โอเว่นอัดพวกวิจารณ์ไม่สนสถิติชาร์ลตัน

โอเว่นอัดพวกวิจารณ์ไม่สนสถิติชาร์ลตัน "บิ๊กแม็ก"กำชับลูกทีมห้ามประมาท"เอสโตเนีย"

เบบี้โกล์"ไมเคิล โอเว่น กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยันไม่ได้มุ่งหวังกับการถล่มประตูให้กับทีมชาติ ทาบสถิติสูงสุดของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน หลังจากที่ในขณะนี้ทำได้ถึง 40 ประตู และมีสถิติไล่หลังเพียงแค่ 9 ประตูเท่านั้น โอเว่นยิงได้แล้วถึง 40 ประตู รวมถึง 2 ประตูล่าสุด ที่เอาชนะรัสเซีย 3-0 และทำยอดประตูไล่หลังเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน อดีตแข้งระดับตำนานของอังกฤษ อีกเพียง 9 ประตูเท่านั้น

โอเว่นกล่าวว่า "มันคงจะเป็นความสำเร็จอันน่ามหัศจรรย์ แต่มันก็ยังอีกยาวไกล ผมต้องการเก็บมันไว้ในใจ เพราะผมบอกตัวเองตลอดว่าผมลงเล่นให้กับอังกฤษมาเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้วในตอนนี้ และผมก็ทำได้ถึง 40 ประตู ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ประตูต่อปี หากเป็นอย่างนั้นแล้ว ถ้าผมยังรักษาความฟิตและฟอร์มการเล่น รวมถึงอยู่กับทีมต่อไปได้ ผมยังคงเหลือเวลากว่า 2 ปีเพื่อทำสิ่งนี้ ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ถือว่ายาวนานแล้วในวงการฟุตบอล นับประสาอะไรกับ 2 ปี"

ขณะเดียวกัน ชาร์ลตันเจ้าของสถิติทำสกอร์สูงสุดของอังกฤษ เป็นเวลายาวนานกว่า 37 ปี ได้กล่าวหนุนโอเว่นว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อมในการทาบบัลลังก์แทนที่ของตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะเดียวกัน ชาร์ลตันเจ้าของสถิติทำสกอร์สูงสุดของอังกฤษ เป็นเวลายาวนานกว่า 37 ปี ได้กล่าวหนุนโอเว่นว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อมในการทาบบัลลังก์แทนที่ของตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนี้ โอเว่นยังอัดเสียงวิจารณ์ที่บอกว่า เวย์น รูนีย์ ไม่เหมาะเป็นคู่ขาในแดนหน้าของเขา บอกคิดผิด พร้อมชี้ เอมิล เฮสกี้ เหมาะคอยเป็นคนพักบอลชงบอลให้เหมือน 2 นัดก่อนก็จริง แต่กับรูนีย์ ก็เคยช่วยกันระเบิดฟอร์มพาทีมเอาชนะอาร์เจนตินา 3-2

ด้าน สตีฟ แม็กคลาเรน กุนซือทีมชาติอังกฤษ ออกโรงกระตุ้นขุนพล"สิงโตคำราม"

ให้มุ่งมั่นกับเกมที่จะเปิดนิว เวมบลีย์ รับการมาเยือนของเอสโตเนียในวันเสาร์นี้ให้ดีเสียก่อน โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงเกมที่จะต้องออกไปเยือนรัสเซีย "เราต้องพาตัวเองเข้าไปในฐานะอันดับหนึ่งให้ได้ แต่ทั้งนักเตะและสต๊าฟทุกคนต้องลืมเกมวันพุธหน้าที่จะบุกไปเยือนรัสเซียไว้ก่อน แล้วมุ่งมั่นเก็บ 3 คะแนนกับเอสโตเนียให้ได้ในวันเสาร์นี้ เราจะพลาดแบบเกมกับมาซิโดเนียเมื่อ 12 เดือนก่อนไม่ได้อีกแล้ว เราเสีย 2 แต้มไปแบบไม่น่าเสีย เราห้ามประมาทเอสโตเนียเป็นอันขาด" บิ๊กแม็กยังยืนยันว่าแฟรงก์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ตัวหลักของทีมที่หายจากอาการบาดเจ็บพร้อมลงสนามในเกมนี้แน่นอน แม้แกเร็ธ แบร์รี่ จะโชว์ฟอร์มได้ดีใน 2 นัดที่ผ่านมา จะใช้แฟรงก์ แลมพาร์ด กับ สตีเฟ่น เจอร์ราด เป็นคู่กลาง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์