“นักเตะเทวดา” โยฮัน ครอยฟ์

“นักเตะเทวดา” โยฮัน ครอยฟ์





“นักเตะเทวดา” โยฮัน ครอยฟ์



นักฟุตบอลน้อยคนนักที่จะได้รับการยกย่องว่าจัดอยู่ในระดับชั้นเดียวกับนักเตะระดับตำนานของโลกอย่าง เปเล่,ฟรานซ์ เบ็คเค่นเบาเออร์ และ ดีเอโก้ มาราโดนา

ในระดับทีมชาติแม้ว่าจะไม่เคยสัมผัสความเป็นแชมป์โลกมาก่อน และลงเตะทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกเพียงครั้งเดียว แต่ โยฮัน ครอยฟ์ ก็ได้รับการจารึกชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเตะระดับตำนานที่มีความสามารถระดับพรสวรรค์ที่โลกควรลำลึกถึงขั้นได้รับฉายาว่า “นักเตะเทวดา”

ความสำเร็จของ ครอยฟ์ ส่วนใหญ่มาจากในระดับสโมสร ไอแอกซ์ อัมสเตอร์ดัม คือทีมที่ ครอยฟ์ เข้ามาปลุกให้ตื่นและออกจากความมืดมน

ครอยฟ์ มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ตั้งแต่เด็กๆว่าจะต้องเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้ เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ก่อนออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 13 เพื่อหันมาเอาดีและให้ความสนใจเฉพาะฟุตบอลอย่างเดียว

จนกระทั้ง ไรนุส มเชลส์ ตำนานยอดโค้ชเห็นแววและจับมาปลุกปั้นตั้งแต่อายุยังน้อยจัดโปรแกรมให้เสร็จสรรพ์ทำให้มีพัฒนาการไปได้เร็วบวกกับความตั้งใจและพรสวรรค์ส่วนตัว และไม่นานก็ได้เป็นนักเตะอาชีพกับ ไอแอ๊กซ์

ครอยฟ์ ได้เป็นนักเตะตัวจริงของ ไอแอ๊กซ์ อย่างรวดเร็ว ก่อนคว้าแชมป์ลีก ดัตช์ ใบแรก จาก 9 แชมป์ของตัวเองกับ ยอดทีมแห่ง อัมสเตอดัม ด้วยวัย 19 ปี

หลังจากโชว์ฟอร์มอลังการให้ต้นสังกัดด้วยทักษะที่เยี่ยมยอดเหมือนเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้แต่กำเนิด ใช้ได้ดีทั้งสองเท้า ไม่นานก็ได้ติดทีมชาติ เล่นตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ บัญชาเกมรุกได้เฉียบคม

แต่จากความมั่นใจมากเกินไป พูดจาขวานผ่าซาก คนที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้า ครอยฟ์ จึงมีเยอะเป็นธรรมดาจนกระทั่งปี 1972 ครอยฟ์ โดนโหวตให้ถอดปลอกแขนกัปตันทีม ไอแอ๊กซ์ จากเสียง 13-3

กับชีวิตช่วงสั้นๆกับทีมชาติ ดัตช์ ครอยฟ์ ได้ติดทีมชาติครั้งแรกเกมกับ ฮังการี ปี 1966 ลงเล่นเพียง 48 เกมให้กับ “อัศวินสีส้ม” เกมสุดท้ายที่ครอยฟ์รับใช้ชาติคือเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1978 ที่อาร์เจนตินา

ความสำร็จสูงสุดของ ครอยฟ์ กับทีมชาติคือปี 1974 ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่เยอรมัน ฮอลแลนด์ไม่ได้รับการจับตามองมากนักไม่มีใครคิดว่าจะดีพอถึงแชมป์ หลังผ่านรอบคัดเลือกมาอย่างหืดจับ แต่ภายใต้การทำทีมของ ไรนุส มิเชล สภาพจิตใจของทีมเยี่ยมมากๆ ประกอบกับแท็กติก และจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่มาลงตัวอย่างถูกเวลา

หลังผ่านรอบแรก ฮอลแลนด์ โดนกล่าวถึงเป็นอย่างมากกับฟอร์มอันร้อนแรง และโดนปรับให้เป็นเต็งแชมป์ทันที และ ครอยฟ์ กับเพื่อนร่วมทีมอัศวิน ก็ไม่ได้ทำให้ชาวโลกผิดหวัง ในรอบสอง ฮอลแลนด์ ไล่ถลุงอาร์เจนตินา เจ้าภาพเละเทะ 4-0 นับเป็นเกมที่สวยงามที่สุดในทัวร์นาเมนต์

ขณะที่ แมตช์กับเยอรมันตะวันออกขุนพลดัตช์ชนะไป 2-0 แต่ก็มีปัญหามากมายในเกม ปิดด้วยเกมสุดท้ายของรอบสอง ฮอลแลนด์ ต้องเจอกระดูกชิ้นโตอย่าง บราซิล ที่จบเกมได้อย่างสง่างามกับชัยชนะ 2-0 เหนือทีมแซมบ้า ที่ครอยฟ์ ยิงประตูย้ำชัยให้ทีม ในนาทีที่ 65 เปนประตูที่ได้รับการยอมรับว่าสวยงามที่สุดในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก ทั้งเชิงฟุตบอล และเท็คนิค ลอยตัววอลเลย์ เสียบเสาเข้าประตูไป

ครอยฟ์ และเพื่อนร่วมทีมได้ฝ่าฟันผ่านไปอวดความสามารถในนัดชิงชนะเลิศเจอกับ เยอรมันปะทะนักเตะอย่าง แบร์ตี้ โฟกส์,เกิร์ด มุลเลอร์,เซปป์ ไมเออร์ ซึ่งทีมพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดในแมตช์นี้ เป็นโอกาสที่ใกล้เคียงเพียงครั้งเดียวของ ครอยฟ์ ที่จะได้สัมผัสแชมป์โลก แต่ก็ไม่สำเร็จ

ระหว่างศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่เยอรมัน ครอยฟ์ ประกาศตลอดเวลาว่า ทัวร์นาเมนต์ 4 ปีจากนั้น ที่อาร์เจนตินา จะไม่มีชื่อเขาลงเล่นแน่นอน เนื่องจากเจ้าตัวไม่อยากจะทิ้งครอบครัวไปใหนไกลๆเป็นเวลานานๆอีกต่อไป และนั่น คือจุดลงเอยของ ครอยฟ์ กับ “ดิ ออเรนจ์” ....

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์