FRIPP ENO SYLVIAN CLUSTER






























Robert Fripp's Soundscapes Technique


Written by Agent Fox Mulder




src=http://www.thaiprog.net/articles/fripp6.gif

Sound = เสียง
Scape = ทิวทัศน์
Soundscape = ทัศนียภาพของเสียง

Soundscapes เป็นรูปแบบชนิดหนึ่งในการสร้างเสียงดนตรีขึ้นมา โดยผู้พัฒนามันขึ้นมาคือ Robert Fripp โดยฟริปป์เริ่มพัฒนาดนตรีในรูปแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงปลายยุค 70's โดยใช้หลักการของลูป นำเสียงกีตาร์
ที่ผ่านการสังเคราะห์มาสร้างเป็นลูปวนๆ ต่อกันไปเรื่อยๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ Fripp เรียกเทคนิคของการสร้างเสียงแบบนี้ว่า
Frippertronics ซึ่งในขณะนั้น Frippertronics ใช้วิธีการสร้างลูปด้วย Analog Delay ซึ่งทำงานด้วยระบบเทป Reel to Reel โดยบันทึกเสียงกีตาร์ลงไปทับซ้อนๆ กันเป็นชั้นๆ แล้วนำไปผ่านกระบวนการปรุงแต่งอื่นๆ ต่อไป


ภายหลังฟริปป์ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงขั้นตอนเหล่านี้ จากการใช้ Analog Delay สมัยเก่าในการสร้างลูป
มาเป็นการสร้างลูปด้วยระบบดิจิตอล เปลี่ยนระบบการปรุงแต่งเสียงด้วยเครื่องมือไม้เครื่องมือจากอนาล็อก
มาเป็นดิจิตอลทั้งหมด และฟริปป์ก็ทำการเปลี่ยนชื่อ จาก Frippertronics เป็น Soundscapes ในช่วงยุค 90's





ระบบการทำงานและขั้นตอนในการสร้างเสียงแบบ Soundscapes จาก wikipedia

- เสียงเริ่มมาจากกีตาร์ของ Robert Fripp
- เสียงกีตาร์ถูกส่งผ่านปิ๊คอัพของกีตาร์ซินธ์เข้าไปยัง Guitar Synth Module เพื่อ สังเคราะห์ รูปแบบของเสียงต่างๆ
ตามที่ Fripp ต้องการ
- เอาต์พุตถูกส่งต่อไปยัง Digital Audio Processor ในที่นี้คือเอฟเฟคต์กีตาร์ต่างๆ หรือเอฟเฟคต์ที่ใช้ในการปรุงแต่งเสียงอื่นๆ
เช่นเสียง Distortion, Modulation หรือ Pitch Control
- สัญญาณถูกส่งต่อไปยัง Digital Delay Unit เพื่อใช้ในการสร้างลูป โดย Digital Delay Unit อาจมีมากกว่าหนึ่งตัวขึ้นไปก็ได้
โดย Fripp จะตั้งให้ช่วงเวลาของ Delay Time มีค่าต่างๆ กัน เพื่อทำให้เกิดลูปที่แตกต่างกัน แล้วนำลูปเหล่านี้มาผสมกัน
อีกทีในตอนท้าย
- เสียงของลูปที่ถูกสร้างด้วย Digital Delay Unit ออกมาแล้ว อาจนำไปผ่านกระบวนการปรุงแต่งอีกครั้ง
อย่างในกรณีของ Fripp คือจะวาง Harmonizer เพื่อสร้างเสียงประสานในตอนท้ายสุดก่อนนำไปออกที่ Output จริงๆ


src=http://www.thaiprog.net/articles/fripp.gif

 


นี่คือชุด Rig ของ Fripp เมื่อปี 1997 นะครับ ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็คงจะช่วยพอทำให้เห็นภาพของระบบและขั้นตอนของวิธีการที่ Fripp ใช้มากขึ้นนะครับ
ดูภาพประกอบตามกันไปได้เลยครับ

- สัญญาณ Input ถูกส่งมาจากกีตาร์ ผ่านไปยัง Guitar Synth Module ของ Roland จำนวนสามตัว คือ VG-8, GR-1
และ GR-30 ซึ่งผมเข้าใจว่า VG-8 คือตัวหลักที่เค้าใช้ เนื่องจากมีการต่อ Midi Controller ออกไปใช้
เพื่อการควบคุมด้วยเท้าที่สะดวกขึ้น (คือตัวสีฟ้านั่นเองครับ)
- ส่งต่อมายังส่วนของ Digital Audio Processor ที่เป็นเอฟเฟคต์กีตาร์ทั้งหลาย Digitech Whammy Pedal
สำหรับใช้ควบคุม Pitch ส่วน TC Electronic G-Force นั้นเป็นมัลติเอฟเฟคต์แบบ Rack ซึ่งตรงนี้หลังจากผ่าน
G-Force แล้วสัญญาณจะถูกแยกออกเป็น 2 Channels ด้วยเอฟเฟคต์ของตัว G-Force เอง
(เช่นเอฟเฟคต์ Modulation ที่ให้เสียงสเตอริโอต่างๆ เป็นต้น)
- ซึ่งจะแยกกันไปเข้า Preamp คนละตัว ซึ่งมันจะแยกสัญญานไปอีก 2 Channels ในแต่ละตัว
ซึ่งสุดท้ายเราจะได้สัญญาณทั้งหมดเป็น 4 Channels ( จะบ้าตาย!)
- แล้วแต่ละแชนแนลก็จะแยกไปเข้า Digital Delay Unit คนละตัว ( ซึ่งในที่นี้คือดีเลย์แบบ Rack ยอดนิยมที่ใครๆ
ก็ใช้กัน TC Electronics TC 2290) โดยแต่ละตัวจะถูกตั้งค่าดีเลย์ไทม์ไว้ที่เวลาต่างๆ กัน
- จากดีเลย์ยูนิตสองตัวก็จะถูกรวมสัญญาณมาเข้าที่ Eventide Harmonizer อีกครั้ง โดยมี 4 แชนแนล แยกกันเข้าคนละสอง
ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว เราจะได้สองแชนแนลก่อนที่จะส่งไปยังแอมป์ต่อไป

ฟริปป์ให้ความเห็นเกี่ยวกับระบบ Soundscapes ไว้ว่า has the aim of finding ways in which intelligence and music,
definition and discovery, courtesy and reciprocation may enter into the act of music for both musician
and audience โห เว่อร์ได้อีก จริงๆ ผมว่ามันยุ่งยากซับซ้อนเกินไปหน่อย ถ้าจะทำกันแบบเต็มรูปแบบอย่างที่กล่าวมาจริงๆ
แต่ก็แหละนะ อัจฉริยะก็งี้แหละ

http://www.thaiprog.net/home/index.php?option=com_content&task=view&id=59&Itemid=77

http://www.nndb.com/people/471/000024399/fripp40.jpg

ROBERT FRIPP

The

The

BRIAN ENO



http://peace-foundation.net.7host.com/ab_images/pop-up_74.jpg

DAVID SYLVIAN


File:Cluster-2007.jpg

CLUSTER




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์