ปีเตอร์ แลง ผมขอเป็นส่วนหนึ่งความสำเร็จทีมชาติไทย





 ปีเตอร์ แลง (
PETER LAENG)

 
ประวัติโดยย่อ peter
 ส่วนสูง 180 ซม.   น้ำหนัก 75 กก. สถานภาพ : โสด
 
เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2529  ที่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
 สัญชาติ : ไทย และ สวิส (แม่เป็นคนไทย และพ่อเป็นคนสวิส)
 ภาษา : เยอรมัน ไทย อังกฤษ
 เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
 ตำแหน่ง :  กองหลัง,  กองกลาง(ตัวรับ)

 สโมสรในปัจจุบัน 
 เอฟซี ชาฟฟ์เฮาเซ่น (FC Schaffhausen) ตั้งแต่ปี 2550 / 2007
 สโมสรในอดีต      
 เอฟซี บาเซิ่ล(เยาวชน) (FC Basel) สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ 2548-2550 / 2005-2007,  
 เอสซี ไฟร์บวร์ก(อะคาเดมี่) (SC Freiburg) เยอรมัน ตั้งแต่ 2547-2548 / 2004-2005, 
 เอฟซี วินเทอร์เธอร์ (FC Winterthur) สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ 2544-2546 / 2001-2003

          เคยติดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ชุด เยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี จนถึง ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี  ช่วงเวลา 7 ปี ลงเล่น 55 เกม ทำได้ 6 ประตู

 เกียรติยศ :   ลงเล่นในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเป็นฤดูกาลที่ 2 แล้ว 
                 เคยลงเล่นให้กับ เอฟซี บาเซิ่ล ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพถึง 7 เกม
                 เคยชนะเลิศฟุตบอลระดับเยาวชนกับทีมเอฟซี บาเซิ่ล ในปี 2550/2007
                 เคยลงเล่น อินเตอร์เนชั่นแนล บลูสตาร์ คัพ


 
ความเป็นมา
 ปี
2529/1986

           
ว่ากันตั้งแต่ต้นเลยนะครับ ผมเกิดที่ ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2529  คุณแม่ของผม (คุณวิไลวรรณ แลง) เกิดที่จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทยและได้ย้ายไปสวิตในปี 2529  ส่วนคุณพ่อของผม (คุณวอลเทอร์ แลง) เกิดที่ อูตเซนสตอร์ฟ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้เดินทางไปทั่วโลกด้วยหน้าที่การงาน และก็แน่นอนได้มาเมืองไทยด้วย

            
ผมมีพี่สาวสองคนและพี่ชายสองคนครับ คือ คุณจรีพร คุณมณชญา คุณณัฐพล และคุณขวัญกมล ทุกคนเกิดที่ จ.นครราชสีมา และไปเติบโตที่ สวิตเซอร์แลนด์ครับ ผมบอกได้เลยว่า ครอบครัวของผมได้ช่วยให้ผมได้แสดงตัวตนของผมออกมาทางกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่ต้น และยังคงสนับสนุนผมอยู่อย่างต่อเนื่อง 

             
แม้ว่ากีฬาฟุตบอลจะเป็นแกนหลักในชีวิตของผม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือ ครอบครัวของผมครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว และพี่ชาย รวมถึงทั้งหลานชาย หลานสาวทุกคน เพราะถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขาเหล่านั้นทั้งในช่วงเวลาที่ดีและช่วงที่เลวร้าย ผมคงจะไม่สามารถที่จะเดินบนเส้นทางนักเตะอาชีพได้อย่างแน่นอน ผมจะไม่เคยลืมเลยว่าผมนั้นมาจากไหน

            
และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมผมถึงวางใจให้ครอบครัวของผมเป็นผู้จัดการเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตนักเตะอาชีพของผม
peter
 
ปี
2535/1992

            
ไม่มีใครเคยบอกให้ผมเป็นนักฟุตบอลอาชีพหรอกครับpeter แต่เมื่อผมเริ่มเล่นฟุตบอลที่โรงเรียนกับเพื่อน ๆ ตอนอายุได้ 6 ขวบ ผมรู้เลยว่า ฟุตบอลนี่แหละคือกีฬาของผม

 
ปี 2543/2000

            
พอผมอายุได้ 14 ปี ผมก็ย้ายมาสู่ เอฟซี วินเทอร์เธอร์ สโมสรที่มีชื่อเสียงเรื่องการฝึกนักเตะรุ่นเยาว์ ในที่สุด ผมได้เลือกที่จะเล่นเป็นเซนเตอร์ครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะนักเตะที่ผมชื่นชอบคือ มาร์กเซล เดซาลญี่ แล้วก็ผมชอบที่จะเล่นเป็นกองหลังที่จะคอยป้องกันประตู

             แล้วทีมชาติสวิส เยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม หลังจากที่ผมได้เล่นในลีกระดับยุวชนมาหลายปี

 
ปี 2547/2004

            
ปีนี้ฝันอย่างหนึ่งของผมก็เป็นจริงครับ ศูนย์ฝึกเยาวชน(อะคาเดมี่)ชื่อดังก้องโลกของ ไฟร์บวร์ก ที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับนักเตะเยาวชนที่มีความสามารถและมีศักยภาพสูง ได้ชวน ผมให้ไปเข้าโครงการพร้อมกับยื่นสัญญาให้ผม 2 ปี  และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมต้องห่างครอบครัว ห่างบ้าน ไปอยู่ต่างประเทศ และเข้าสู่โลก
ของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ 

             ที่อะคาเดมี่แห่งนี้ เขาเปิดโอกาสให้นักกีฬารุ่นเยาว์ที่มีความฝันและความมุ่งมั่นได้พัฒนาทักษะ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเล่นเป็นทีม  การใช้ชีวิตอย่างถูกสุขลักษณะ และเหนือสิ่งอื่นใด เขาสอนให้ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญที่ทุก ๆ คนจะต้องมีความสนุก สนานทุกครั้งที่เหยียบย่างลงสู่สนาม ที่ไฟร์บวร์ก ผมได้พบกับผู้เล่นจากทั่วโลก ผมได้เรียนและ ได้ใช้ชีวิตร่วมกันกับพวกเขาในอะคาเดมี่                            

             และแน่นอนผมได้เล่นฟุตบอลและได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับแท็คติค ผมคงต้องบอกว่า ไฟร์บวร์กเป็นประสบการณ์ที่สำคัญในชีวิตของผมจริง ๆ
peter
 ปี
2548/2005

            
หลังจาก 2 ปีที่ ไฟร์บวร์ก ผมก็ย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของ เอฟซี บาเซิ่ล ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยตั้งเป้าว่าจะเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของบาเซิ่ลที่ถือเป็นทีมที่มีชื่อเสียงที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์

            
ผมมีความทรงจำดี ๆ มากมายกับช่วงเวลานี้ และแน่นอน กับโค้ชของผมคือ ไฮน์ เฮอร์มานน์ อดีตผู้เล่นทีมชาติสวิส และยังคงเป็นขวัญใจของแฟนบอลจนถึงทุกวันนี้

 
ปี 2550/2007

             
พวกเราได้ถ้วยชนะเลิศฟุตบอลในระดับลีกเยาวชน โดยทิ้งรองแชมป์อย่างขาดลอย และในตอนนั้น ผมก็ยุติการเล่นทีมชาติอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อครบวันเกิดปีที่ 22 ของผม  โดยสรุป ผมติดทีมชาติเยาวชนชุดต่าง ๆ รวม 55 ครั้ง ทำได้ประมาณ 6 ประตู  ผมได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อไปชิงแชมป์ยุโรปหลาย ๆ ครั้งเลยทีเดียว

 
ปี 2550/2007

             
ตอนนั้น ผู้คนในวงการฟุตบอลก็จับตาดูผมอยู่ครับ โดยเฉพาะ เอฟซี ชาฟฟ์เฮาเซ่น ก็ได้แสดงความสนใจในทักษะฟุตบอลของผม  ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะครับว่า อันที่จริงผมมองหาสโมสรในดิวิชั่น 1 (สูงสุด) อยู่ตะหาก ชาฟฟ์เฮาเซ่น ก็เล่นดิวิชั่น 1 อยู่หลายปีครับ ก่อนที่จะถูกลดชั้นไปในปี 2007

             ในที่สุด ผมและครอบครัวของผมตัดสินใจที่จะไปร่วมสโมสร ชาฟฟ์เฮาเซ่น แม้ว่าจะมีข้อเสนอมาจากทีมอื่น ๆ ในดิวิชั่น 1 ก็ตาม ทำไมหรือครับ เพราะ ชาฟฟ์เฮาเซ่น มีแฟนบอลที่ยอดเยี่ยมมากในภูมิภาคนั้น และผู้คนก็เชียร์ทีมแบบเหนียวแน่นจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นสโมสรก็มีแผนที่จะกลับขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ด้วยทีมพลังหนุ่มที่เต็มไปด้วยความสามารถ  แน่นอนครับ นี่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และผมก็มีเวลาที่จะค่อย ๆ เติบโตเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่จะรับมือกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า และผมก็พร้อมแล้วด้วยแรงจูงใจที่จะก้าวต่อไป
peter
 
จากใจ ปีเตอร์ แลง สำหรับ ประเทศไทย และทีมชาติไทย

             
แม่ของผมเป็นคนไทย และครอบครัวของผมครึ่งหนึ่งเป็นคนไทย ผมหวังว่าจะได้รับเกียรติและมีโอกาสได้รับใช้ชาติโดยเล่นให้กับทีมชาติไทย  ผมรู้สึกถึงความผูกพันธ์กับเมืองไทย วัฒนธรรมไทย และ การเป็นอยู่ 

            
นอกเหนือจากประวัติในระดับชาติและนานาชาติที่ได้กล่าวมาข้างต้น ผมเป็นผู้เล่นที่เล่นเป็นทีม และพร้อมที่จะอุทิศตนเพื่อศักดิ์ศรีของทีมชาติไทย  หากได้มีโอกาสที่จะเล่นให้กับทีมชาติไทย ผมก็จะเล่นอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ทุกคนผิดหวังในตัวผม

             
ผม และ ครอบครัว รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณที่ได้รับความสนใจจากทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะคุณธารา พฤกษ์ชะอุ่ม (ผู้ประสานงานทีมชาติไทย) และโค้ช คือคุณปีเตอร์ รีด และคุณสตีฟ ดาร์บี้ และสำหรับจดหมายเชิญให้มาร่วมทีมชาติไทยในเดือนมิถุนายนเพื่อการทดสอบฝีเท้า ผมหวังว่าจะนำสิ่งดี ๆ และเต็มใจที่จะสู้สุดความสามารถ เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของทีมชาติไทยในอนาคต

เครดิต : สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์