แพ้อีกแล้ว!! ไทยเจอออสเตรเลียเฉือนหวิว 1-2 ส่งท้ายบอลโลก

ช้างศึกต้านทานความแข็งแกร่งของเกมรุก ออสเตรเลียไม่ไหว บุกพ่าย 2-1 ส่งท้ายเวิลด์คัพรอบคัดเลือกโซนเอเชีย

เมื่อวันที่ 5 กันยายน การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 10 ระหว่างทีมชาติ ออสเตรเลีย อันดับ 3 พบกับ ทีมชาติไทย อันดับ 6 ที่สนาม เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม เวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

อันเก ปอสเตโคกลู กุนซือฝีปากกล้า ล่าสุดพ่ายให้กับ ญี่ปุ่น 2-0 ทำให้สถานการณ์ต้องชนะ ไทย เพียงสถานเดียว เพื่อไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ รัสเซีย 2018 ในฐานะอันดับ 2 เกมนี้ ทิม เคฮิลล์ สตาร์ดังของทีมสวมปลวกแขนนำทัพพร้อมแกนหลักอย่าง เทรนท์ เซนส์บิวรี่ , แมทธิว เลคกี้ , และ อารอน มูย

ช้างศึก ล่าสุดพ่าย อิรัก 2-1 ยังเป็นทีมเดียวที่ยังไม่ชนะใคร ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12ทีมสุดท้ายเกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช หมดสิทธิ์ใช้งาน ฐิติพันธ์ พ่วง ที่ติดโทษแบนแต่แกนหลังยังอยู่ครบ ปกเกล้า อนันต์ กลับมาลงสนามอีกครั้งในแผงกลาง ร่วมกับ ธีราทร บุญมาทัน แดนหน้าใช้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จับคู่ ธีรศิลป์ แดงดา

เริ่มเกมเพียง 2 นาที ออสเตรเลีย ได้ลุ้นประตูขึ้นนำแรกเมื่อ แมทธิว เลคกี้ หลุดขึ้นมาทางกราบขวาก่อนจ่ายไปให้ โธมัส ยูริช ยิงหลุดเสาแรกไป

น. 6 ออสเตรเลีย หวิดได้ประตูขึ้นนำสำเร็จเมื่อ แมทธิว เลคกี้ หนีการประกบผู้เล่นไทยก่อนหลุดเข้าไปจ่ายให้ อารอน มอย ยิงชนเสาสองหลุดออกหลังไป

น. 9 ไทย ลุ้นจังหวะจบสกอร์ครั้งแรกเมื่อ ชนาธิป สรงกระสินธ์ พาบอลขึ้นหน้าจากกลางสนามก่อนจ่ายให้ ธีรศิลป์ แดงดา ได้ยิงเต็มข้อแต่ไม่ตรงกรอบ

น.12 ออสเตรเลีย ได้ยิงตรงกรอบอีกหนเมื่อ แมทธิว เลคกี้ คนเดิมหลุดขึ้นมาทางกราบขวาจ่ายไปหน้ากรอบเขตโทษเป็น โธมัส ยูริช ได้ยิงบอลตรงกรอบ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล รับกระฉอกแต่ยังตามเก็บไว้ได้

น.16 ออสเตรเลีย พลาดได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ โธมัส ยูริช ฉกบอลจากผู้เล่นไทยได้ก่อนยิงผ่านมือ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล แต่บอลไปชนในกระดอนออกหลังไป

น. 25 ออสเตรเลีย หวิดได้ประตูขึ้นนำสำเร็จเมื่อ อารอน มอย เปิดลูกเตะมุมบอลโด่งมาจังหวะสอง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ออกมาปัดไม่โดนบอลเข้าทาง มาร์ค มิลลิแกน ยิงจ่อๆชนคาน

น.30 ไทย ได้ลุ้นประตูอีกหนเมื่อ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา หลุดขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนครอสไปในเขตโทษเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ได้โหม่งบอลตรงกรอบแต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกฟาวล์

น. 37 ออสเตรเลีย ได้ลุ้นประตูจากจังหวะ ที่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล กำลังจะออกบอลเร็วแต่เท้าเลยออกมาข้างนอกกรอบเขตโทษผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกฟรีคิกสองจังหวะหน้ากรอบ20หลาเป็น โธมัส ยูริช ได้ซัดข้ามคานไป

น.39 ออสเตรเลีย พลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อ แมทธิว เลคกี้ หลุดไปหน้ากรอบเขตโทษก่อนยกบอลไปให้ โธมัส ยูริช ได้วอลเลย์หน้าเส้นประตูแต่ อดิศร พรหมรักษ์ ยังตามมาบล็อกได้ทัน เวลาที่เหลือไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ก่อนหมดเวลาในครึ่งเวลาแรก สกอร์ 0-0

น. 70 ในที่สุด ออสเตรเลีย ก็มาได้ประตูขึ้นนำสำเร็จเมื่อ อารอน มอย ครอสบอลจากทางกราบซ้ายเป็น โธมัส ยูริช โฉบมาโหม่งผ่าน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เข้าไป เจ้าถิ่นนำ 1-0

น.72 ไทย ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงสนามแทน สรรวัชญ์ เดชมิตร

น.77 ออสเตรเลีย ได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะชุลมุนหน้าเขตโทษเป็น โธมัส ยูริช ได้ยิงในจังหวะสุดท้ายแต่ติดแผงหลังไทย

น.78 ไทยเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สอง ส่งแนวรุกอย่าง นูรูล ศรียานเก็ม ลงสนามแทน ชนาธิป สรงกระสินธ์

น.80 ออสเตรเลีย ได้ลุ้นประตูทิ้งห่างอีกครั้งเมื่อ โธมัส ยูริช หลอกแผงหลังไทยเปิดช่องก่อนยิงติดเซฟ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล

น. 82 ไทยมาได้ประตูตีเสมอสำเร็จเมื่อ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ได้บอลจาก สิโรจน์ ฉัตรทอง ก่อนจ่ายตัดหลังให้ ปกเกล้า อนันต์ ได้ยิงบอลตกลงใต้คานเข้าประตูไป ไทย ตีเสมอ เป็น 1-1

ช่วงท้ายเกม ออสเตรเลยมาได้ประตูชัยจากการยิงของ โธมัส ยูริช เวลาไม่ที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติมเป็น ออสเตรเลีย เปิดบ้านเอาชนะ ไทย ไป 2-1 รั้งรองจ่าฝูงแต่ยังไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซีย อันตโนมัติ แบบร้อยเปอร์เซ็นหลัง ซาอุดิอาระเบีย ทีมอันดับ 3 ที่มี 16 แต้มมีโปรแกรมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ญี่ปุ่น ในเวลา 00.30 น.

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ทีมชาติออสเตรเลีย : แม็ทธิว ไรอัน (GK), มิลอส เดเกเนค, แมทธิว สปิราโนวิช, เทรนท์ เซนต์บิวรี,มาร์ค มิลลิแกน, ไบรีย์ ไรท์ (เจมี แมคคาเลน น.71),อเล็กซานเดอร์ เกอร์สบัก (เจมส์ ทรอยซี น. 66) , โธมัส ยูริช, อารอน มอย, แมทธิว เลคกี้ , ทิม เคฮิลล์ (ร็อบบี้ ครูส น. 55)

ทีมชาติไทย : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK)อดิศร พรหมรักษ์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์ ,ทริสตอง โด, ปกเกล้า อนันต์, ธีราทร บุญมาทัน, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา , สรรวัชญ์ เดชมิตร , ชนาธิป สรงกระสินธ์(นูรูล ศรียานเก็ม น. 79), ธีรศิลป์ แดงดา

CR::::GOAL.COM/TH