ธีรศิลป์ลงสำรอง ยิง1จ่าย1 พากิเลนยึดฝูงคืน

การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2017 ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2560 ในเวลา 19.00 น. เป็นเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มแกร่งถล่ม บริสเบน โรร์ จากออสเตรเลีย ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 3-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเกมวันนี้ เปิดบ้านที่สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม พบกับ "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ

เกมในวันนี้ "กิเลนผยอง" ของ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน มีปัญหาในการจัดทีมพอสมควรหลังลูกทีมกรำศึกหนักมาหลายเกมติดต่อกัน โดยไม่มี ซิสโก้ ฆิมิเนส กองหน้าชาวสเปน ทั้งในรายชื่อทั้งตัวจริง และตัวสำรอง แถมตัวหลักอย่าง ทริสตอง โด, นาโออากิ อาโอยามะ, รัชพล นาวันโน และ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น

สำหรับ 11 ตัวจริงของ "กิเลนผยอง" นั้น ใช้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู ส่วนแนวรับ 3 คน ใช้ อดิศร พรหมรักษ์, เซลิโอ และ สุพรรณ ทองสงค์ ขณะที่กองกลางนั้น มี ธีราทร บุญมาทัน ขึ้นเกมทางด้านซ้าย และมี พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ อยู่ทางฝั่งขวา โดยมี วัฒนา พลายนุ่ม กับ อี โฮ เป็นสองกองกลางตัวรับ และใช้ ศนุกรานต์ ถิ่นจอม ปั้มเกมร่วมกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หลังกองหน้าจำเป็นอย่าง มงคล ทศไกร

ส่วน สุพรรณบุรี ของ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรจากเกมที่ถล่ม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โดยใช้ผู้รักษาประตูกัปตันทีมอย่าง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เป็นนายด่านคนสุดท้าย โดยมี อนาวิน จูจีน, วสันต์ ฮมแสน, มาร์เซโล ซาเวียร์, นพพล ปิตะฝ่าย เป็น 4 แนวรับจากขวาไปซ้าย เขยิบขึ้นมาในแดนกลางมี อดุล หละโสะ กับ ชาริล ชัปปุยส์ คอยคุมเกม และเก็บกวาดเกมรุกสุดฉกาจของเมืองทอง โดยมี นิโคลัส เวเลซ และ ดิเอโก มาดริกัล คอยกระชากลากเลื้อย ปั้มเกมให้กับสองกองหน้าฟอร์มดีอย่าง ชนานันท์ ป้อมบุปผา และ กิเญร์เม เดลลาตอร์เร่

เริ่มเกมขึ้นมาเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น เมืองทอง ก็มีโอกาสก่อนจากจังหวะเปิดลูกเตะมุมของ ธีราทร ทางฝั่งขวา บอลโค้งจะเข้าเสาสองอยู่แล้ว แต่ยังมีแนวรับของสุพรรณฯ สกัดออกมาได้ทัน
นาทีที่ 8 ทีมเยือนได้จังหวะลุ้นทำประตูบ้าง โดยเป็นทางด้าน เดลลาตอร์เร่ ที่ทะลุไลน์กองหลังของเจ้าบ้าน หลุดเข้าไปยิง ในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย แต่กวินทร์ยังล้มตัวปิดมุมบล็อกบอลออกหลังไปไว้ได้

นาทีที่ 12 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ส่องไกล แต่บอลพุ่งไปเข้ามือของ สินทวีชัย ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี
นาทีที่ 31 เป็นจังหวะที่ใกล้เคียงที่สุดของ "กิเลนผยอง" โดย ชนาธิป ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนกดด้วยซ้าย บอลพุ่งผ่านเสาสองออกไปนิดเดียว
หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้ในครึ่งแรก จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0
น.50 เมืองทอง เกือบขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะชนาธิป จ่ายบอลสุดฉลาดทะลุให้กับ พิทักษ์พงษ์ ที่หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ แต่ดันยิงไม่ดีพอ ไปติดตัว สินทวีชัย ที่ออกมาปิดมุมไว้ได้ทัน
น.51 ถัดมาอีกแค่นาทีเดียว ธีราทร บุญมาทัน ได้เติมขึ้นมายิงในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่บอลก็ปลิ้นหลังเท้าออกหลังไป

ผ่านไป 51 นาที ธีรศิลป์ แดงดา ได้ลงสนามมาในช่วง 40 นาทีสุดท้ายแทนที่ของ ศนุกรานต์ ถิ่นจอม
น.54 สุพรรณบุรี แก้เกมบ้าง โดยถอด ชนานันท์ ป้อมบุปผา ออก และส่งพงศกร สีรอดลงมาเล่นแทน
น.58 ทริสตอง โด เป็นตัวหลักอีกหนึ่งรายของเมืองทอง ที่ได้ลงสนาม หลังจากยังเสมออยู่ 0-0 แทนที่ของ พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ

น.68 เมืองทองเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะพุ่งโหม่งของ มงคล ทศไกร จากลูกเปิดของธีราทรทางฝั่งซ้าย แต่ว่าบอลไม่โดนเต็มหัว หลุดออกหลังไป

น.70 Goal!! ในที่สุด เมืองทอง ก็ได้ประตูออกนำจนได้จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา ทำชิ่ง 1-2 กับ ทริสตอง โด ก่อนหลุดเข้าไปจับบอลหลบแนวรับสุพรรณฯ แล้วกระดกบอลข้ามตัวสินทวีชัยเข้าไปอย่างเหนือชั้น ให้ กิเลนผยอง ออกนำ 1-0

น.76 ทั้งสองทีมมีการแก้เกม หลังจากมีประตูแรกเกิดขึ้น โดย พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ลงแทนที่ วัฒนา พลายนุ่ม ส่วนสุพรรณบุรี ส่ง ณภัทร ธำรงศุภกร ลงมาหวังทำประตูแทนที่ของ ชาริล ชัปปุยส์

น.86 Goal!!! เมืองทองมาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา ดึงบอลไว้กับตัวก่อนป้ายให้กับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งแฉลบมาร์เซโล่ ก่อนจะเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมืองทองมาได้ประตูปิดกล่อง จากจังหวะที่ชนาธิป รับบอลในเขตโทษก่อนจะพยายามป้ายกลับคืนมาให้ธีราทร แต่บอลไปแฉลบ มาร์เซโล่ เข้าประตูตัวเอง ให้เมืองทอง นำห่าง 3-0