แข้งไทยสุดต้านพ่ายญุ่ปุ่น 1-4

"บอลไทย" สู้สุดฤทธิ์
 
แต่ต้าน "ซามูไร" ไม่ไหว โดนฟันไป 4 แผลใหญ่ ได้คืน 1 ตุง จากลูกสวยของ "ลีซอ" ด้าน“โค้ชหรั่ง” บ่นเสียดาย เล่นพลาดเองเลยเสียประตู แถมเหลือ 10 คน ยันหนทางยังเปิดกว้าง นัดต่อไปรอรับ “โอมาน” ในบ้าน 26 มี.ค.  
 
สุจินต์ ปานะศุทธะ ผู้สื่อข่าวกีฬาเดลินิวส์ รายงานการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย (20 ทีมสุดท้าย)
 
กลุ่ม B จากเมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ซึ่งนักเตะทีมชาติไทย ลงสนามเป็นนัดแรก พบกับ “ซามูไร” ญี่ปุ่น ทีมอันดับ 1 ของเอเชีย โดยก่อนหน้าที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น บรรยากาศที่กรุงโตเกียว และเมืองไซตามะ ได้เกิดหิมะตก และมีฝนลงมาปรอย ๆ ทำให้สภาพอากาศหนาวจัด แต่ยังมีแฟนบอลญี่ปุ่นให้ความสนใจเข้ามาเชียร์ทีมรักประมาณ 35,000 คน ขณะที่ทีมไทยส่งผู้เล่น 11 คนแรก ประกอบไปด้วย โกสินทร์ หทัยรัตนกุล (ผู้รักษาประตู), อภิเชษฐ์ พุฒตาล, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ปฏิพาน เพชรพูล,  ณัฐพงษ์ สมณะ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, ณรงค์ชัย วชิรบาล,  นิรุจน์ สุระเสียง (กัปตันทีม), สุธี สุขสมกิจ, ศรายุทธ ชัยคำดี และ ธีรเทพ วิโนทัย ส่วนญี่ปุ่น ส่งดาวดังอย่าง โยชิคัตสุ คาวางูชิ, เคนตะ ซูซูกิ, ทาโอฮิโร่ ทากาฮาร่า และ โยชิโตะ โอคูโบะ ลงสนาม

เริ่มเกมญี่ปุ่นครองบอลเปิดเกมรุกกดดันทีมไทยทันที

นาทีที่ 6 เคนโกะ นากามูระ ได้จังหวะวอลเลย์ระยะ 20 หลา ด้วยซ้ายบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว นาทีที่ 8 ยูจิ นากาซาว่า ได้โหม่งระยะ 5 หลา บอลพุ่งตรงตัว โกสินทร์ รับเข้าซอง นาทีที่ 21 ญี่ปุ่น ก็ขึ้นนำจนได้ เมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาหน้าปากประตู ยาซูฮิโตะ เอ็นโดะ ปั่นด้วยขวาบอลเลี้ยวเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้ญี่ปุ่น ออกนำ 1-0
 
แต่ทีมไทยยังไม่เสียขวัญ
 
เปิดเกมรุกเข้าสู้ นาทีที่ 23 สุธี สุขสมกิจ ได้บอลทางซ้าย ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ธีรเทพ  วิโนทัย พลิกตัวยิงบอลระยะ 25 หลา ลูกพุ่งมุดเสียบคานเข้าประตูตีเสมอให้ไทยเป็น 1-1 จากนั้นนาทีที่ 42 ณรงค์ชัย ไปทำฟาวล์ ทากาฮาร่า และมีปากเสียงกัน ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้นักเตะไทย จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
 
เข้าสู่ครึ่งหลังญี่ปุ่นโหมบุกหนักกว่าเดิม
 
โดยการออกบอลทำชิ่งกันเร็ว นาทีที่ 54 ทีมไทยเล่นผิดพลาด เมื่อ ณรงค์ชัย วชิรบาล เตะสกัด บอลในเขตโทษไม่ขาด บอลไปชนผู้เล่นญี่ปุ่นไหลมาเข้าทาง โยชิโตะ เอ็นโดะ จิ้มบอลง่าย ๆ เข้าประตูไป ทำให้ญี่ปุ่นขึ้นนำ 2-1 จากนั้นทีมไทยมาได้รับ 2 ใบเหลือง จาก อภิเชษฐ์ พุฒตาล และธีรเทพ วิโนทัย ที่ไปทำฟาวล์ผู้เล่นเจ้าถิ่น นาทีที่ 63 สถานการณ์ ของทีมไทยยิ่งย่ำแย่

เมื่อ ณรงค์ชัย มาโดนใบเหลืองที่ 2กลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ทำให้ทีมไทยเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน นาทีที่ 65 ญี่ปุ่นได้ลูกฟรีคิกด้านขวา เคนโกะ นากามูระ เปิดเข้ากลางให้ ยูจิ นากาซาว่า กระโดดเช็ดบอลเข้าไปช่วยให้ “ซามูไร” ออกนำห่าง 3-1 จากนั้นทีมไทยเปลี่ยน พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, พิพัฒน์ ต้นกันยา และ อานนท์ สังสระน้อย ลงไปแทน ธีรเทพ, ศรายุทธ และ สุเชาว์ ช่วงท้ายเกม เซอิชิโร่ มากิ มาโหม่งประตูปิดท้าย ทำให้ญี่ปุ่นถล่มเอาชนะไทยไปได้ 4-1

สำหรับนัดต่อไปทีมไทย

ที่ไม่มีแต้ม จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ โอมาน ในวันที่ 26 มี.ค. ส่วน ญี่ปุ่น จะบุกไปเยือน บาห์เรน ในวันเดียวกัน
 
สำหรับผลคู่อื่น กลุ่ม 1 ออสเตรเลีย ชนะ กาตาร์ 3-0, กลุ่ม 3 เกาหลีใต้ ชนะ เติร์กเมนิสถาน 4-0, กลุ่ม 5 อิหร่าน เสมอ ซีเรีย 0-0
 
หลังจบเกม “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมไทย กล่าวว่า

เกมนี้ญี่ปุ่นเล่นในบ้านย่อมได้เปรียบทุกอย่างทั้งเสียงเชียร์และสภาพอากาศที่หนาวเย็น นอกจากนี้นักเตะเจ้าถิ่นก็เล่นลูกกลางอากาศได้ดี ขณะที่เราก็คอนโทรลลำบากเพราะสนามชื้น ที่สำคัญการขาดนักเตะหลักไปหลายคนส่งผลกระทบแน่นอน ส่วนจุดเปลี่ยนของเกมอยู่ที่การเสียประตูที่ 2 เร็วเกินไป รวมทั้งการที่ ณรงค์ชัย วชิรบาล โดนสองใบเหลือง ซึ่งก็ไม่สมควรจะโดนด้วย สำหรับแทคติกที่ใช้ในเกมนี้ตนมั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว เพียงแต่ว่าความสามารถเฉพาะตัวสู้ไม่ได้เท่านั้น ส่วนเกมที่ไทยจะเจอญี่ปุ่นในบ้านนั้น ตนมั่นใจว่าเราจะสู้ได้สูสีแน่นอน
  
ทางด้าน ทาเคชิ โอกาดะ โค้ชทีมชาติญี่ปุ่น กล่าวว่า
 
ช่วงแรกคิดว่าจะเล่นง่ายเพราะได้ประตูนำ 1-0 แต่หลังจากที่โดนตีเสมอก็ต้องมาพยายามกันใหม่ ซึ่งก็ต้องชมนักเตะไทยที่เล่นได้ดีกว่าที่คิด ส่วนนัดต่อ ๆ ไป เราคงต้องพยายามให้มากกว่านี้ และจะไม่ประมาทคู่แข่งอย่างเด็ดขาด
  
สำหรับคณะนักเตะทีมชาติไทย จะเดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ ด้วยเที่ยวบิน TG 677 เวลาประมาณ 23.00 น.