ไม่ได้โม้!บายอร์ยิง น.83 ไก่พลิกหม้อ 10 ตัว 2-1 ขึ้นที่ 4

ไม่ได้โม้!บายอร์ยิง น.83 ไก่พลิกหม้อ 10 ตัว 2-1 ขึ้นที่ 4 

สมราคาคุยเสียจริงสำหรับเดบายอร์ที่ประกาศขอยิงช่วยท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ลุ้นคว้าตั๋วแชมป์เปี้ยนส์ ลีก หลังซัดประตูชัยในนาทีที่ 83 พลิกเอาชนะสโต๊ค ซิตี้ที่นำไปก่อนแต่เหลือ 10 ตัวเพราะอดัมโดนไล่ออกไป 2-1 มีเพิ่มเป็น 69 คะแนนแซงอาร์เซนอลขึ้นที่ 4 ก่อนเลย 

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2556
 

สโต๊ค ซิตี้ 1 : 2 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 

สนาม : บริทาเนีย สเตเดี๊ยม 

ประตู
 : 1-0 เอ็นซองซี่ น.3, 1-1 เด็มป์ซี่ย์ น.20, 1-2 อเดบายอร์ น.83 

เดิมพันเกมนี้ความกดดันตกไปอยู่กับทีมเยือนอย่างท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ที่ต้อง 3 คะแนนเท่านั้นเพื่อความหวังในการที่จะลุ้นพื้นที่ไปเล่นแชมป์เปี้ยนส์ ลีก 

เบลนำทัพเป็นกุนซือคนสำคัญให้กับทีมเหมือนเดิม หลังจากที่เขาซัดไปแล้วถึง 20 ประตูในฤดูกาลนี้และเขาทำประตูในเกมเยือนได้สูงสุดเหนือใครในซีซั่น 2012-13 และขาดอีก 3 ประตูก็จะทำได้เท่ากับเควิน ฟิลลิปที่เคยยิงให้ซันเดอร์แลนด์ในเกมนอกบ้านมาแล้วที่ 16 ประตู 

นอกจากนั้นก็ยังมีอเดบายอร์ที่ก่อนเกมประกาศลั่นมาแล้วว่าขอทำประตูเพื่อดับฝันอดีตต้นสังกัดเก่าของเขาอย่างอาร์เซนอลในการแย่งกันไปเล่นบอลยุโรปในซีซั่นหน้า 

ด้านสโต๊คตอนนี้มี 41 คะแนน ในทางทฤษฏีพวกเขายังไม่รอดตกชั้นในพรีเมียร์ ลีกก็จริง แต่ทางปฏิบัติแล้วรอดชัวร์ เพราะคะแนนห่างวีแกนในอันดับที่ 18 อยู่ 6 แต้ม ต่อให้แพ้รวดแล้ววีแกนชนะรวด ลูกได้เสียก็ต่างกันอยู่ถึง 13 ลูก เว้นแต่จะแพ้ยับ แล้วลูกทีมของมาร์ติเนซชนะแหลกเท่านั้น 

ครึ่งแรก 

ช็อกดิเฮ้ย!หม้อกดสูตรนำไวเฟ่อร์เลย 
เล่นมาได้แค่ 3 นาที สเปอร์สที่คึกจะเอา 3 แต้มถึงกับกระอักเลือด เพราะมาโดนลูกฟรีคิกแสนถนัดของสโต๊คที่กดสูตรใช้ตัวหลอกให้เอ็นซองซี่วิ่งอ้อมโฉบไปเสาแรก ก่อนที่จะเปิดเข้าจุดนัดพบแล้วจัดการโหม่งสะบัดส่งบอลชิ่งเสาเข้าประตูไป เจ้าบ้านนำแล้ว 1-0 

และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือประตูแรกของแข้งเลือดเฟร้นช์ในการลงเล่นให้กับต้นสังกัดตลอด 34 เกมที่ผ่านมา 

เกือบมุดคาน!หน้าลิงยิงได้ใจ 
นาทีที่ 6 เกมนี้ดูเหมือนว่าจะเล่นกันรวดเร็วได้ใจ เพราะสเปอร์สมามีโอกาสตีเสมอได้จากจังหวะที่เบลตัดบอลจากริมเส้นฝั่งขวา ล็อกเข้าเท้าซ้ายแล้วตะบันเน้นๆ บอลพุ่งโค้งทั้งเร็วและแรงพร้อมมุดใต้คาน แต่ไม่ผ่านเบโกวิชที่ดีดตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้ 

เฮเก้อนะ!เด็มป์ซี่ย์ยิงได้แต่ล้ำ 
นาทีที่ 16 พยายามลุยเต็มที่จนมาเรียกเสียงเฮจากแฟนบอลได้ในจังหวะที่มีตัวยิงหนุนไกลจังหวะสองแล้วเด็มป์ซี่ย์ที่ยืนอยู่หน้าประตูสะกิดเปลี่ยนทางเข้าไป แต่มันล้ำหน้าไปซะ่ก่อนแล้ว 

หม้อพลาด!เด็มป์ซี่ย์ยิงสวนตีเจ๊าเลย 
นาทีที่ 20 การสื่อสารที่ผิดพลาดคือเหตุแห่งการโดนตีเสมอสำหรับสโต๊ค จากจังหวะที่สเปอร์สหนุนบอลขึ้นหน้าหวังให้อเดบายอร์เข้าทำ แต่บอลมันยาวไป จริงแล้วจังหวะนี้กองหลังกับผู้รักษาประตูควรให้เสียงกัน แต่กลายเป็นเบโกวิชพุ่งจะไปเล่น แต่กองหลังล้มตัวสกัดบอล แถมยังเตะไปเข้าทางเด็มป์ซี่ย์ที่วิ่งที่วิ่งมาบรรจงยิงสวนลอยเ้ข้าไปเสียบตาข่ายเป๊ะเลย สเปอร์สตีเจ๊า 1-1 

ไก่บุก-ครอง-ลุย! 
ผ่านครึ่งชั่วโมง ตอนนี้เกมเป็นของทางสเปอร์สที่กำลังใจและความคึกกลับเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย เดินหน้าบุกใส่สโต๊คหวังพลิกสถานการณ์ให้ได้เลย เพราะยังไงก็ต้องมองถึงชัยชนะเท่านั้นอยู่แล้ว 

เคร้าซ์เอ้ย!จับพลาดอดยิงเลย 
นาทีที่ 35 เกี่ยวโดนจังหวะนี้ยังไงก็ได้ยิง 100% จากจังหวะที่อดัมตักบอลเข้าไปในเขตโทษ น้ำหนักทิศทางเป๊ะสุดๆ เคร้าซ์สอดขึ้นไปได้แล้ว เข้าถึงก่อนด้วย แต่ดันเกี่ยวบอลไม่ติด เข้ามือญอริสไปเลย 

เซฟเกิ๊น!เบโกวิชบินปัดเฉียดฉิว 
นาทีที่ 40 แก้ตัวได้สวยมากสำหรับเบโกวิชในจังหวะที่สเปอร์สเล่นลูกตั้งเตะ บอลโยนยาวไปเข้าหัวของดอว์สันที่เติมมาล้มตัวโฉบโขกสะบัดจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่เบโกวิชบินมาอย่างไว พุ่งปัดทิ้งได้ทัน 

ก่อนจะจบครึ่งแรก สเปอร์สเกือบแล้วที่จะได้ประตูพลิกขึ้นนำ จากจังหวะที่เบลวิ่งควบขึ้นไปเอาบอลที่เพื่อนแทงบอลต่อไปให้ ก่อนที่จะล็อกเข้าซ้ายแล้วตัดหักยิงเสาแรกทันที แต่เบโกวิชไม่พลาด ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้แม่น 

จบ 45 นาที สเปอร์สตามตีเสมอสโต๊คเอาไว้ได้ หลังจากโดนเอ็นซองซี่โขกนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม ต้องมาดูว่าอีก 45 นาทีที่เหลือจะเป็นยังไง เพราะถ้าจบแบบนี้สโต๊คเฮ แต่สเปอร์สเศร้าแน่นอน 

ครึ่งหลัง 

เขาล่ะ ... อดัมโดนแดงจ้า 
เล่นครึ่งหลังมาได้แค่ไม่กี่นาที ทำเอากองแช่งสเปอร์สแทบอยากปิดทีวี เพราะอดัมที่โดนใบแดงในช่วงท้ายครึ่งแรก กลับมาโดนอีกใบจากจังหวะที่ไปเสียบแฟร์ทองเก้นจากด้านข้าง เข้าแบบนี้เหมือนคนสิ้นคิดชัดๆ เพราะรู้ก็รู้ว่าตัวเองมีใบเหลืองติดตัวอยู่ถึงจะไม่น่าโดนตั้งแต่ครั้งแรกก็เถอะ สโต๊คเหลือ 10 คนเลย 

ไก่แทบจะวันเวย์ 
หลังจากที่ผู้เล่นมากกว่าเกมก็ตกเป็นของทางสเปอร์สอยู่ฝั่งเดียวแบบไม่ต้องสืบเลย แต่ที่ต้องสนหน่อยก็คือการสโต๊คลงไปยันกันเต็มสูบ ทำให้พื้นที่ในการเล่นน้อยลงไปตาม ต้องดูว่าโบอาสจะมีกลเม็ดอะไรถ่างแนวรับอันแน่นหนาของเจ้าบ้านในตอนนี้ 

หน้าลิงลองยิงฟรีคิกยังไม่ได้ 
ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มมา ใส่ทุกกระบวนท่าที่จะทำได้เลยสำหรับสเปอร์ส ทั้งบุกลุยตรงกลาง ขยับออกข้าง โยกไปย้ายมา ลองยิงไกลก็แล้ว สุดท้ายมาลองลูกฟรีคิกของเบลที่ได้ไปทีในครึ่งแรกซ่งซัดข้ามคาน ตอนนี้ก็มายิงไม่ผ่านกำแพงอีก ลุ้นเหนื่อยกันต่อ 

เกมรับไม่ต้อง!ไก่ถอดปาร์คเกอร์-เด็มเบ้ลง 
นาทีที่ 68 ชั่วโมงนี้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเกมรับแลว สำหรับสเปอร์สที่จัดการถอดเอาตัวรับในแดนกลางอย่างปาร์คเกอร์ออกไป แล้วส่งเด็มเบเล่ลงเติมเกมรุกแทน จัดหนักเพื่อลุ้นประตูเท่านั้น 

หลุดได้ไง!?แฟร์ทองเก้นโขกเดี่ยวไม่เข้า 
อีกหนึ่งนาทีต่อมา เป็นจังหวะที่น่าจะได้ประตูโคตรๆเลยจริงเชียวสำหรับสเปอร์ส เพราะลูกฟรีคิกที่โยนยาวไปเสาสองนั้นมีแฟร์ทองเก้นสอดขึ้นไปลอยตัวโขกเดี่ยวๆอยู่แล้ว แต่กลับกดไม่ลงบอลพุ่งข้ามคานออกไป 

น่าจ่ายนะเว้ย!หน้าลิงฝืนยิงเอง 
นาทีที่ 77 จริงๆลูกนี้ถ้าจ่ายล่ะก็เหน่งๆอยู่แล้ว สำหรับจังหวะที่เด็มเบเล่ลากบอลขึ้นหน้าสวยงาม ก่อนที่จะแทงต่อให้กับเบลในเขตโทษ เกี่ยวบอลล็อกหลบกองหลังได้แล้ว แ่ต่มันเข้าขวา หลักก็ไม่ดี ที่สำคัญเด็มป์ซี่ย์ยืนรออยู่ข้างๆ ว่างโล่งมาก แต่แข้งหน้าลิงกลับเลือกตวัดยิงเอง เลยได้แค่ลุ้นบอลเฉี่ยวเสาออกไป 

ไก่หวิดโดน!ฮูธโขกหลุดนิดเดียว 
อีก 3 นาทีต่อมา น่าโดนสุดๆเลยสำหรับสเปอร์สจากลูกโยนด้านข้างขอวสโต๊คไปเสาสอง มีฮูธลอยขึ้นมาแต่ไกล ก่อนจะได้โหม่งแบบเต็มๆคนเดียว แต่บอลมันเหินหลุดคานไปนิดเดียวเท่านั้นเอง 

มันทำได้เว้ย!บายอร์ยิงพลิกให้ไก่ 
นาทีที่ 83 สมราคาคุยจริงๆสำหรับอเดบายอร์ที่มานำประตูพลิกขึ้นนำให้กับสเปอร์นจากจังหวะที่เด็มป์ซี่ย์ไม่ล้ำหน้ารับบอลพลิกเข้าเขตโทษฏ่อนที่จะไกลยาวไปให้กับอเดบายอร์มาเติมเสาสองแปเข้าไปสบายตุง สเปอร์สพลิก 2-1 

จบ 90 นาทีท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์คว้า 3 คะแนนสำคัญด้วยการพลิกกลับมาเอาชนะสโต๊ค ซิตี้ไปได้ 2-1 แม้ว่าเจ้าบ้านจะเหลือ 10 ตัวก็เถอะ แต่ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นอันดับที่ 4 ก่อนเลย 

ฝั่งสโต๊ค ซิตี้จริงๆก็คงอยากจะมีคะแนนเอาไว้ให้ชัวร์ๆแต่ยังไงก็เชื่อว่าพวกเขาไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากถึงขนาดนั้น 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

สโต๊ค ซิตี้
 : แอสเมียร์ เบโกวิช 6,  โรเบิร์ต ฮูธ  5, มาร์ค วิลสัน 5, ไรอัน ชอว์ครอสส์ 5, ไรอัน ช๊อตตัน  5 (คาเมร่อน น.75), สตีเฟ่น เอ็นซองซี่  6, ชาร์ลี อดัม    4, ดีน ไวท์เฮด 5, โจนาธาน วอลเตอร์ส 5, แมทธิว เอ็ทเธอริงตัน 5(วิลกินสัน 5 น.57), ปีเตอร์ เคร้าซ์ 5(เจอโรม 5 น.57) 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : โธมัส แฟร์มาเล่น, ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ย์, เควิน โจนส์, ไมเคิ่ล โอเว่น 

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ : ฮูโก้ ญอริส 6, แยน แฟร์ทองเก้น 7, ไมเคิ่ล ดอว์สัน 7, ไคล์ วอล์คเกอร์ 6, สตีเว่น คอลเกอร์ 6, คลิ้นท์ เด็มป์ซี่ย์  8*(ซิเกิร์ดสสัน 6 น.84), ทอม ฮัดเดิลสตัน  7, แอร่อน เลนน่อน 5(เดโฟ 5 น.75), สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ 6(เด็มเบเล่ 6 น.78), แกเร็ธ เบล 7, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  7 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : แบรด ฟรีเดล, ไคล์ นอจ์ตัน, เลวิส โฮลท์บี้, โธมัส แคร์โรลล์
 


 

 


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์