10 ตัวถึงยิง!ไทยดับเติร์กเมนิซสถานต่อเวลาลิ่วชนยุ่น

ไม่รู้จะประมาทอะไรนักหนา ต้องให้วิชะยา เดชมิตร ยิงจุดโทษสองครั้งไม่เข้าแถมมาโดนใบแดงไล่ออก ถึงมีการปรับเกมปรับเปลี่ยนผู้เล่น เบียดเอาชนะเติร์กเมนิสถาน 1-0 จากประตูโทน น.106 ของกีรติ เขียวสมบัติ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปชนญี่ปุ่นต่อไป

ฟุตบอลชาย เอเชียน เกมส์ ครั้งที่ 16

วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน 2553

ไทย 1-0 เติร์กเมนิสถาน

ประตู : 1-0 กีรติ เขียวสมบัติ น.106

ไทยชุดใหญ่ ไร้เงาของกวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ต้องส่งแซมมวล ป. คันนิ่งแฮม นายด่านมือสองและมือสุดท้ายของทีมลงเฝ้าเสาแทน โดยรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต้องโคจรมาพบกับเติร์กเมนิสถาน ทีมที่เตรียมทีมกันมา 4 เดือนเพื่อทัวร์นาเมนต์นี้

ใครชนะในเกมนี้จะได้เข้าไปชนกับญี่ปุ่นที่เอาชนะอินเดียท่วมท้น 5-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน ไทยเคยเสมอกับเติร์กเมนิสถาน ในเกมอุ่นเครื่องสำหรับเอเชียน เกมส์ครั้งนี้ 2-2

ครึ่งแรก

ไทยได้ลุ้นก่อนตั้งแต่ 10 นาทีแรก ในจังหวะสวนกลับที่นฤพล อารมณ์สวะ หลุดเข้าเขตโทษก่อนจะล็อกบอลให้กองหลังเติร์กฯหลังหัก ทว่าจังหวะจะจ่ายให้ธีรศิลป์ แดงดา ที่เติมขึ้นมานั้นทำช้าเกินไป แต่พอจังหวะที่แย่งกลับมาได้นั้น วิชะยา เดชมิตร กลับทำบอลหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 16 ไทยเกือบได้ประตูจากลูกชุลมุนที่วิชายะ เดชมิตร ล็อกเข้าเท้าซ้ายก่อนจะซัดติดเซฟของอัลยานอฟ และจังหวะต่อเนื่องก็โดนกองหลังช่วยกันบล็อกออกไปได้

ช่วงสิบนาทีต่อมา ไทยเน้นเพรสซิ่งและบุกกดดันใส่เติร์กเมนิสถานอย่างหนัก แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆเกินๆ โดยเฉพาะนาทีที่ 27 วิชะยา เดชมิตร หลุดเดี่ยวแล้ว แต่จังหวะแตะหนีอัลยานอฟ จะเอายิงง่ายๆนั้น บอลดันยาวเกิน เลยหลุดออกหลังไป ชนิดที่ถ้าสั้นกว่านี้มีเฮแน่

นาทีที่ 35 ไทยได้ลุ้นเสียวอีก เมื่ออนาวิน จูจีน โหม่งตั้งมาให้กีรติ เขียวสมบัติ แต่กีรติเข้าไม่ถึง และนาทีที่ 44 ดัสกร ทองเหลา ลองส่องไกลแต่ก็ข้ามคานออกไป

ไทยทำได้ดีในครึ่งแรก พับสนามบุกตลอดจนโอกาสยิงของไทยมี 11 ครั้ง แต่เติร์กเมนิสถานไม่มีเลยซักครั้ง แต่สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลัง

ไทยยังคงพับสนามบุกเติร์กเมนิสถานต่อไป แต่ความขาดๆเกินๆก็ยังแก้ไม่หาย โดยเฉพาะนาทีที่ 55 ดัสกร ทองเหลา เปิดให้กีรติ เขียวสมบัติ ได้โขกเหน่งๆ แต่ไม่ตรงกรอบ ทั้งที่ไม่มีใครประกบแล้วเพราะแข้งเติร์กเมนิสถานคิดว่าเป็นลูกล้ำหน้าแต่จริงๆไม่ล้ำ

เกมเหมือนจะไม่มีอะไร แต่นาทีที่ 60 ไทยมาได้จุดโทษในจังหวะที่กูร์บานี่ เหนี่ยวไม่ให้อนาวิน จูจีน วิ่งไปเอาบอลในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนยิงจุดโทษจะเป็นวิชะยา เดชมิตร ผู้ไม่มีประสบการณ์ยิงจุดโทษในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ทำให้แข้งบางกอกกล๊าสยิงไปติดเซฟอัลยานอฟ แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่เพราะมองว่ามีนักเตะเติร์กเมนิสถานเข้าไปในกรอบประตุก่อน แต่ในความพยายามครั้งที่สอง วิชะยา เดชมิตรคนเดิม กลับยิงไปเช็ดคานออกไปเหลือเชื่อ ทั้งที่คราวนี้อัลยานอฟ หลงทางแล้ว

นาทีที่ 68 ธีรศิลป์ จ่ายตามช่องให้กีรติ เขียวสมบัติ หลุดมาแล้ว แต่คิดช้าทำช้าเกินไป จังหวะจะยิงเลยโดนบล็อกออกไปอีกแล้ว จากนั้น เกมของไทยเริ่มเนือย เหมือนกับว่าไม่มีใจจะเล่น ปล่อยให้เติร์กเมนิสถานได้มีโอกาสทำเกมบ้าง ทำให้เขามีโอกาสได้ยิง 3 ครั้ง 3 คราทีเดียว ชนิดที่ถ้าคมกว่านี้หน่อยก็คงงานเข้าแล้ว จบจบ 90 นาที สกอร์ที่รอคอยก็ยังไม่ขยับการขยับ ต้องรอการต่อเวลาพิเศษ

ต่อเวลาพิเศษ ครึ่งแรก

ไทยยังคงปล่อยให้เติร์กเมนิสถานได้ใจ เกือบได้ชาร์จจ่อๆแล้ว ดีที่ไม่โดน แถมนาทีที่ 94 กีรติ เขียวสมบัติ โดนกองหลังเติร์กเมนิสถานทำฟาล์วเต็มๆในจังหวะจะง้างขายิง แต่ผู้ตัดสินมองว่ากีรติพุ่งล้มไปเฉย รับใบเหลืองไปอีก จนหอกบุรีรัมย์ พีอีเอ ได้แต่บ่นว่า อะไรวะ

นาทีที่ 96 วิชะยา เดชมิตร ฆ่าตัวตายโดนสิ้นเชิง เมื่อจังหวะที่จะโหม่งแต่ไม่โหม่งถึง สงสัยจะนึกว่าซ้อมบอลอยู่ เลยไปเอามือจับบอลที่กำลังจะออก ทั้งที่ลูกยังไม่ข้ามเส้น เลยโดนผู้ตัดสินมองว่าเจตนาใช้มือเล่น โดนใบเหลืองใบที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป ไทยเหลือ 10 คนแล้ว

ไทยเล่นไม่รู้จะเอาชัวร์ไปไหน ล็อกไปล็อกมา ไม่มีโอกาสจะยิง แถมนาทีที่ 103 ไทยเกือบมาเสียประตู จากจังหวะสวนกลับที่สุทธินันท์ พุกหอม ลงไม่ทัน ปล่อยให้เขาได้หลุดมาคนเดียว ต้องชมแซมมวล ป. คันนิ่งแฮม ที่เซฟลูกยิงเอาไว้ได้ ไม่งั้น เตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้านพร้อมของช็อปปิ้งที่ไปช็อปแหลกช่วงที่ต้องทำการบ้านได้เลย

ต่อเวลาพิเศษ ครึ่งหลัง

สงสัยไบรอัน ร็อบสัน เพิ่งจะรู้ว่าฟุตบอลมีเปลี่ยนตัวได้ด้วย เลยไปเปลี่ยนเอาสุทธินันท์ พุกหอม ที่วิ่งไม่ไหวแล้วเติมกลางอย่างคัพฟ้า บุญมาตุ่นลงมาแทน และเปลี่ยนเอาธีรศิลป์ แดงดา ที่ล็อกถล่มโลกออกแล้วส่งจักรพันธ์ พรใส ลงมาแทน

กว่าไทยจะมาได้ประตูขึ้นนำต้องรอนาทีที่ 106 เมื่อดัสกร ทองเหลา ให้บอลพอดิบพอดี ทำให้กีรติ เขียวสมบัติ ยิงหักข้อแบบไม่ต้องจับด้วยซ้ายข้างไม่ถนัด บอลลอดดากกองหลังเติร์กฯเข้าตาข่ายเสาสองไปจนได้ ไทยนำ 1-0 ครับพี่น้องงงงง

พอได้ประตูขึ้นนำ ก็มาเสียสมาธิ เกือบจะโดนเติร์กเมนิสถานยิงเอาคืนเหมือนกัน โดยเฉพาะนาทีที่ 114 ที่เติร์กเมนิสถานเกือบได้ประตูจากจังหวะชุลมุนที่ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์กับภานุพงษ์ วงศา ที่ช่วยกันเคลียร์ออกจากเส้นไปถึงสองจังหวะ

เวลาที่เหลือ ไทยสภาพร่างกายสะบักสะบอม แต่แท็คติกส์การนอนในไทยพรีเมียร์ลีกเริ่มมีประโยชน์แล้ว ยังดีที่ยืดได้ถึง 120 นาที เบียดเอาชนะเติร์กเมนิสถานไปหวุดหวิด 1-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายชนญี่ปุ่นในวันศุกร์ต่อไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ไทย : แซมมวล ป. คันนิ่งแฮม, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ภานุพงษ์ วงศา, ธีรทร บุญมาทัน, สุทธินันท์ พุกหอม (คัพฟ้า บุญมาตุ่น น.105), ดัสกร ทองเหลา (สุจริต จันทะกล น.116), นฤพล อารมณ์สวะ, วิชะยา เดชมิตร, อนาวิน จูจีน, กีรติ เขียวสมบัติ, ธีรศิลป์ แดงดา (จักรพันธ์ พรใส น.105)

เติร์กเมนิสถาน : ราห์มาร์แบร์ดี อัลยานอฟ , ชาห์ราท ซายูนอฟ, มาคซิม เบลีห์, อาเซียมุจราท อามานอฟ, กัวราช ฮันเกลดิเยฟ, อาสมีร์ กุร์บานี่ , มิฮาอิล มูนามเมดอฟ (เพอร์ไมราท กาซาคอฟ น.56), เอลมาน ทากาเยฟ (ซูไลมาน โอมาซอฟ น.120), นาซาร์ โชลิเยฟ, เซอร์ดาร์ เซลดิเยฟ, มูเซียน มินซาซอฟ (ยูมิดยาน อาทซานอฟ น.18)

ผู้ตัดสิน: เซปปาก อาลี (เลบานอน)






 

ข้อมูลข่าวจาก WWW.SOCCERSUCK.COM

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์