วรพจน์แพ้หมดรูป ปล่อยโฮ ครวญช่วยพ่อไม่ได้

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008

ที่สังเวียนเวิร์กเกอร์ สเตเดียม กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ไฮไลต์ ที่คนไทยทั้งชาติต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอย เป็นการแข่งขันในรุ่นแบนตัมเวท รอบ 8 คนสุดท้าย ระหว่างวรพจน์ เพชรขุ้ม นักชกเสื้อกล้ามทีมชาติไทย วัย 27 ปี จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
 
เจ้าของเหรียญเงินในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว


พบกับลีออน อลาคอน นักชกจากคิวบา มหาอำนาจมวยสมัครเล่นของโลก ซึ่งหากวรพจน์กำชัยชนะได้อย่างน้อยก็จะซิวเหรียญทองแดงตุนไว้ก่อน พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนที่ 2 ที่คว้าเหรียญในโอลิมปิกเกมส์ได้ 2 ครั้งติดต่อกัน ต่อจากมนัส บุญจำนงค์ ที่ทำได้ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.

เกมการชกในยกแรก ทั้งคู่ต่างเดินเข้าหากัน วรพจน์ ปล่อยหมัดชุดตั้งแต่ต้นยก
 
แต่นักชกคิวบายกการ์ดกันไว้ ได้หมด แถมยังปล่อยหมัดซ้ายแม่นๆเข้าใบหน้าของนักชกไทยได้อย่างจะแจ้งถึง 2 ครั้ง จบยกแรกนักชกคิวบานำอยู่ 2-0 หมัด

ขึ้นยกที่ 2 วรพจน์รู้ว่าคะแนนเป็นรองจึงเดินหน้าเข้าใส่อย่างเต็มตัวและก็ตีตื้นตามขึ้นมาเป็น 1-2 หมัด แต่จากนั้นดูเหมือนลีออน อลาคอน จะจับทางของวรพจน์ได้ ตั้งการ์ดรับไว้ได้หมดแล้วปล่อยหมัดสลับซ้ายขวาสวนกลับมาเข้าใบหน้าของวรพจน์หลายครั้ง จบยกนี้นักชกไทยตามห่างถึง 1-5 หมัด
 
ยกที่ 3 วรพจน์ไม่มีอะไรจะเสีย เดินหน้าออกหมัดเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุทะลวงการ์ดของนักชกคิวบาได้ หนำซ้ำยังโดนหมัดสวนมาเป็นระยะๆจนเหมือนนักชกไทยจะแผ่วปลายไปเอง
หมดยกนี้ วรพจน์ตามห่างสุดกู่ถึง 1-9 หมัด ยกสุดท้าย

ยกที่ 4 นักชกไทยยังแก้เกมไม่ตก แม้จะได้คืนมา 1 แต้ม ตามมาเป็น 2-9 ในช่วงต้นยก แต่ช่วงปลายยกก็โดนนักชกคิวบาทำแต้มคืน 1 หมัด หมดยกสุดท้าย วรพจน์พ่ายแพ้
นักชกคิวบาไปอย่างยับเยิน 2-10 หมัด ร่วงตกรอบ 8 คนสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดาย


หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน วรพจน์ถึงกับร้องไห้ สะอึกสะอื้น พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า
 
รู้สึกเสียใจมากที่ไม่สามารถทำได้สำเร็จ ในช่วงยกแรกตนพยายามเดินออกหมัดแล้ว แต่คะแนนไม่ขึ้น หลังจากนั้นในยกต่อๆมายิ่งต่อยมากเท่าไหร่แต่คะแนนไม่ขึ้นเลย ก็รู้สึกท้อเหมือนกัน จริงๆแล้วกรรมการที่ให้คะแนนก็มีกรรมการจากเอเชียรวมอยู่ด้วยก็น่าจะกดให้คะแนนบ้าง อย่างไรก็ตาม
เมื่อผลออกมาเช่นนี้ก็ต้องยอมรับ ซึ่งก่อนหน้าตนก็หวังที่จะเอาเหรียญรางวัลโอลิมปิกครั้งนี้กลับไปให้บิดาซึ่งเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดให้ได้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ต่อสู้กับโรคร้าย แต่เมื่อทำไม่สำเร็จยิ่งทำให้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากก็ต้องขอโทษญาติพี่น้องและคุณพ่อรวมทั้งแฟนมวยชาวไทยทั้งประเทศที่คว้าเหรียญรางวัลกลับไปไม่ได้ แต่ตนก็ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนอนาคตจะเล่นต่อหรือไม่ขอปรึกษากับผู้ใหญ่ของสมาคมก่อน  

ด้าน “เสธ.วีป” พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า


จริงๆแล้วก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรมากนัก เพราะเห็นว่าวรพจน์ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งเท่าที่ผ่านมาเขาก็เป็นนักมวยที่มีความพยายามและตั้งใจจริง ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง แต่การพ่ายแพ้ในวันนี้ต้องโทษโค้ชที่วางแผนผิดพลาดมากกว่า วันนี้เราเจอกับนักชกคิวบาซึ่งเป็นนักชกสไตล์ที่บล็อกเหนียวแน่นและต่อยเร็ว แต่โค้ชของเรากลับให้วรพจน์เดินเข้าต่อยตรงๆ ซึ่งเป็นการวางแผนที่ผิด อีกทั้งการเดินเข้าชกตรงๆยังไม่ใช่สไตล์การชกของวรพจน์ ที่ชอบเดินเข้าชกจากด้านข้างในจังหวะฉาบฉวยมากกว่าด้วย ซึ่งตนก็ได้ตะโกนบอกจากข้างสนามแล้ว แต่สตาฟฟ์โค้ชก็ยังเฉย ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ก็คงต้องกลับไปคุยกันอีกครั้ง
 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์