คริสมาสฟันธงรัฐภาคย์ยืนหัวแถวมอเตอร์จีพีแน่
















ความคืบหน้าของ เจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยที่ลงแข่งขันรายการมอเตอร์ไซค์ระดับชิงแชมป์โลก ซึ่งเป็นช่วงของการปิดฤดูกาลเพื่อปรับเปลี่ยนรุ่นการแข่งขันใหม่ โดยในฤดูกาล 2010 ไม่มีการแข่งขันรุ่น 250 cc แต่จะเป็นรุ่น 600 cc แบบ 4 จังหวะ ที่ใช้ชื่อว่ารุ่น โมโต 2 แทนนั้น เจ้าฟีมยังใช้ช่วงเวลาวันหยุดพักผ่อนในช่วงปีใหม่ด้วยการเร่งซ้อมรถอย่างเต็มที่ ผู้สื่อข่าวได้รับการเผยจาก ป๋าจั๊บ คริสมาส วิไลโรจน์ ยอดนักบิดแชมป์ประเทศไทยหลายสมัยผู้เป็นทั้งพ่อและโค้ชส่วนตัวของฟีมเอง เผยว่า ในช่วงที่กลับมาอยู่เมืองไทยเพียงสอง-สามเดือน ฟีมใช้วันหยุดจัดการกับเรื่องเรียนอย่างเต็มที่และได้เริ่มต้นซ้อมรถ แล้วโดยเป็นรถขนาด 600 cc ที่พอหาได้ในบ้านเรา ไปลองซ้อมมาแล้ว 3 ครั้ง ที่สนามไทยแลนด์เซอร์กิต อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม
 
ภายใต้การดูแลของทีมงานไทยอย่างใกล้ชิดตลอดจนผู้เกี่ยวข้องต่างก็เฝ้ามองด้วยความตื่นเต้นเนื่องจากเป็นการขับรถรุ่น 600 cc ที่ฟีมเคยขับมาแล้วแต่เลิกจับรุ่นนี้ไปนานแล้ว การกลับมาจับรถที่เร็วขึ้นและเป็นแบบ 4 จังหวะจึงต้องดูว่าผลออกมาจะเป็ออย่างไร ซึ่งสำหรับตนนั้น บอกได้ว่าพอใจในผลงานของฟีมอย่างมาก เพราะดูจากเวลาที่ฟีมทำได้ เมื่อเทียบกับนักแข่งรุ่น 600 cc ที่ขับประจำอยู่ หรือจะดูจากเวลาเฉลี่ยของฟีมเองก็ดีขึ้นตามลำดับ แม้สไตล์การขี่ต้องเปลี่ยนไปเนื่องจากรถจะเป็น 4 จังหวะ การออกตัวจะนุ่มกว่า แต่เครื่องยนต์จะแรงกว่าทำให้ควบคุมยากกว่า แต่ฟีมก็ทำได้ดีอย่างมาก
 
สำหรับตนแล้วเท่าที่ประเมินจากผลการลองขับเชื่อว่าฟีมสามารถทำได้ดีแน่นอนในรุ่นนี้ เนื่องจากมีสไตล์การขับที่เป็นมืออาชีพไปแล้วรถอะไรก็ขับได้ และยังมีโอกาสในการซ้อมสนามพีระอีก 3 รอบ ซึ่งสองสนามจะมีสไตล์ต่างกัน โดยสนามไทยแลนด์เซอร์กิตเป็นสนามโค้งขวา และแคบ ส่วนพีระเป็นสนามโค้งซ้ายมากและโค้งกว้าง ทำให้จะได้ลองทั้งสองรูปแบบ
 
ยอดนักบิดในอดีตของไทยยังเผยด้วยว่าส่วนการจะฟันธงได้ว่าฟีมจะมีโอกาสยืนโพเดียมในรุ่นโมโต 2 หรือ 600 cc หรือไม่นั้นต้องดูที่คู่แข่งด้วย เนื่องจากนี่เป็นการแข่งครั้งนี้ของโลกไม่เคยมีรุ่นนี้มาก่อน ทุกคนเหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่หลายคนมาจากโมโตจีพีที่มีขนาด 800 cc หรือบางคนมาจาก เวิลด์ซูเปอร์ไบค์ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก การลงมาขับรถที่เล็กกว่าจะขับได้ง่าย ขณะที่ฟีมขับรุ่น 250 cc มาก่อน แต่พอมาขับรุ่นนี้ต้องเพิ่มความเร็วขึ้น คุมยากขึ้น แต่รถก็นุ่มนวลกว่า ควบคุมง่ายกว่าจึงต้องดูว่าเมื่อลงสนามจริงแล้วแต่ละคนจะปรับตัวได้ดีแค่ไหน ตนเชื่อว่าเมื่อผ่านสนามแรกไปก็น่าจะมองเห็นภาพรวมได้แล้วว่าโอกาสของฟีมจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าด้วยฝีมือการขับของฟีมและรถที่มีงานและฮอนด้าคอยดูแลให้อย่างดีนั้นประเมินแล้วฟีมน่าจะอยู่ไม่เกินหัวแถวของการแข่งขันแน่นอน









เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์