ทีมชาติไทยไล่เจ๊าเมียนมาร์ 1-1 ลิ่วตัดเชือก - ฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 27
ฟุตบอลชายซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่ประเทศเมียนมาร์ ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่เอาชนะติมอร์ เลสเต ในนัดแรก 3-1 ก่อนจะถล่มอินโดนีเซีย 4-1 ในนัดที่ผ่านมา พบกับ เจ้าภาพ เมียนมาร์ ที่ชนะกัมพูชา 3-1 ในนัดแรก และ ชนะ ติมอร์ เลสเต 3-0 ในนัดที่ผ่านมา
บรรยากาศในสนามวันนี้ มีแฟนบอลเจ้าถิ่นเดินทางมาชมกันอย่างหนาแน่นตั้งแต่ช่วงบ่าย ทั้งที่จะมีการแข่งขันกันในเวลา 18.45 ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 19.15 ตามเวลาประเทศไทย จนล้นความจุของสนาม ทำให้แฟนบอลบางส่วนที่ไม่สามารถหาตั๋วเข้าชมเกมได้รู้สึกไม่พอใจ และพยายามพังร้านจำหน่ายตั๋วเข้าชมเกมนัดดังกล่าว
ทีมชาติไทยจัดผู้เล่นชุดเดียวกับนัดที่แล้วโดย11ตัวจริงประกอบด้วยกวินทร์ธรรมสัจจานันท์, ธีราทร บุญมาทัน, สกลวัชร์ สกลหล้า, ประวีณวัชร์ บุญยงค์, อาทิตย์ ดาวสว่าง, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, ปกเกล้า อนันต์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชาริล ชัปปุยส์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ อดิศักดิ์ ไกรษร
สำหรับ 11 ตัวจริงของ เมียนมาร์ ประกอบด้วย เพีย เพียว อ่อง, คยอว์ ซายาร์ วิน, เดวิด ตัน, ยัน อ่อง วิน, คยอว์ โก โก, อ่อง ซอว์, สี ทู อ่อง, คยอว์ มิน อู, ซอว์ มิน ตัน, เย ลิน อ่อง, คยี ลิน
เริ่มเกมได้แค่ 1 นาที ทีมชาติไทยได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน รับบอลจากลูกฟรีคิก ก่อนจะยิงข้ามคานออกไป
เกมในช่วง 10 นาที แรกทั้งสองทีมผลัดกันครองบอลอย่างสูสี แต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์ เกมส่วนใหญ่เป็นการดวลกันในแดนกลาง กระทั่งนาที 14 เจ้าภาพได้ลุ้น จากการยิงไกลของ คยอว์ โก โก แต่บอลไม่ตรงกรอบ
จากนั้นเป็นฝ่ายเจ้าถิ่นที่เป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า และได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง นาที 22 จากจังหวะที่ เย ลิน อ่อง ยิงไกลจากระยะ 25 หลา แต่บอลแรงเกินไป
นาที 25 เมียนมาร์ ต้องเปลี่ยนผู้เล่นสำรองคนแรกลงสนาม โดยเปลี่ยนเอาเนย์ ลิน ตัน ลงสนามแทน คยี ลิน ที่มีอาการบาดเจ็บ
หลังจากปล่อยให้เจ้าภาพบอลครองเกมมาเป็นเวลานาน ทีมชาติไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลยัดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดบอลมาเข้าทาง อดิศักดิ์ ไกรษร แต่ อดิศักดิ์ โหม่งออกไปอย่างน่าเสียดาย ในนาที 27
จนกระทั่ง นาที 33 เจ้าภาพได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ คยอว์ ซายาร์ วิน โยนฟรีคิกเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ เนย์ ลิน ตัน ผู้เล่นตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามจะโหม่งเสย เข้าไปตุงตาข่าย เมียนมาร์ ขึ้นนำ 1-0
เกมดำเนินมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้าย เกิดจังหวะปะทะกัน ระหว่าง ซอว์ มินตัน กองหลังเจ้าถิ่น และ อดิศักดิ์ ไกรษร สุดท้ายผู้ตัดสินตัดสินใจแจกใบเหลืองให้กับทั้งคู่
ช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 42 ทีมชาติไทยมีโอกาสลุ้นประตูตีเสมอ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ กระชากบอลตัดเข้ามาจากด้านขวา ก่อนจะยิงไกล แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บทีมชาติไทยมาโดนใบเหลืองเพิ่มอีกใบ จากจังหวะที่ ปกเกล้า อนันต์ ทำฟาวล์ผู้เล่นเจ้าถิ่น แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที สี ทู อ่อง กองหลังเมียนมาร์ ทำฟาวล์ปกเกล้า อนันต์ และโดนใบเหลืองเช่นกัน หมดเวลาครึ่งแรก เมียนมาร์ นำ 1-0
ครึ่งหลังทีมชาติไทยเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก ส่งชนานันท์ ป้อมบุบผา ลงแทน อดิศักดิ์ ไกรษร และหลังจากเกมเริ่มครึ่งได้แค่ 2 นาที ทีมชาติไทยได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ธีราทร ปั่นฟรีคิกไปชนเสา ก่อนบอลจะหลุดมาเข้าเท้า ประวีณวัชร์ บุญยงค์ ยิงเข้าไป ทีมชาติไทยตีเสมอ 1-1
หลังจากโดนตีเสมอ ทีมชาติเมียนมาร์ พยายามเร่งเกมหวังจะทำประตูขึ้นนพอีกครั้ง และเกือบจะได้ประตูในนาที 53 จากจังหวะที่ สกลวัชร์ สกลหล้า เสียบอลหน้ากรอบเขตโทษ ทำให้ คยอว์ โก โก มีโอกาสสับไก แต่บอลไม่ตรงกรอบ
ครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกใส่กันมากขึ้น นาที 65 เจ้าภาพเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ คอยว์ ซายาร์ วิน ได้ยิงในระยะเผาขน แต่เจ้าตัวซัดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่นาที 75 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ คยอว์ ซายาร์ วิน กระชากบอลหลบกองหลังทีมชาติไทย ก่อนจะยิงเรียด แต่ยังไม่ผ่านมือของกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ก่อนที่ทีมชาติไทย จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีก 1 คน ส่ง ศราวุฒิ มาสุข ลงแทน ปกรณ์ เปรมภักดิ์
นาที 83 ทีมชาติไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกฟรีคิกของ ชาริล ชัปปุยส์ แต่บอลพุ่งไปชนเสา ประวีณวัชร์ บุญยงค์ ได้ซ้ำแต่บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
อีก 4 นาทีต่อมา เจ้าบ้านเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ คยอว์ ซายาร์ วิน โยนฟรีคิกขึ้นมา ก่อนที่ ซอว์ มิน ตัน จะโหม่งเข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ไทย เสมอ เมียนมาร์ 1-1
ทีมชาติไทยเก็บเพิ่มเป็น 7 แต้ม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศอย่างแน่นอนแล้ว ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ติมอร์ เลสเต เสมอ อินโดนีเซีย 0-0
หลังจบเกม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เผยว่า เกมนัดนี้จริงๆแล้วก่อนมาบอกไว้ว่า 3 แต้ม และตอนแรกเราคิดว่าจะพักตัวผู้เล่นตัวหลัก แต่เกมนี้เป็นเกมหนัก เมื่อกลับมาคิดอีกทีจึงจัดชุดใหญ่ลงสนาม แม้สภาพร่างกายจะไม่ฟิตเท่าเมียนมาร์ แต่ทุกคนแสดงให้เห็นศักดิ์ศรีและไล่ตีเสมอได้ 1-1
“การที่เจ้าภาพสูญเสียผู้เล่นที่ดีที่สุดอย่าง จี้ หลิน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บในครึ่งแรก ทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ขอชื่นชมที่พม่าพัฒนาศักยภาพขึ้นมากว่าแต่ก่อนมาก ที่ผ่านมาเราแพ้ชนะเยอะ แต่วันนี้เมียนมาร์ทำให้เราเล่นลำบาก ส่วนเรื่องผู้ตัดสินไม่ขอคอมเมนต์ เพราะกรรมการที่มาวันนี้เป็นชาติที่เป็นกลาง” ซิโก้กล่าว
ซิโก้ เผยอีกว่า เรามีนักเตะที่มีคุณภาพ เพราะเรามีลีกที่แข็งแกร่ง นี่คือชุดที่ดีที่สุดของเมืองไทยในตอนนี้ เป้าหมายตอนแรกตั้งเป้าชนะทุกทีม แม้ในวันนี้ไม่ชนะ แต่ก็จะขอเป็นที่ 1 ของสายบี เพื่อต่อยอดไปถึงเป้าหมายที่แท้จริงคือไปให้ถึงรอบชิงชนะเลิศ และกลายเป็นเบอร์ 1 อาเซียนให้ได้
"จากการดูคือแข่งอีกสายทำให้เรารู้หมดแล้วว่า สิงค์โปร์ มาเลเซีย หรือเวียดนาม อีกทั้งรอบแรกนี้เราได้ล้างใบเหลืองหมดแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จในการพาทีมเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตามเรายังต้องการเป็นที่ 1 ของสาย เพื่อเข้ารอบอย่างสมศักดิ์ศรี ส่วนรอบชิงชนะเลิศนั้นขออวยพรให้เมียนมาร์ ไปเจอกับไทย เพราะอยากเห็นบรรกาศรอบชิงชนะเลิศที่มีคนล้นสนามเหมือนอย่างนัดนี้" ซิโก้กล่าวทิ้งท้าย
ส่วน ปาร์ก ซุง วา เฮดโค้ชเมียนมาร์ เผยว่า น่าเสียดายที่เรานำก่อน แต่ไม่ได้เป็นผู้ชนะในนัดนี้ อย่างไรก็ตามผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นผลเสมอถือว่าน่าพอใจ เนื่องจากทีมชาติไทยเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถเอาชนะอินโดนีเซียในรอบสุดท้าย และผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
