ไก่เปิดเล้าเฉือนเรือใบเกาะที่ 4 ฉีกปืนห่าง 5 แต้ม

ไก่เปิดเล้าเฉือนเรือใบเกาะที่ 4 ฉีกปืนห่าง 5 แต้ม

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2549 20:48 น.

ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เปิดบ้านเฉือนชนะ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 พร้อมกับรั้งอันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ โดยมีเพิ่มเป็น 58 คะแนน ทิ้งห่าง ปืนใหญ่ อาร์เซนอล อันดับ 5 อยู่ห้าแต้มแต่ลงสนามมากกว่า 2 นัด

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

มาร์ติน โยล ต้องเร่งเร้าให้ขุนพลสเปอร์สเร่งเก็บชัยเนื่องจากโดน ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ไล่หลังเข้ามาติดๆ เกมนี้มีปัญหาเล็กน้อยในแผงหลังเมื่อ ไมเคิล ดอว์สัน ติดโทษแบนแต่ยังดีที่ เล็ดลี่ย์ คิง กัปตันทีมฟิตกลับมาค้ำ แดนกลางให้ อารอน เลนน่อน ลงกระชากตามกราบ ส่วนคู่หน้าเป็นหน้าที่ของ ร็อบบี้ คีน และอาเหม็ด ฮอสซัม มิโด้

ด้าน สจ๊วร์ต เพียร์ซ หวังว่าลูกทีมแมนฯ ซิตี้ จะขุดฟอร์มเก่งออกมาได้เสียทีหลังพ่ายในลีกมาติดๆ กัน 4 นัดเกมนี้ประสบปัญหาในการจัดทัพพอสมควรเมื่อตัวหลักอย่าง โจอี้ บาร์ตัน และแอนดี้ โคล ประสบปัญหาบาดเจ็บ กองหน้าต้องให้ ดาริอุส วาสเซลล์ ประสานงานกับ จอร์จอส ซามาราส แดนกลางได้ เคลาดิโอ เรย์น่า กลับมาคุมจังหวะเกม ส่วนแผงรับ ซิลแว็ง ดิสแต็ง พ้นโทษแบนกลับมาช่วย ริชาร์ด ดันน์

เริ่มเกมการแข่งขันในช่วง 15 นาทีแรกทั้งสองฝ่ายพยายามตั้งเกมของตัวเองให้ได้และก็เป็น สเปอร์ส ที่ได้ลุ้นก่อนเมื่อ คาร์ริค ได้บอลนอกกรอบก่อนตัดสินใจส่องไกลด้วยขวา เจมส์ ปัดไว้ได้ที่เสาแรก แต่แมนฯ ซิตี้ ก็โต้ตอบและก็ได้ลุ้นเช่นกันเมื่อ วาสเซลล์ ทำชิ่งหลุดไปถึง ริชาร์ดส ซึ่งเติมขึ้นมายิงในกรอบ 6 หลาแต่บอลหลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย

เกมเริ่มที่จะสนุกตื่นเต้นเจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูถึงสองครั้งสองครา เริ่มจากความผิดพลาดของ เจมส์ ที่พยายามเลี้ยงหลบ เลนน่อน แต่ดันแตะบอลแรงทำให้ มิโด้ ฉกหลุดไปทางขวาอย่างไรก็ตามไม่ยอมส่งให้ คีน ที่ยืนอยู่หน้าประตูเลยเสียโอกาสไปในที่สุด จังหวะถัดมา คีน ได้หลุดเดี่ยวไปอีกแต่กระดกบอลเบาเกินไป นายทวารทีมเยือนกระโดดคว้าเอาไว้ได้

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปรูปเกมเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลได้มากกว่า นาทีที่ 38 สเปอร์สน่าจะได้ประตูเป็นที่สุดเมื่อ ลี ยอง เปียว แทงบอลให้ คีน หลุดเข้าไปกระทุ้ง เจมส์ ปัดบอลไปชนคานอย่างจัง แต่ก่อนจบครึ่งแรกแค่นาทีเดียวเจ้าถิ่นเจาะตาข่ายสำเร็จจนได้เมื่อ คีน ยิงให้นายทวารเรือใบปัดออกมาเข้าทาง สตัลเทรี่ เติมเข้ามาซ้ำไม่เหลือจบครึ่งแรกสเปอร์สขึ้นนำ 1-0

เปิดฉากครึ่งหลัง สเปอร์สยังคงเดินเกมบุกต่อไปและใช้เวลาแค่ 4 นาทีก็ทะลวงตาข่ายนำไปเป็น 2-0 เมื่อ คาร์ริค สอดทะลุเข้าไปซัดด้วยขวาจ่อๆ หมดสิทธิที่ เจมส์ จะปัดป้องเอาไว้ได้ แต่เจ้าถิ่นดีใจได้แค่ 3 นาทีแมนฯ ซิตี้ ไล่มาเป็น 1-2 เมื่อ ดิสแต็ง ทุ่มไกลให้ ซามาราส เบียด คิง ก่อนใช้เท้าจิ้มบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย เกมแลกกันอย่างสนุก จีนัส ทะลุขึ้นไปทางขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ คีน พลิกยิงเข้าไปแต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เพียร์ซ หันมาแก้เกมให้แมนฯ ซิตี้ด้วยการเติม อัลเบิร์ต ริเอร่า มาช่วยทำเกมรุกพร้อมกับถอด มิลล์ส ออกไปและก็ถอย ซินแคลร์ ไปเล่นเป็นแบ็กขวาแทน และริเอร่า ก็ได้ลองส่องด้วยซ้ายจากนอกกรอบร้อนถึง โรบินสัน ต้องเหินปัดพ้นคานไป เจ้าถิ่นเน้นโต้กลับ สตัลเทรี่ เติมไปทางขวาก่อนเปิดเข้ากลางบอลไปแฉลบตัว แธตเชอร์ เปลี่ยนทางแต่ เจมส์ ปัดไปชนเสากระดอนออกไป

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนตัวเพื่อฮึดอีกเฮือก แมนฯ ซิตี้ให้ อองตวน ซิเบียร์สกี้ ซึ่งถนัดเกมรุกมาเล่นแทน เรย์น่า ส่วนสเปอร์สให้ เจอร์เมน เดโฟ ลงมาเป็นตัวจี๊ดแทนที่แต่ทั้งคู่ไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้จบเกม สเปอร์เฉือนชนะแมนฯ ซิตี้ 2-1 มีเพิ่มเป็น 58 คะแนนเกาะอันดับ 4 ของตารางอย่างเหนียวแน่น ส่วนแมนฯ ซิตี้แพ้เป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันยังอยู่ในอันดับ 13

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน , พอล สตัลเทรี่ , เล็ดลี่ย์ คิง , แอนโธนี่ย์ การ์ดเนอร์ , ลี ยอง เปียว , อารอน เลนน่อน , ไมเคิล คาร์ริค , เจอร์เมน จีนัส , เตมู เตนิโอ , ร็อบบี้ คีน , อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด้

แมนฯ ซิตี้ : เดวิด เจมส์ , แดนนี่ มิลล์ส , ริชาร์ด ดันน์ , ซิลแว็ง ดิสแต็ง , เบน แธตเชอร์ , เทร์เวอร์ ซินแคลร์ , มิก้า ริชาร์ดส , เคลาดิโอ เรย์น่า , กิกี้ มูซัมป้า , ดาริอุส วาสเซลล์ , จอร์จอส ซามาราส

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์