2-1ยังดี กว่า 2-0ว่ะสู้ๆไทย

บอลไทยงานกร่อย เปิดบ้านนัดชิงซูซูกิ คัพ นัดแรก โดน เวียดนาม บุกมายิงพ่ายคาสนามราชมังคลากีฬาสถาน 1-2

ต่อหน้ากองเชียร์ 4 หมื่นกว่าคน ขณะที่ ปีเตอร์ รีด กุนซือชาวอังกฤษ ยอมรับเวียดนามเล่นเกมโต้กลับได้ดี "นายกฯ มาร์ค" ชี้นักเตะไทยอาจมุ่งมั่นเกินไป แต่เกมดีโดยเฉพาะครึ่งหลัง เสียดายลูกตีเสมอไม่น่าล้ำหน้า

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน "ซูซูกิ คัพ 2008" รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา นักเตะ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย พบ "ญวน" เวียดนาม ซึ่งทั้งสองทีมเคยเจอกันมาในนัดเปิดสนามและเป็นทีมไทยที่ชนะมา 2-0 โดยเกมนี้มีแฟนบอลเข้ามาชมเกือบเต็มความจุของสนาม  4 หมื่นกว่าคนรวมถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้ามาให้กำลังนักเตะไทยด้วย


 นัดนี้ทีมชาติไทยส่งผู้เล่น 11 คนแรกลงสนามประกอบด้วย ผู้รักษาประตู โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, กองหลัง ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ชลทิตย์ จันทคาม, สุรีย์ สุขะ, ณัฐพงษ์ สมณะ, กองกลาง ดัสกร ทองเหลา, สุรัตน์ สุขะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุธี สุขสมกิจ, กองหน้า ธีรเทพ วิโนทัย กับ ธีรศิลป์ แดงดา ขณะที่เวียดนามมี เลอ คอง วินห์ ศูนย์หน้าค่าตัวกว่า 20 ล้านบาทเป็นทีเด็ด


ไทยพ่ายเวียดนามคาบ้าน 2-0

เปิดเกมเล่นมานาทีที่ 9 ทีมไทยได้ทักทายก่อนจากลูกโขกของ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ แต่บอลไปตรงตัวนายประตูทีมญวนรับไว้ได้

นาที 13 สุธี สุขสมกิจ ได้โขกจ่อๆ แต่ผู้รักษาประตูเวียดนามซูเปอร์เซฟปัดข้ามคานไปได้หวุดหวิด หลังจากนั้นไทยเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า ขณะที่เวียดนามถอยลงไปตั้งรับทั้ง 11 คน

อย่างไรก็ตามนาที 40
เวียดนามโต้กลับเร็ว เหงียน วู ฟอง ได้จังหวะโขกบอลเสียบมุมประตูให้เวียดนามออกนำ 1-0 พอเอาบอลมาเขี่ยเล่นใหม่

นาที 43 แผงหลังไทยเคลียร์บอลไม่ขาด เหงียน เวียน ตรัน ได้บอลหลุดเดี่ยวลากเข้าไปในเขตโทษก่อนจะผ่านให้ เลอ คองห์ วิน ซัดโล่งๆ เข้าไป เวียดนามขึ้นนำ 2-0

หมดครึ่งแรก เวียดนามนำ 2-0

ครึ่งหลังทีมไทยแก้เกมส่ง อาทิตย์ สุนทรพิธ ลงแทน พิชิตพงษ์ เฉยฉิว

โดยนักเตะไทยยังครองบอลบุกเก่า แต่ยังเจาะไม่เข้า นาที 74 ทีมไทยเปลี่ยนตัวคนที่สองส่ง รณชัย รังสิโย ลงแทน ธีรเทพ วิโนทัย นาทีต่อมา ณัฐพงษ์ สมณะ เปิดบอลมาให้ รณชัย รังสิโย โหม่งบอลไปชนเสากระเด้งชนตัวนายประตูเวียดนามเข้าไป ไล่มา 1-2

ถัดอีกแค่ 2 นาที ทีมไทยน่าจะตีเสมอได้ เมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา ชาร์จบอลเข้าประตูไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน(ดูจากภาพช้าแล้วไม่ล้ำหน้า)

นาที 82 ทีมไทย เกือบได้ประตูตีเสมออีกหน แต่ลูกฟรีคิกของ อาทิตย์ สุนทรพิธ โดนนายประตูญวนพุ่งปัดได้หวุดหวิด จากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูได้ หมดเวลา เวียดนาม บุกมาชนะ 2-1 แต่ทีมชาติไทยยังมีโอกาสแก้ตัวในเกมนัดชิงชนะเลิศ นัดที่สองที่จะไปเล่นที่สนามมีดิง กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในวันที่ 28 ธันวาคม เวลา 19.00 น. ช่อง 7 สีจะถ่ายทอดสด


 หลังจบเกม ปีเตอร์ รีด กุนซือชาวอังกฤษที่พาทีมชาติไทยแพ้ในบ้านเป็นนัดแรกตั้งแต่เข้ามาคุมทีมเปิดเผยว่า นัดนี้เป็นเกมที่ดีและต้องยกเครดิตให้เวียดนามที่เล่นเกมโต้กลับได้ดีจนทีมไทยเล่นได้ยากลำบาก ทว่าในครึ่งหลังทีมไทยก็สามารถทำได้ดี แม้นัดนี้จะแพ้แต่เกมยังไม่จบยังมีนัดที่สองเหลืออีกเกม ส่วนลูกที่ทีมไทยยิงเข้าไปแล้วล้ำหน้าก็ต้องเชื่อคำตัดสินของผู้ตัดสิน

"ถ้าดูจากโอกาสที่ทีมไทยจะได้ประตูก็ต้องถือว่ามีเยอะ แต่ไม่สามารถทำได้เลยทำให้เป็นเกมที่เล่นลำบากเพราะโดนนำถึง 2 ประตู แต่ครึ่งหลังก็ยังพอใจที่ยิงมาได้ 1 ประตู ทว่าก็ต้องยอมรับว่าเวียดนามทำได้ดีเพราะทีมไทยบุกแล้วแต่ยิงไม่ได้ อย่างไรแล้วคงต้องไปว่ากันต่อในนัดที่สองซึ่งจะเป็นที่ต้องบุกไปเอาชนะที่เวียดนามให้ได้" ปีเตอร์ รีด กล่าว


ขณะที่ เฮนริเก้ คาลิสโต้ โค้ชชาวโปรตุเกสของเวียดนามกล่าวว่า

 จุดที่ทำให้ทีมชนะไทยได้คือการรวมกันเป็นหนึ่ง ช่วงแรกนักเตะเวียดนามแทบไม่ได้บอลเลย แต่พอผ่านไป 20 นาทีเริ่มจะทำเกมได้และในช่วงท้ายครึ่งแรกทีมไทยกดดันตัวเองเลยทำให้เวียดนามได้ประตู ทว่าชัยชนะนัดนี้ยังไม่เด็ดขาดเพราะต้องไปเล่นนัดที่สองอยู่ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่เชื่อว่านักเตะเวียดนามคว้าแชมป์ได้ในที่สุดด้วยสกอร์เหมือนครึ่งแรกในเกมนี้

 ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกมนี้เด็กอาจจะมุ่งมั่นเกินไป ทำให้ไม่นิ่ง แต่การครองเกมทำได้ดี โดยเฉพาะในครึ่งหลังทำได้ดีมาก ลูกที่ตีเสมอดูแล้วไม่น่าจะเป็นลูกล้ำหน้า ถ้าลูกนั้นได้เป็นประตูเกมอาจจะเปลี่ยนไป แต่การทำประตูได้ ถือว่ายังรักษาโอกาสสำหรับเกมนัดที่ 2 สำหรับการพัฒนากีฬาของไทย จะเน้นไปเรื่องของกีฬาอาชีพเป็นหลัก ส่วนทีมชาติถ้าจะไปฟุตบอลโลก คงต้องสร้างลีกฟุตบอลภายในให้แข็งแกร่งเสียก่อน

ทั้งนี้สำหรับความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทยต่อเวียดนาม ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ไทยแพ้ในการเล่นที่กรุงเทพฯ หลังจากเกิดขึ้นเมื่อ 37 ปีที่แล้ว ในการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2514 ไทย แพ้ 0-1


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์