รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand (Singapore Sports Hub)

หลาย หลายคน คงสงสัยว่า เอ๊ะ !!! ทำไม ? รอบรองชนะเลิศ ไทยเราต่อบอลกันได้เนียนตาจัง ?


สภาพสนามเป็นตัวแปรที่สำคัญในการ Control Ball เนื่องจากในรอบแรกเราเล่นในสนาม


ที่ยากลำบากในการควบคุมลูกฟุตบอลมาก่อน เมื่อมาเจอสภาพสนามที่เรียบง่ายกว่าเดิม ก็เหมือนกับว่าเราเคยผ่าน อะไรที่มันยากกว่ามาก่อนแล้ว พอมาเจอสิ่งที่ง่ายกว่า มันก็ไม่ต้องปรับตัวมากนักในการควบคุมลูกฟุตบอล ต่างจากทีมของสาย A ซึ่งแตกต่างจากเรามาก เขาเจอสภาพสนามที่เรียบง่ายมาก่อน การ Control Ball ที่ง่ายกว่า พอมาเจอสภาพสนามของ (Singapore Sports Hub) ที่ Control Ball ได้ยากลำบากกว่า สนามที่เคยผ่านมาในรอบแรก จึงทำให้มักมีปัญหาในเรื่องการควบคุมลูกฟุตบอล ซึ่งต่างจากไทยเรามาก แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยเพราะเราเคยผ่านสิ่งที่มันย่ำแย่กว่ามาแล้วนั้นเอง

(หลายๆคนอาจยังไม่รู้ว่า สภาพสนาม Singapore Sports Hub ด้านล่างถูกปูด้วยพื้นทรายและด้านบนเป็นหญ้าเทียมผสมหญ้าจริง สภาพสนามแห่งนี้จะกินแรงนักเตะในการวิ่งและเสี่ยง


ต่อการเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย ถึงขนาดที่แมตช์การอุ่นเครื่องกับ Juventus ที่สนามแห่งนี้


"ยูเว่"
ไม่ยอมส่งนักเตะซุปเปอร์สตาร์ค่าตัวแพงลงสนามมาแล้ว เพราะกลัวเรื่องการเกิด
อาการบาดเจ็บจากสภาพสนามที่ย่ำแย่มาแล้วนั่นเอง)


รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand


รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

" เกมรับที่ดี คือเกมรุกที่ดี " คติประจำใจทีมชาติไทยในยุคนี้

ความหมายของเกมรับที่ดีในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการให้ทีมชาติไทยเล่นในเกมรับ
แต่ความหมายของเกมรับของทีมชาติไทยนั้นหมายถึง การ "เพรสซิ่ง" ที่ดี
คือเกมรุกที่ดี ตราบใดที่เราเพรสซิ่งเพื่อแย่งบอลมาจากคู่ต่อสู้ ให้คู่ต่อสู้ครองบอลให้น้อยที่สุด นั้นแหละ คือเกมรับที่ดีที่สุดของโลกฟุตบอล เราไม่จำเป็นต้องเล่นเกมรับ แต่เราอาศัยการช่วยกันแย่งบอลเพื่อปิดเกมรุกของคู่ต่อสู้ ก็เท่ากับปิดโอกาสในการ


ทำประตูและเกมรุกของคู่ต่อสู้ไปในตัว ฉนั้นเราจึงยังไม่เห็นทีมชาติไทยเล่นเกมรับในยุคที่ "ซิโก" เป็นโค๊ช เพราะคู่ต่อสู้ของเรายังตีโจทย์แก้เกมการเพรสซิ่งของไทยเรา
ยังไม่ได้นั่นเอง


รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

เราเคยเจอ Myanmar มาแล้วในรายการ อุ่นเครื่องปรีซีเกมส์
ที่ "ราชมังคลากีฬาสถาน" และในวันนั้น "ไทย" สามารถเอาชนะไปได้
ด้วยสกอร์ 4 - 0 ซึ่งในวันนั้น 8 ใน 11 ตัวของนักเตะ Myanmar
คือตัวจริงที่ลงเล่นในนัดตัดเชือกที่ Myanmar เฉือนชนะ Vietnam
ไป 2 - 1

รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

และในวันนั้น 3 ใน 11 ตัวของนักเตะ "ไทย" คือตัวจริงที่ลงเล่น
ในนัดตัดเชือกที่เราถล่ม Indonesia ไป 5 - 0
ซึ่งจะเข้าตำราที่ว่า " เรารู้เขา แต่เขาไม่รู้เรา " ?




Myanmar Formation (4 - 5 - 1)

ในวันนี้เราอาจจะต้องเจอรูปแบบการแพ็คแดนกลางที่แน่น ในแบบที่เวียดนามเจอ

ไม่ว่าวันนี้ Myanmar จะมาในรูปแบบไหน รถบัส ? หรือ เปิดเกมรุกเข้าใส่ ?
ล้วนแล้วแต่เป็นผลดีต่อ "ไทย" เราทั้งสิ้น

ถ้ามาในรูปแบบ "รถบัสเปิดประทุน"


ด้วยรูปแบบ Formation ของพม่าที่เน้นการเล่นเกมรุกแล้ว
แต่ถ้าหันไปเล่นเกมรับในรูปแบบที่ตัวเองไม่ถนัด ก็เท่ากับรอวันเสียประตู
อย่าลืมนะครับว่า Myanmar ใช้โชคชะตามาเยอะแล้วใน Tournament นี้
โชคชะตาในเกมฟุตบอล ไม่ได้มีมาให้ตลอดไป มันมาแล้วมันก็จากไป
ฟุตบอลจะหวังพึ่ง โชคชะตา ไปตลอดก็ไม่สามารถก้าวไปให้ถึงฝั่งฝันได้
มันต้องมีรูปแบบของการเล่น และฝีมือเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ด้วยเสมอ
(คุณได้ใช้ตัวช่วยไปหมดแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องมาวัดกันด้วยฝีมือ ว่าใครสมควรที่จะเป็นผู้ชนะ)

ถ้ามาในรูปแบบ "เปิดเกมรุกเข้าใส่"


ใน Tournament นี้ ทีมชาติ "ไทย" ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่ว่าทีมไหนก็ตาม


ที่คิดจะมาเปิดเกมรุกแลกกับทีม "ไทย" สุดท้ายก็ต้องเดินกลับบ้านไปอย่างผู้แพ้ตลอดมา


รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand


จาก Formation ( 4 - 5 - 1 ) ดังรูป
* สีแดง Myanmar
* สีน้ำเงิน ทีมชาติไทย

เราจะเห็นได้ว่าพื้นที่แดนกลางของเราจะถูกล้อมรอบไปด้วยผู้เล่น Myanmar
ในพื้นที่ Zone 1 จะถูกแพคแน่นไปด้วยผู้เล่น Myanmar ถึง 5 / 3 คน
และในพื้นที่ Zone 2 จะถูกแพคแน่นไปด้วยผู้เล่น Myanmar ถึง 5 / 3 คน
ซึ่งระบบนี้ Myanmar ใช้ในนัดที่เจอกับ Vietnam มาแล้ว โดยจะมีพื้นที่ว่าง
ทางด้านริมเส้นทั้ง 2 ฝั่งให้เราได้เล่นอยู่มากพอสมควร สิ่งที่วันนั้นเวียดนามไม่มี
คือ ความแม่นยำ และการ switch ball ที่ช้าเกินไป ไม่มีการถ่ายบอลไปมา
เพื่อเปิดพื้นที่ในแนวรับ เพราะเวียดนามได้แต่สาดตูมๆ เพื่อรีบให้บอลไปให้ถึงประตูอีกฝ่าย
"นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้เวียดนามแพ้ในวันนั้น"

จุดอ่อนของ Myanmar ตลอดทั้ง Tournament ก็คือลูกโด่ง
กองหลังของ Myanmar ในชุดนี้จะมองบอลเพื่อให้บอลมาถึงตัวแล้วจึงโหม่ง
ถ้าเราโฉบเข้าหาบอลก่อนคู่ต่อสู้ แบบที่ เวียดนาม พยายามทำมาตลอดทั้งเกม
มีโอกาสสูงมากที่เราจะได้ประตูจากลูกโด่งในวันนี้

Myanmar ชุดนี้ "คิดช้า ทำช้า"
แพ้การเข้า เพรสซิ่งเร็ว จะมีปัญหาทุกครั้งที่โดนเข้าบอลเร็ว
ทำให้จ่ายบอลเสียบ่อยมาก ถ้าไทยเรา เพรสซิ่ง อย่างนัดที่ผ่านๆมา
โอกาสที่เราจะปิดเกมรุกของ Myanmar ก็มีมากเลยทีเดียว
แต่ทางตรงกันข้ามกัน ถ้าเรายิ่ง "เพรสซิ่ง" ช้ามากเท่าไร ปล่อยให้
นักเตะ Myanmar มีโอกาสได้มีเวลาคิด มีเวลาตัดสินใจ ก็เท่ากับเรา
ได้ยื่นเกมบุกให้คู่ต่อสู้ในทันที (อย่างที่เวียดนามทำให้เห็นมาแล้ว)

การหลุดตำแหน่งของ Line Defend


รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

DC หมายเลข 27 เป็นนักเตะที่หลุดตำแหน่งของตัวเองบ่อยมาก
จากรูปเราจะเห็นได้ว่า เขาหลุดตำแหน่งของตัวเองเพื่อขึ้นไปประกบ
Cong Phuong ทำให้เปิดพื้นที่ว่างในแนวรับเป็นช่องโหว่ที่ใหญ่มาก
ไม่ใช่หลุดตำแหน่งเพียงแค่ ครั้ง 2 ครั้ง แต่ตลอดทั้งเกมเลยก็ว่าได้

แนวรับตัวกลาง 3 คน ได้แก่


MC หมายเลข 8 TUN Nay Lin
MC หมายเลข 6 BO Hlaing Bo
DM หมายเลข 21 YE Ko Oo

ยืนตำแหน่งของตัวเองได้มั่วมากกตลอด Tournament
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่า Myanmar รอดมาถึงนัดชิงได้อย่างไร ?


รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

การยืนตำแหน่ง Line ของกองหลัง 4 ตัว จะต้องมีตัวใดตัวหนึ่งในแผงแบ็ค 4
ที่ยืนล้ำ Line เข้าไปตลอด ซึ่งจะทำให้เราสามารถ Hold Ball ตัดหลัง Line
ให้ปีกทั้ง 2 ข้างวิ่งแข่งได้ง่าย โดยไม่ล้ำหน้า

รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

จุดอ่อนที่เห็นเด่นชัดมากที่สุดของ Myanmar ชุดนี้คือ
แบ็กทั้ง 2 ข้างของ Myanmar

DL หมายเลข 15 ZAW Hein Thiha
DR หมายเลข 12 ZIN LWIN Kyaw

จะเปิดพื้นที่ว่างด้านข้างไว้มากพอสมควร จะสังเกตุได้ว่าถ้าโดนการชิ่ง 1 2
จะทำให้หลุดตำแหน่งตลอด ถ้าทีมชาติไทยเล็งเห็นช่องโหว่ตรงนี้แล้วพยายาม
ทำชิ่ง 1 2 ให้ไวก็สามารถเจาะบ่อน้ำมันทางด้านข้างได้โดยง่าย

และจุดอ่อนของ Myanmar ชุดนี้อีกข้อที่สำคัญคือ
พละกำลัง นักเตะชุดนี้มีสภาพร่างกายและความฟิต
อยู่ในระดับที่ต่ำมาก + กับต้องแข่งขันติดต่อกันตลอดทั้ง
Tournament จึงทำให้นักเตะกรอบและยืนระยะไม่ได้
ตลอด 90 นาที ยิ่งเวลาผ่านเลยไปนานเท่าใด นักเตะ
Myanmar ก็จะยุบมากเท่านั้น

จุดเด่นของ Myanmar ชุดนี้ก็คือ


รู้เขา รู้เรา ก่อนเกม Myanmar vs Thailand

ลูกเซ็ทพีท พยายามอย่าเสียฟาล์วในระยะยิงฟรีคิกที่อันตราย
เพราะเขามีนักเตะ หมายเลข 8 ซึ่งยิงฟรีคิกได้ดีมาก

ลูกเตะมุม นักเตะหมายเลข 8 เตะลูกเตะมุมได้ดีมากใน Tournament นี้
ระวังลูกเตะมุมที่เสาแรกไว้ให้ดี นักเตะคนนี้เปิดมุมได้แม่นยำมาก

This is Football

ในวันนี้ ช้างศึกอย่างประเทศไทย จะสอนให้ “ครุฑ” อย่าง Myanmar
ได้เรียนรู้ว่า เฮ่ย !!! คำว่า “ฟุตบอล” เขาเล่นกันอย่างไร
และสอนให้เขาได้รู้ว่า “โชคชะตาไม่ได้มีมาให้เสมอไป แต่สิ่งที่มีค่ามากที่สุด
ที่จะทำให้เราฟันฝ่าไปสู่จุดหมายสูงสุดคือ ฝีมือและการฝึกฝน”
(ในเมื่อคุณมีโชคแต่ทีมชาติไทยมี “โชคทวี” ซึ่งมากกว่าโชคไหนๆทั้งปวง)

ขอให้ทุกคนดูบอลกันอย่างสนุก และ มีความสุข แล้ววันนี้เราจะมีความสุขไปพร้อมๆกัน
และขอให้โชคชะตาเข้าข้างเรา ในวันที่เราไม่มีโชค แล้วเราจะมีความสุขไปพร้อมๆกันครับ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์