ไม่คู่ควรPFA?กิกส์ยิงโชว์นำผีจ่อแชมป์

ไม่คู่ควรPFA?กิกส์ยิงโชว์นำผีจ่อแชมป์

ไรอัน กิกส์ปีกขนดกตอกหน้าจอห์น บาร์นสเต็มๆหลังโชว์ยิงไกลมุมดิกจุดประกายพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกเอาชนะมิดเดิลสโบรห์ถึงถิ่น 2-0 ชิงหนีลิเวอร์พูลเต็มๆ 6 แต้มแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่แค่เอื้อมแล้ว

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2552


มิดเดิลสโบรห์ 0-2 แมนฯยูฯ

ประตู : 0-1 กิกส์ น.25,0-2 ปาร์ค น.51


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันพักคริสติอาโน่ โรนัลโด้ปีกจอมสับไว้ที่ข้างสนามแล้วส่งเฟดิริโก้ มาเคด้าลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกคู่เวย์น รูนีย์ส่วนสองผู้เฒ่าพอล สโคลส์และไรอัน กิกส์คุมแดนกลางครบครัน

ครึ่งแรก

เริ่มเกมมาโบโร่แสดงจุดยืนของทีมหมาจนตรอกด้วยการวิ่งไล่ใส่ตอนไม่มีบอลและพยายามเปิดเกมบุกแลกแบบไม่มีเกรงกลัว

และนาทีที่ 3 เจ้าถิ่นทักทายก่อนเมื่ออาลิอาดิแยร์ได้บอลหน้ากรอบก่อนทำท่าจะยิงด้วยซ้ายแล้วล็อกเข้าขวาข้างไม่ถนัดแต่พอปลดปล่อยพลังบอลกลับเบาก๋องจนฟอสเตอร์ปล่อยออกหลังไป

อีก 2 นาทีต่อมาเอวร่าโชว์ลูกแม่นกลางสนามเมื่อสาดยาวเหมือนเคลียร์ทิ้งแต่มันคือการวางบอลข้ามไปตรงปีกซ้ายให้รูนีย์ดึงลงแบบกระชากหนีแม็คมาห์นแบ็คซ้ายจนได้ส่องหน้ากรอบบอลเหินข้ามคานออกไป

เกมรุกของเจ้าถิ่นต่อบอลบนพื้นเข้าทำได้ไม่ดีนักเลยหันมาเน้นการเปิดจากริมเส้นและลูกตั้งเตะสารพัดแทนและก็เหมือนจะได้ผลเพราะแนวรับยูไนเต็ดมีป่วนให้เห็นบ้างแล้ว

นาที 14 โบโร่เสียบอลง่ายๆจนมาเบอร์บาตอฟที่แตะให้รูนีย์ได้ส่องหน้ากรอบบอลพุ่งตรงแถมมีส่ายเป็นไม้เลื้อยข้ามคานออกไปนิดเดียวแต่โจนส์ก็ทำเก๋ายกมือเฉยไม่ได้กระโดดซะด้วย

เล่นไปเรื่อยๆทีมเยือนก็เริ่มเก็บกินบอลแดนกลางและเป็นฝ่ายเล่นลิงชิงบอลแต่นาที 22 โบโร่สวนกลับมาเกือบได้ประตูจากจังหวะเปิดยาวจากกลางสนามฝั่งขวาเป็นคิงเก็บบอลลงแล้วแทงไหลให้อาลิอาดิแยร์หลุดเข้าไปยิงด้วยอีซ้ายแต่ฟอสเตอร์ล้มตัวใช้ขาเซฟเอาไว้ได้

อีก 2 นาทีต่อมายูไนเต็ดน่าขึ้นนำสุดๆจากการประสานของสองแข้งน้าหลานเมื่อกิกส์ดีดบอลออกปีกซ้ายให้รูนีย์กระชากมาแล้วตบเลียด

แต่แล้วจังหวะต่อเนื่องทีมเยือนขึ้นนำสมใจอยากหลังลูกเตะมุมเจอโบโร่เคลีบร์ออกมาแล้วตั้งกันใหม่เป็นกิกส์ได้บอลจากเพื่อนตรงหน้ากรอบโทษแล้วอยู่ดีๆก็ยิงเต็มข้อบอลพุ่งเสียบเสาชนิดที่โจนส์ได้แต่ยืนมองบอลเฉยๆไม่ได้เซฟเลยด้วยซ้ำ

มาถึงชั่วโมงนึงปิศาจแดงรอดพ้นการเสียจุดโทษเต็มๆหลังบอลถูกแขนวิดิชแถมไปไต่แขนเบอร์บาตอฟอีกคนแต่ฮัลซี่ย์ซึ่งยืนอยู่ตรงนั้นโบกมือให้เล่นต่อ

เท่าที่ดูเกมรุกโบโร่คงต้องใช้ความมหัศจรรย์แล้วล่ะเพราะต่อบอลไม่แน่นอนและตัวผู้เล่นริมเส้นไม่ได้เร็วหรือดุดันกว่าฝั่งยูไนเต็ดเลย แบบนี้เสร็จเด็กป๋าที่สวนทีไรได้ลุ้นลูกสองทุกที

นาทีสุดท้ายโบโร่ประมาทบุกเพลินเจอสวนกลับและเป็นสโคลส์เห็นไม่มีใครเข้าเลยลากมายิงไกล 25 หลาบอลพุ่งถากเสาแบบน่าเข้า

อีกนาทีถัดมาโจนส์นายทวารโบโร่เกือบมอบโชคให้ยูไนเต็ดหลังจ่ายบอลเลียดให้ฮอยท์ไปเข้าทางเบอร์บาตอฟที่วิ่งมาฉกก่อนกระชากเข้ากรอบด้านข้างแล้วล็อกหนีฮอยท์ที่ปรี่ตามมาช่วยก่อนไหลให้สโคลส์วิ่งมายิงด้วยขวาบอลบดปลิ้นออกหลังไปเองอีก

ช่วงทดเจ็บกลายเป็นโบโร่ที่เกือบโดนลูกสองหลายครั้งและถ้าโจนส์ไม่แก้ตัวปรี่ออกมานอกกรอบเขตโทษเพื่อสไลด์ตัดบอลจากเบอร์บาตอฟสงสัยหลุดไปล่อเป้าแน่นอน

ครึ่งหลัง

เริ่มมา 4 นาทีโบโร่เกือบพังอีกหลังแม็คมาห์นเอารูนีย์ที่กระชากมาตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายไม่อยู่ถึงกับล้มทัลักทุเลขวางแต่ไม่ทันการเป็นหมูพลิ้วตบบอลย้อนมาให้มาเคด้าล้มตัวซัดแต่ออกหลังอย่างน่าเสียดาย

และแล้วเกมของโบโร่ที่ไม่มีอะไรเป็นจุดเด่นก็เสียท่าในนาที 51 จนได้หลังปล่อยให้แข้งทีมเยือนเคาะบอล 2 จังหวะทั้งกิกส์และมาเคด้าก่อนกิกส์จะป้ายให้รูนีย์ที่รับบอลตรงกลางระยะ 35 หลาก่อนแทงไหลให้ปาร์คสอดหาที่ว่างทั้งๆที่มีเซนเตอร์เจ้าถิ่นอยู่สองคนก่อนวิ่งดึงจังหวะรอบอลแล้วหมุนตัวตะบันยิงด้วยอีซ้ายแบบไม่ต้องจับบอลทแยงเสียบหน้าต่างเข้าไปสุดงาม

ต้องยอมรับว่าโบโร่มีตัวจอมทัพหรือตัวที่คอยป่วนแนวรับทีมเยือนน้อยมากโดยแต่ละคนแคลำพังเอาตัวรอดจากตัวประกบยังลำบากที่พอได้ลุ้นหน่อยคงมีแค่ดาวนิ่งกับตุนกายรวมทั้งอาลิอาดิแยร์เท่านั้นเอง

ยูไนเต็ดเล่นบอลประครองแบบถนอมตัวเพราะยังมีคิวเจออาร์เซนอลในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกวันอังคารนี้อยู่

นาที 78 รูนีย์ที่พยายามขอมีชื่อทำประตูก็ได้ลุ้นอีกหลังลากมาทางกรอบโทษฝั่งซ้ายจี้ใส่เบสต์ที่เซาธเกทเปลี่ยนแท็คติกส์ให้มาคุมแทนก่อนล็อกเข้าเท้าขวาแล้วปั่นไซด์บอลโค้งขามสามเหลี่ยมแบบเสียวกันทั้งสนาม

บอลคู่นี้กลายเป็นเหนือชั้นกว่ากันเยอะมากขนาดโบโร่ต้องการ 3 แต้มเพื่อหนีตกชั้นยังทำอะไรแนวรับปิศาจแดงได้ไม่มากเท่าที่ควร

หมดเวลาปิศาจแดงบุกมาสอยร่วงแบบไร้ปัญหา 2-0 ขโยกหนีลิเวอร์พูลไปเป็น 6 แต้มเต็มแถมประตูได้เสียก็ยังเท่ากันแล้วที่ +40 โดยเหลือโปรแกรมอีกเพียงแค่ 4 นัดเท่านั้นส่วนโบโร่ส่อแววตกชั้นแน่หากไม่เก็บชัยชนะในเร็ววันนี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

มิดเดิลสโบรห์ :
แบร๊ด โจนส์,โรเบิร์ต ฮูธ ,เดวิด วีเทอร์,จัวติน ฮอยท์,โทนี่ แม็คมาห์น(ดิการ์ด น.54),ตุนกาย ซานลี่,แมทธิว เบตส์,สจ๊วต ดาวนิ่ง,แกรี่ โอนีล,มาร์ลอน คิง(อัลเวส น.54),เฌเรมี่ อาลิอาดิแยร์

แมนฯยูฯ : เบน ฟอสเตอร์,จอห์น โอเช,จอนนี่ อีแวนส์,เนมันย่า วิดิช,ปาทริซ เอวร่า,ปาร์ค จีซอง(นานี่ น.74),พอล สโคลส์,ไรอัน กิกส์,เวย์น รูนีย์,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ,เฟเดริโก้ มาเคด้า (เตเบซ น.56)































ขอบคุณข่าวจากlentee 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์