บัวขาวยันไม่เคยลืมตัวไม่คิดเทียบชั้นสมรักษ์

คงไม่มีใครไม่รู้จักนักมวยขวัญใจชาวไทย “บัวขาว บัญชาเมฆ” ที่ตอนนี้มีข่าวสารพัด ทั้งคดีฟ้องร้องที่มีปัญหากับทางค่ายต้นสังกัด และไทยไฟต์ วันนี้รายการปากโป้ง ทางช่อง 8 ในเครืออาร์เอส จึงทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง เชิญ บัวขาว บัญชาเมฆ มานั่งพูดคุยเปิดใจตอบทุกข้อสงสัยที่คนไทยอยากรู้ โดยมี หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และ เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา ทำหน้าที่ดำเนินรายการ

โดย บัวขาว เล่าว่า “จุดเริ่มต้นของการเข้ามาสู่วงการสังเวียนมวย เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเด็กๆ เพราะบ้านตนอยู่ใกล้กับค่ายมวย หลังจากเลิกเรียน ตนกับเพื่อนๆ ก็จะชวนกันมาเรียนมวยที่ค่ายเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งเจ้าของค่ายมวยเห็นแววเลยชวนให้ลองขึ้นชกมวยจริงๆ ซึ่งครั้งแรกที่ตนขึ้นชก ก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ หลังจากนั้น ตนก็เริ่มสั่งสมประสบการณ์การชกมวยมาเรื่อยๆ แพ้บ้าง ชนะบ้าง สลับกันไป จนเมื่อตนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตนก็ปรึกษากับแม่ว่า อยากต่อยมวยแบบจริงจัง เพราะตัวเองไม่ค่อยถนัดด้านการเรียนสักเท่าไหร่ จึงอยากเอาดีทางด้านชกมวยให้ถึงที่สุด แม่ก็อนุญาต เพราะเห็นว่าตนน่าจะทำได้ดี หลังจากนั้น ตนก็เริ่มมีโอกาสได้ไปชกที่ต่างประเทศ เริ่มมีคนรู้จักตนมากขึ้น สำหรับกรณีที่ คุณสมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยรุ่นพี่ท้าชกนั้น ตนบอกว่า ตนขอยอมแพ้ และไม่อยากรับคำท้า เพราะตนชื่นชอบ สมรักษ์ มาตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่อยากไปเปรียบกับไอดอลของตัวเอง
 
สำหรับกรณีที่โดนฟ้องร้องจากค่าย ป.ประมุข และสังเวียนไทยไฟต์นั้น ตนอธิบายว่า เป็นการเข้าใจไม่ตรงกัน ระหว่างตนกับคู่กรณี
 
ตนยินดีจะจบด้วยดี แล้วยินดีรับทุกคำตัดสินของศาล ในทุกการกระทำของตน เพราะตนบริสุทธิ์ใจ และมีหลักฐานยืนยันทุกเรื่อง ไม่มีเจตนาจะขัดแย้งกับใครแต่อย่างใด อยากให้ทุกคนมองว่า เมื่อตนมายืนอยู่ตรงจุดนี้ ตนก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด ไม่ได้เห็นแก่เงิน หรือลืมตัว ตน เตือนตัวเองอยู่เสมอว่าตนเกิดมาจากที่ไหน และควรปฏิบัติตนอย่างไร อยากให้ทุกคนมองตนในแง่ของความเป็นจริง

ทุกสิ่งที่ตนทำ ก็เพื่ออนุรักษ์มวยไทยให้ลูกหลาน ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมของไทย และไม่ให้สูญหายไปจากโลก สุดท้ายตนยืนยันว่า ยังไม่แขวนนวมแน่นอน แต่อยากให้เรื่องราว และคดีความทุกอย่างคลี่คลายก่อน แล้วตนจะกลับมาขึ้นสังเวียนให้ทุกคนได้ชื่นชมอีกครั้ง”