โอเว่นยิงเซฟนิวไล่เจ๊าลูกโลก

โอเว่นยิงเซฟนิวไล่เจ๊าลูกโลก

ไมเคิ่ล โอเว่นหอกร่างจิ๋วช่วยซัดประตูตีเสมอให้นิวคาสเซิ่ลไม่แพ้เบอร์มิงแฮมต่อหน้าฟาบิโอ คาเปลโล่ที่เซนต์ แอนดรูว์และแม้ว่าทีมยังไม่ชนะใครเป็นนัดที่ 13 แต่ก็ขยับแซงเรดดิ้งขึ้นมาอยู่อันดับ 14 แล้ว

บรรยายเกมโดยนาฬิกาทราย

เบอร์มิงแฮม 1-1 นิวคาสเซิล

สนาม :
เซนต์ แอนดรูว์

ประตู : 1-0 เจมส์ แมคฟาดเด้น น.33,1-1 ไมเคิล โอเว่น น.56



นิวคาสเซิลวันนี้วางหมากมาแบบรุกเต็มพิกัด เควิน คีแกนส่งกองหน้าไปถึงสามคนทั้งไมเคิล โอเว่น,โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ และมาร์ก วิดูก้า ส่วนขาประจำอย่างอลัน สมิธ วันนี้มีชื่อเพียงแค่บนม้านั่งสำรอง

ออกสตาร์ตมาได้แค่ 6 นาทีเท่านั้น เจ้าถิ่นก็เกือบออกนำก่อนอย่างรวดเร็วจากลูกยิงเต็มข้อของเจมส์ แมคฟาดเด้นระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรงเป็นลูกปืน แต่อับดุลลาเย่ ฟาย แหย่ขาสะกัดออกไปได้แบบจวนเจียนสุดๆ

ทีมเยือนยังเล่นแบบสเปะสปะและแทบไม่ได้ยิงให้ไมค์ เทย์เลอร์ต้องเซฟเลยโดยนาทีที่ 17 ทีมลูกโลกรุกขึ้นมาอีกครั้ง ฟาบริซ มูอัมบ้า แทงบอลให้มิกาเอล ฟอร์สเซลล์ วิ่งมาอัดเน้นๆเต็มเท้าขวา แต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

และแล้วมาถึงในนาทีที่ 33 เบอร์มิงแฮมก็ทะยานออกนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่เดวิด เมอร์ฟี่ เปิดบอลยาวมาจากนอกเขตโทษ อับดุลลาเย่ ฟายบังบอลไม่มิดเลยถูกเจมส์ แม็คฟาดเด้นซึ่งยืนอยู่ด้านหลังแหย่ขาฉกก่อนหลุดไปแหย่บอลผ่านตัวฮาร์เปอร์ที่กระโดดเหยงเสียจังหวะไม่นึกว่าจะหลุดมาเดี่ยวแบบนี้ เบอร์มิงแฮมนำแล้ว 1-0

นิวคาสเซิล พยายามชวนทะเลาะแต่เรียกว่าเอาแต่โยนยาวจากหลังมาหน้าแบบไร้อนาคตและสุดท้ายก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

เปิดฉากครึ่งหลัง เกมยิ่งเข้มข้นไปกว่าเดิมอีกเท่าตัว ทั้งสองทีมแลกหมัดคนละตุ้บตั้บอย่างสนุก นาทีที่ 46 เบอร์มิงแฮมมีโอกาสก่อน เมื่อฮาบิบ เบย์เคลียร์ไม่ขาด ฟอร์สเซลล์โฉบตัดบอลได้ก่อนจะยิงกะให้เสียบมุม แต่บอลยังไม่ผ่านมือสตีฟ ฮาร์เปอร์บล็อกไว้ได้เยี่ยม

นาทีที่ 50 นิวคาสเซิลมาพลาดโอกาสการได้ประตูแบบไม่น่าเชื่อ เมื่อเลียม ริดจ์เวลล์เตะบอลวืด บอลเลยตกมาถึงโอเว่น แบบส้มหล่น ซึ่งโอเว่นกะยิงดีดให้ผ่านตัวไมค์ เทย์เลอร์ซึ่งไวกว่าพุ่งทะยานปัดออกหลังได้ด้วยมือเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น นิวคาสเซิลมาตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะประสานงานอันยอดเยี่ยมของคู่หูโอเว่น-มาร์ตินส์ ในนาทีที่ 56

บอลเริ่มจากโอเว่น ที่พักอกให้มาร์ตินส์หาจังหวะซัดเต็มข้อแต่เทย์เลอร์พุ่งตะปบไว้ได้ แต่โอเว่นก็เหมือนฉลามกลิ่นคาวเลือด ปรี่เข้าซ้ำอย่างรวดเร็วก่อนที่สองกองหลังจะเคลียร์เพียงแค่เศษเสี้ยววินาที ส่งบอลไปกองอยู่ที่ตาข่ายอย่างยอดเยี่ยม

พอตีเสมอได้เกมก็เป็นของนิวคาสเซิล แบบวันเวย์เลยทีเดียว เริ่มจากนาทีที่ 66 โจเซ่ เอนริเก้ได้ยิงไกลกว่า 30 หลาแต่ไมค์ เทย์เลอร์ปัดออกหลังไปได้ ในขณะที่อีกสองนาทีต่อมามาร์ตินส์มีโอกาสยิงแบบหักข้อในขตโทษ แต่เทย์เลอร์เจ้าเก่าเซฟไว้ได้ตามเคย

เกมล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 82 เควิน คีแกนตัดสินใจถอดโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ออกแล้วส่งชาร์ล เอ็นซ็อกเบียเข้าไป ซึ่งแฟนๆนิวคาสเซิลที่ตามมาเชียร์ต่างมีนงงตามๆกันไป เพราะจะว่าไปแล้ว มาร์ตินส์คือคนที่มีสีสันที่สุดในเกมนี้ด้วยซ้ำ

ช่วงเวลาที่เหลือนิวคาสเซิลพยายามบุกหนักเพื่อหวังให้เป็นชัยชนะนัดแรก ของคีแกนให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จสุดท้ายทั้งคู่จึงแบ่งแต้มกันไปอย่างยุติธรรม 1-1 และ"สาลิกา"มีเกมที่รอคอยพบกับฟูแล่มในบ้านตัวเองสุดสัปดาห์นี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบอร์มิงแฮม :
ไมค์ เทย์เลอร์,สตีเฟ่น เคลลี่,ราดี้ห์ จาอิดี้,เลียม ริดจ์เวลล์,เดวิด เมอร์ฟีย์,เซบาสเตียน ลาร์สสัน(สจ๊วร์ต พาร์นาบี้ น.46),ฟาบริซ มูอัมบ้า,ดาเมียน จอห์นสัน,แกรี่ แมคเชรฟฟรีย์,มิกาเอล ฟอร์สเซลล์(คาเมรอน เจอโรม น.71),เจมส์ แมคฟาดเด้น(เมาโร ซาราเต้ น.86)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : โคลิน ดอยล์,เมห์ดี้ นาฟตี้

ใบเหลือง : เคลลี่,พาร์นาบี้

นิวคาสเซิล : สตีฟ ฮาร์เปอร์,ฮาบิบ เบย์,อับดุลลาเย่ ฟาย,สตีเว่น เทย์เลอร์,โจเซ่ เอ็นริเก้,โจอี้ บาร์ตัน,เฌเรมี่,นิกกี้ บัตต์,โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์(ชาร์ล เอ็นซ็อกเบีย น.82),ไมเคิล โอเว่น,มาร์ก วิดูก้า

สำรองไม่ได้ลงสนาม : เฟรเซอร์ ฟอสเตอร์,กาซาป้า,อลัน สมิธ,แอนดรูว์ คาโรลล์

ใบเหลือง : เฌเรมี่ ,เทย์เลอร์

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์


















 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์