รู้จักผู้ชายคนนี้ ‘สารัช อยู่เย็น’ กัปตันทีมจอมแกร่งช้างศึกไทยแลนด์

ทีมชาติไทยคว้าชัย 5 เกมรวด ลอยลำเข้ารอบรองชนะเลิศไปรอพบกับผู้ชนะระหว่างเจ้าภาพสิงคโปร์และอินโดนีเซียที่จะลงฟาดแข้งชี้ชะตาช่วงค่ำวันนี้ "กัปตันตัง" พร้อมพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์


แม้เกมกับเวียดนามเมื่อวันพุธที่ผ่านมาจะได้นั่งพักข้างสนาม แต่ "กัปตันตัง" สารัช อยู่เย็น จอมทัพแดนกลางของทีมชาติไทยเชื่อว่า ช้างศึกสู้ได้ทุกทีม แและแม้จะต้องเจอกับเจ้าภาพสิงคโปร์ก็ไม่หวั่น เชื่อเสียงเชียร์แฟนฟุตบอลเจ้าภาพเป็นบททดสอบสมาธิทีมชาติไทย

ดาวรุ่งวัย 23 ปี แต่ผ่านประสบการณ์ระดับชาติมาแล้วหลายรายการ เป็นกำลังหลักของเอสซีจีเมืองทองยูไนเต็ด และเป็นขวัญใจแฟนฟุตบอลทีมชาติไทยในการแข่งขันทุกระดับตั้งแต่เอเอฟเอฟ ซูซุกิคัพ 2014 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก และล่าสุดได้รับความไว้วางใจจาก "โค้ชซิโก้" ให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมนำทัพช้างศึกลุยบุ๊ฟุตบอลซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์

เจ้าหนูมหัศจรรย์

สารัช อยู่เย็น เติบโตมาจากทีมเจ้าสัวน้อย อัสสัมชัญ ธนบุรี และติดทีมชาติตั้งแต่ชุดเล็กมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากเซ็นสัญญากับกิเลนผยอง เมืองทอง ยูไนเต็ดเมื่อปี 2010 "เจ้าตัง" ในวัย 17 ปีถูกส่งตัวไปฝึกฝนฝีเท้าลับแข้งกับทีมพันธมิตรแดนใต้ ภูเก็ตเอฟซี จนกลายเป็นหัวใจเกมบุกของกิเลนทะเลใต้ ได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงเกือบทุกเกมตลอดปี 2010 และ 2011 ลงสนาม 72 นัด ยิง 14 ประตู และจ่าย 15 แอสซิสต์ ก่อนที่จะถูกดึงตัวกลับมาเล่นกับเมืองทองยูไนเต็ดในช่วงปี 2012 แม้จะยังต้องนั่งเป็นตัวสำรองเกือบตลอดปีและปล่อยให้นครราชสีมายืมตัวไปใช้ 1 ฤดูกาลในช่วงฤดูกาล 2013

 


รู้จักผู้ชายคนนี้ ‘สารัช อยู่เย็น’  กัปตันทีมจอมแกร่งช้างศึกไทยแลนด์

ช่วงเวลาสาหัสของเด็กวัยรุ่นคือช่วงปลายปี 2011 ที่คุณพ่อมานพ อยู่เย็น มีอาการป่วยหนัก แต่เจ้าตังยังติดภารกิจรับใช้ชาติในฟุตบอลซีเกมส์ที่อินโดนีเซีย แม้จะรักและห่วงพ่อ แต่ความรับผิดชอบเพื่อชาติของเด็กหนุ่มวัย 19 ทำให้ต้องกัดฟันเก็บของร่วมทัพช้างศึกไปรับใช้ชาติ แม้สุดท้ายจะไม่สามารถผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศก็ตาม


หลังกลับมาจากทีมชาติ เจ้าตังก็ต้องพบกับข่าวร้ายเมื่อต้องสูญเสียคุณพ่อไปด้วยอาการติดเชื้อไวรัสในสมอง ทำให้เด็กหนุ่มวัย 19 ปีในฐานะลูกชายคนโตต้องยืดอกรับภาระเป็นเสาหลักดูแลแม่และน้องชาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความเป็นผู้นำที่เติบโตเกินวัยทั้งในและนอกสนาม

ความท้าทายครั้งใหม่

หลังจากนั่งสำรองกับเมืองทองในฤดูกาล 2012 จนถูกปล่อยตัวให้นครราชสีมายืมไปใช้งาน ช่วงฤดูกาล 2013 กลายเป็นช่วงโชว์ฟอร์โดดเด่นของสารัชในตำแหน่งจอมทัพฮาร์ดแมนของสวาทแคท จนต้นสังกัดเมืองทองยูไนเต็ด ตัดสินใจดึงตัวกลับคืนรังกิเลนผยองให้ยืนเป็นเสาหลักเกมรับกับดัสกร ทองเหลา เป็นคู่ปราการสุดแกร่งของเอสซีจีเมืองทองยูไนเต็ด

"ผมได้เรียนรู้จากพี่โก้ (ดัสกร ทองเหลา) เยอะ
" สารัช กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ ESPNFC "พี่โก้เป็นผู้นำที่ดีในสนามและเป็นตัวอย่างของนักเตะที่รักษาวินัยในการใช้ชีวิตนอกสนาม ผมดีใจที่ได้เรียนรู้จากพี่โก้"

การเรียนรู้จากดัสกร ทองเหลา อาจเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้สารัชได้โอกาสลงสนาให้กิเลนผยองบ่อยครั้งและทำผลงานยอดเยี่ยมเข้าตา "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ตัดสินใจเรียกตัว "เจ้าตัง" ติดทีมชาติชุดใหญ่

ซิโก้คาดการณ์ไม่ผิด สารัช โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในเอเอฟเอฟซูซุกิคัพ แม้จะมีจังหวะสับสนตำแหน่งอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ความสามารถในการปรับตัว ขยับหาพื้นที่ จ่ายบอลอย่างฉลาดและความหนักแน่นในจังหวะยิงไกล ทำให้สารัชกลายเป็นตัวเปิดเกมของทีมชาติไทย และถูกสื่ออาเซียนที่ได้เห็นฟอร์มสุดยอดของเจ้าตังถึงกับตั้งฉายาให้ว่า "เชสก์ ฟาเบรกาส เมืองไทย"

รู้จักผู้ชายคนนี้ ‘สารัช อยู่เย็น’  กัปตันทีมจอมแกร่งช้างศึกไทยแลนด์

กัปตันทีมชาติไทย


ฟุตบอลซีเกมส์ 2015 สารัช อยู่เย็น ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติไทยอย่างเต็มภาคภูมิ และย้ำความแข็งแกร่งของแชมป์เก่าซีเกมส์ 2013 ด้วยการพาทีมชาติไทยเก็บชัย 4 เกมแรกในรอบคัดเลือกกลุ่ม บี ผ่านเข้ารอบไปได้เป็นทีมแรก ก่อนจะถูกพักตัวในเกมกับเวียดนามเมื่อวานนี้ 

"โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ อดีตปราการหลังทีมชาติไทยเจ้าของฉายานกกระยางดำ กล่าวว่าการปล่อยให้สารัชได้พักจากเกมเพื่อรักษาสภาพร่างกายสำหรับเกมรอบรองชนะเลิศก็ไม่มีผลกระทับกับเกมแน่นอน "ไม่ว่าจะเป็นนักเตะสำรองหรือตัวหลัก ทุกคนมีความสามารถทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง ทุกคนพร้อมที่จะเล่นเต็มที่เพื่อชาติ"

และแม้จะไม่ได้ลงสนามในเกมกับเวียดนาม ทีมชาติไทยก็โชว์ฟอร์มเฉียบ ถล่มเอาชนะทีมชาติดาวทอง 3-1

โชคทวีกล่าวว่า "สารัชเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้ทีมชาติไทยได้ทุกพื้นที่ทั่วสนาม และมีประสบการณ์จากการเล่นให้กับทีมชาติในรายการใหญ่ๆ อย่างเอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ และเกมใหญ่ๆ ตลอดปีที่ผ่านมา"

"ในฐานะกัปตันทีม สารัชมีคุณสมบัติยอดเยี่ยมสำหรับการเป็นผู้นำ และสามารถสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทีม"

และสารัชก็ตอบแทนความเชื่อมั่นของสองโค้ชอย่างเต็มความสามารถ "โค้ชโชคและโค้ชซิโก้ เป็นสุดยอดโค้ขของไทย และที่โค้ชเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันของทีมทำให้เราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง"

นอกจากจะเป็นผู้นำ และผู้สร้างความแข็งแกร่งให้กับทีม "กัปตันตัง" ยังเป็นฮีโร่ของทีมชาติไทยในเกมที่ต้องเจอกับเกมตั้งรับเหนียวแน่นของเสือเหลืองมาเลเซียจนกองหน้าแทบไม่มีจังหวะเข้าไปยิง และเป็นกัปตันตังที่สับไกยิงนอกกรอบให้ไทยเก็บชัยเกมที่ 3 ในรอบคัดเลือก



นาที 1:00 จังหวะยิงไกลเครื่องหมายการค้าของ "กัปตันตัง" ช่วยให้ไทยเฉือนชนะมาเลเซีย 1-0

fourfourtwo.com/th

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์