หวดมาราธอน เฟดคว่ำร็อดดิก ซิวแชมป์สมัยที่6

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดมือ 2 จากสวิตเซอร์แลนด์
 
คว้าแชมป์เทนนิส วิมเบิลดัน มาครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 6 ของตัวเอง หลังหวดเอาชนะ แอนดี ร็อดดิก คู่ต่อสู้จากสหรัฐฯ 3-2 เซต สกอร์ 5-7, 7(8)-6(6), 7(7)-6(5), 3-6, 16-14 โดยใช้เวลาหวดกันมาราธอนนานถึง 4 ชั่วโมง 16 นาที พร้อมสร้างประวัติศาตร์เป็นนักเทนนิสชาย
ที่คว้าแชมป์แกรนด์ แสลมได้มากที่สุด

วันนี้ (5 ก.ค.) การแข่งขันศึกเทนนิส “วิมเบิลดัน” ซึ่งเป็นรายการแกรนด์สแลมบนคอร์ตหญ้า ที่ออลอิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ชิงเงินรางวัลรวม 12,550,000 ปอนด์ หรือประมาณ 700 ล้านบาท โดยเป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ แชมป์เก่า และ อดีตแชมป์ 5 สมัย กับ แอนดี ร็อดดิก รองแชมป์ 2 สมัย ปี 2004 และ 2005

สำหรับ เฟเดอเรอร์ นักหวดชาวสวิส ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในปีนี้

ด้วยการตบเอาชนะ ทอมมี ฮาส นักหวดจอมเก๋าชาว เยอรมัน มาได้ 3 เซตรวด สกอร์ 7(7)-6(3), 7-5, 6-3 พร้อมกับทำสถิติเข้าถึงรอบนี้ได้เป็นครั้งที่ 7 จากการเข้าร่วมแข่งทั้งหมด 10 ครั้ง ขณะที่ ร็อดดิก นักหวดชาวสหรัฐฯ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้ง 3 จากการลงแข่งขันทั้งหมด 8 ครั้ง หลังคว่ำเอาชนะ แอนดี เมอร์เรย์ แรกเก็ตขวัญใจเจ้าถิ่น มาได้ 3-1 เซต สกอร์ 6-4, 4-6, 7(9)-6(7), 7(7)-5(5) ในรอบตัดเชือก


ด้านสถิติการพบกัน ทั้งคู่ประลองฝีมือกันมาอย่างโชกโชนถึง 20 ครั้ง

และก็เป็น เฟเดอร์วัย 27 ปี ที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยชนะไปถึง 18 ครั้ง ซึ่งเกมล่าสุดเกิดขึ้นในศึก เอทีพี ทัวร์ มาสเตอร์ส ที่ มาดริด ปีนี้ และยังคว้าชัยได้เรียบในการเจอกัน 3 ครั้งหลังสุดอีกด้วย ปล่อยให้ ร็อดดิก จอมเสิร์ฟเอสวัย 26 ปี แอบคว้าชัยเล็กๆ ไปได้ เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งเกมล่าสุด ก็เกิดขึ้นในศึก เอทีพี มาสเตอร์ ซีรีย์ ไมอามี ปี 2008

เริ่มเกมเซตแรก ร็อดดิก เป็นฝ่ายได้เสิร์ฟเปิดเกมก่อน และคว้าชัยไปได้อย่างไม่ยากเย็น เช่นเดียวกับ เฟเดอเรอร์ ก็ยังรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเอง เปิดตัวได้ดีไม่แพ้กัน หลังจากนั้น เกมสู้กันอย่างสูสี จนเสมอกันที่ 5-5 เกม กระทั่งในเกมที่ 11 เฟเดอเรอร์ ได้โอกาสเบรคเกมเสิร์ฟของ ร็อดดิก เป็นครั้งแรก แต่นักหวดมะกัน ก็ยังเหนียวแน่เอาตัวรอด มาได้ พร้อมขึ้นนำไป 6-5 เกม และในเกมถัดมา กลับกลายเป็น ร็อดดิก ที่สามารถเบรคเกมเสิร์ฟของ เฟเดเรอร์ ได้ และปิดเซตแรกไปด้วยสกอร์ 7-5 พร้อมขึ้นนำ 1-0 เซต


กลับมาเล่นกันต่อในเซตที่ 2 ยังเป็น ร็อดดิก ที่ได้เสิร์ฟเปิดเกม และรูปเกมยังไม่แตกต่างจากเซตแรก

ทั้งสองฝ่ายยังเล่นได้เหนียวแน่น โดยมีเปอร์เซ็นต์ผิดพลาดกันน้อยมาก จนเกมต้องยืดเยื้อไปถึงช่วงไทเบรค ซึ่งเป็น ร็อดดิก ที่เล่นได้อย่างมั่นใจและดุดันกว่า
ขึ้นห่างไปถึง 6-2 แต่ เฟเดอเรอร์ ที่ตามหลังถึง 4 เซตพอยด์ ก็ยังไว้ลายแชมป์เก่า 5 สมัย ใช้ประสบความการณ์ความนิ่ง ค่อยๆ ไล่ขึ้นมา จนกระทั่งพลิกแซงปิดเซตไปได้ 7(8)-6(6) พร้อมตีเสมอเป็น 1-1 เซตได้สำเร็จ


เข้าสู่เซตที่ 3

ขณะที่ เฟเดอเรอร์ นำอยู่ 3-2 เขาก็ได้โอกาสเบรคเกมของ ร็อดดิก ในเกมที่ 6 แต่ สุดท้าย ร็อดดิก ก็ยังฮึด เอาตัวรอดไปได้ ตีเสมอเป็น 3-3 เกม หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เล่นไม่ผิดพลาดกันเลย โดยรักษาเกมเสิร์ฟของตัวเองได้ จนไปเสมอกันที่ 5-5 เกม และต้องเล่นไทเบรคอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ เป็น เฟเดอเรอร์ ที่ทำผลงานได้ดีกว่า ออกนำไปถึง 5-1 และแม้ว่า ร็อดดิก จะฮึดทวงคืนมาได้ 5-6 แต่ก็ไม่ทัน เฟเดอเรอร์ มาเสิร์ฟปิดเซต เอาชนะไป 7(7)-6(5) พร้อมขึ้นนำเป็น 2-1 เซต

เซตที่ 4

ร็อดดิก ที่จะเสียเซตอีกไม่ได้แล้ว ได้เสิร์ฟเปิดเกมอีกครั้ง โดยขณะที่ ร็อดดิก นำอยู่ 2-1 เขาก็จัดการเบรคเกมเสิร์ฟของ เฟเดอเรอร์ ได้สำเร็จ ในเกมที่ 4 พร้อมออกไป 3-1 เกม ก่อนที่ในที่สุด ร็อดดิก ก็สามารถหวดปิดเซตไปได้แบบง่ายดายกว่าสามเซตที่ผ่านมา ด้วยสกอร์ 6-3 และไล่ตีเสมอมาเป็น 2-2 เซต

เซตตัดสิน เฟเดอเรอร์ ได้เป็นฝ่ายเริ่มเสิร์ฟเปิดเกมบ้าง
 
และก็ไม่แตกต่างจากหลายเซตที่ผ่านมา โดยทั้งสองเล่นได้อย่างระมัดระวังตัว กันเช่นเดิม และเกมก็ต้องยืดยาวมาถึงช่วงไทเบรคอีกครั้ง หลังจากเสมอกัน 5-5 เกม และทั้งคู่ก็หวดกันไปหวดกันมายาวนานมาราธอน จนกระทั่ง เฟเดอเรอร์ มาได้ แชมเปียนชิพพอยด์ และปิดเซตที่ 5 ด้วยสกอร์ 16-14 โดยใช้เวลาแข่งกันไปทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง 16 นาที



ชัยชนะในครั้งนี้ ทำให้ "เฟดเอ็กซ์" คว้าแชมป์ วิมเบิลดัน ปี 2009 ไปครองได้สำเร็จ

โดยเป็นสมัยที่ 6 พร้อมรับเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 850,000 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 46.7 ล้านบาท) ขณะที่ ร็อดดิก ต้องอกพลาดเป็นพระรองวิมเบิลดัน 3 สมัย แต่ยังรับเงินรางวัลปลอบใจ สำหรับรองแชมป์ไปทั้งสิ้น 425,000 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 23.3 ล้านบาท)

สำหรับ เฟเดเรอร์ สามารถคว้าแชมป์วิมเบิลดันได้ 5 สมัยรวดในปี 2003-2007
 
แต่เมื่อปีที่แล้วพลาดท่าพ่ายให้กับ ราฟาเอล นาดาล กระทิงหนุ่มจากสเปนในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะมาคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ได้ในปีนี้ จนสร้างสถิติคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ 15 รายการ ประกอบด้วย ออสเตรเลียน โอเพ่น ปี 2004,2006-2007 เฟรนช์ โอเพ่น ปี 2009 วิมเบิลดัน ปี 2003-2007,2009 และยูเอส โอเพ่น ปี 2004-2008 ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเทนนิสโลก เหนือ พีท แซมพราส ตำนานชาวอเมริกันที่ก่อนหน้านี้เคยทำสถิติไว้ที่ 14 รายการ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์