข้างถนัดแล้วซัดเป็นประตู ในนาทีที่ 87

ไทยเฮงได้จุดโทษตีตื้นเป็น 1-3

ช่วงทดเจ็บนาทีแรก ไทยมาได้จุดโทษจากจังหวะที่เทิดศักดิ์ ใจมั่น โดนกองหลังโปแลนด์ทำฟาล์วจากด้านหลัง ชนิดที่เจ้าตัวยังงงว่าฟาล์วได้ไง ก่อนที่จะลุกขึ้นมาสังหารเสียบสามเหลี่ยมล่างไม่พลาด ไทยตีตื้นมาเป็น 1-3

หมดเวลาการแข่งขัน ไทยแพ้โปแลนด์หมดรูป 3-1 นัดต่อไปต้องชนะเดนมาร์กให้ได้สถานเดียว ถึงจะมีลุ้นแชมป์ แต่ก็ริบหรี่เต็มที

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ไทย : กวิน ธรรมสัจจานันท์, รังสรรค์ วิวัฒนชัยโชค, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ชลทิตย์ จันทะคาม, สุทธินันท์ พุกหอม (ภานุพงษ์ วงศ์ษา น.79), ดัสกร ทองเหลา (สมปอง สอเหลบ น.45), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, อดุลย์ หละโสะ (อานนท์ สังสระน้อย น.59), สุธี สุขสมกิจ (สุรีย์ สุขะ น.65), เทิดศักดิ์ ใจมั่น, กีรติ เขียวสมบัติ (อนาวิน จูจีน น.88)

โปแลนด์ : ฟีลอฟสกี้ เซบาสเตียน , ซาดล็อก, วาลอฟสกี้ ลูคัส, คามิล กลิ๊ก (โบรเซ็ค น.79), มิเซลยูสกี้, สลาโวเมีย เปสโก้ , อิวาสกี้, เลวานดอฟสกี้ (ราซัด น.80), ริบาส (ริสกี้ น.90), อิวานสกี้ มาเชส (โกล โธมัส น.83), มาเลสกี้ (โรบัค มาร์ซิน น.70)

ผู้ตัดสิน : ชาร์ล โกดาน (แทนซาเนีย)








เครดิต SOCCERSUCK.COM
รูปภาพโดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์