โอซิลเซฟชุดขาว!ฟรีคิกนาที 89 ตีเจ๊าเสือเหลือง 2-2


 
เมซุต โอซิลเพลย์เมคเกอร์ร่างบางสวมบทฮีโร่ซัดฟรีคิกก่อนหมดเวลานาทีเดียวส่งให้ราชันชุดขาวเรอัล มาดริดรอดพ้นความปราชัยคาบ้านตีเจ๊าเสือเหลืองโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-2

แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2555


เรอัล มาดริด 2-2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

ประตู :
0-1 มาร์โค รอยส์ น. 28, 1-1 เปเป้ น.34, 1-2 อัลบาโร่ อาร์เบลัว (เข้าประตูตัวเอง) น. 45, 2-2 เมซุต โอซิล น. 89

เรอัล มาดริดหวังถอนแค้นจากการบุกไปแพ้มาก่อนในเกมแรกให้ได้โดยจัดแนวรุกลงเต็มสูบนำโดยคริสติอาโน่ โรนัลโด้และกอนซาโล่ อิกวาอินที่ยืนปักหลักล่าตาข่าย

เกมแดนกลางอาศัยลูก้า โมดริช, อังเคล ดิ มาเรียและเมซุต โอซิลทำเกมรุกโดยมีซาบี อลอนโซ่คอยคุมจังหวะอยู่ด้านหลัง

ด้านทีมเยือนไม่กลัวน้อยหน้าขนนักเตะเกมรุกลงมาประชันเช่นกันแดนกลางนำโดยมาริโอ เกิทเซ่และเควิน โกรสครอยซ์โดยมีโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้หัวหอกตัวเก่งค้ำอยู่ข้างหน้า

ครึ่งแรก

ท่าจะมัน!เปิดหน้าบุกกันก่อนเลย
เปิดเกมขึ้นมาทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีรอช้าจัดการเปิดเกมบุกใส่กันตามสไตล์บอลเอ็นเตอร์เทนด้วยกันทั้งคู่แต่ก็ยังไม่มีจังหวะยิงใส่กันแบบจะแจ้งมากเท่าไหร่นัก

กาซีญาสออกแรงเซฟก่อน
มาถึงนาทีที่ 14 มาริโอ เกิทเซ่เลี้ยงบอลทะลุมาถึงกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนป้ายไปให้มาร์เซล ชเมลเซอร์ที่เติมขึ้นมาได้ส่องด้วยขวาเต็มๆแต่อีเคร์ กาซีญาสยังทุบบอลพ้นอันตรายออกไปได้

โด้ขวิดหลุดกรอบ
นาทีที่ 22 มาดริดน่าได้ประตูขึ้นนำบ้างเมื่อกอนซาโล่ อิกวาอินได้บอลหลุดไปทางริมเส้นด้านขวาโล่งๆก่อนตวัดเข้ากลางประตูไปให้คริสติอาโน่ โรนัลโด้ที่รออยู่ตรงจุดโทษได้โขกแต่โดนไม่ดีบอลออกหลังไป

เสือเหลืองเฮก่อน!รอยส์ยิงอย่างงาม
กลายเป็นฝั่งของทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำก่อนจนได้จากจังหวะที่เลวานดอฟสกี้โหม่งขงออกไปให้มาร์โค รอยส์ที่เติมขึ้นมาริมเส้นด้านขวาซึ่งเขาบรรจงยิงเต็มข้อบอลฮุคเสียใต้คานเข้าไปหมดปัญญาที่กาซีญาสจะป้องกันเอาไว้

เป้ไม่ยอมตีเจ๊าทันควัน
เปเป้โขกเต็มหัวมาดริดตีเจ๊า
เสียประตูไปไม่เท่าไหร่เรอัล มาดริดพยายามทวงประตูอย่างหนักหน่วงและก็สามารถทำสำเร็จจนได้เมื่อโอซิลได้ตั้งป้อมเปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายมาให้เปเป้โถมตัวขึ้นโขกคนเดียวบอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าประตูไป

รามอสได้โขก
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายราชันชุดขาวมาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกไกลบริเวณริมเส้นด้านซ้ายซึ่งซาบี อลอนโซ่บรรจงเปิดบอลเข้ามาตรงจุดนัดหมดให้รามอสกระโดดขึ้นโหม่งแต่บอลหลุดเสาไกลออกไป

เกิทเซ่หลุดซัดเสือเหลืองนำอีก
ก่อนหมดครึ่งแรกไม่กี่อึดใจเสือเหลืองมาได้ประตูออกนำอีกครั้งเมื่อเควิน โกรสครอยซ์วิ่งควบมาเก็บบอลที่เลวานดอฟสกี้โหม่งชงมาให้บริเวณหน้าปากเขตโทษด้านซ้ายก่อนกระดกเข้ากลางประตูให้เกิทเซ่ที่เติมขึ้นมาพักบอลหนึ่งจังหวะก่อนแตะข้ามกาซีญาสที่พยายามออกมาบล็อกเข้าไปกองก้นตาข่ายแต่ดูเหมือนจังหวะสุดท้ายจะเป็นอาร์เบลัวที่โดนบอลเข้าประตูตัวเองพร้อมกับเสียงนกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก

ครึ่งหลัง

มาดริดเฮเก้อ!กาเญฆ่อนล้ำหน้า
เปิดเกมขึ้นมามาดริดได้เฮเก้อกันก่อนเมื่อกาเญฆ่อนได้บอลหลุดเดี่ยวไปบรรจงแปบอลนอกกรอบเขตโทษชนโคนเสาด้านขวาเข้าประตูไปแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

กาเญฆ่อนยิงเฉี่ยวเสา
น. 50มาดริดเกือบได้ประตูตีเสมออีกครั้งในจังหวะที่อลอนโซ่แทงบอลทะลุช่องมาให้กาเญฆ่อนได้ส่องหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลหลุดออกเสาด้านขวาไปเส้นยาแดงผ่าแปดจริงๆ

เสือเหลืองงัดเกมหนักเข้าสู้
หลังจากดาหน้าบุกอยู่เกือบ 15 นาทีแรกของครึ่งหลังดอร์ทมุนด์ก็งัดเกมหนักขึ้นมาแก้เกมและก็ได้ผลเมื่อหยุดเกมรุกของมาดริดได้ดีพอสมควรแต่ก็ต้องแลกมาด้วย 2 ใบเหลืองของทั้งเควิน โกรสครอยซ์และแมตส์ ฮุมเมิ่ลส์

โด้ยิงจ่อๆติดเซฟ
โอกาสทองของมาดริดมาในนาทีที่ 79 เมื่อดิ มาเรียได้บอลริมกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจ่ายทะลุช่องมาให้โรนัลโด้ได้จิ้มบอลกลางประตูในจังหวะสุดท้ายแต่ไวเดนเฟลเลอร์ยังออกมาบล็อกเอาไว้ได้หวุดหวิดโดยจังหวะต่อเนื่องนั้นกาก้าโดนเคห์ลเบียดล้มลงไปแต่กรรมการยังเฉยไม่เป่าเป็นจุดโทษ

ดิ มาเรียเข้าชาร์จได้เสียว
มาดริดจ่อได้ประตูตีเสมออีกรอบในจังหวะที่โรนัลโด้ขึ้นโขกบอลกลางประตูมาให้ดิ มาเรียเข้าชาร์จที่เสาสองแต่บอลมาเร็วทำให้ดาวเตะอาร์เจนไตน์จิ้มบอลไปโดนหน้าแข้งก่อนออกหลังไปอีกครั้ง

โกรสครอยซ์เซฟเสือเหลือง
เหลืออีก 5 นาทีสุดท้ายมาดริดเอาบอลมาป้วนเปี้ยนในกรอบเขตโทษของทีมเยือนอีกครั้งก่อนที่ดิ มาเรียจะจ่ายบอลไปให้โอซิลได้จิ้มตรงกรอบ 6 หลาบอลผ่านมือของไวเดนเฟลเลอร์ไปแล้วแต่โกรสครอยซ์ยังลงมาเคลียร์ออกจากเส้นได้หวุดหวิด

โอซิลฟรีคิกตีเจ๊า 2-2
เมซุต โอซิลมาพังประตูตีเสมอให้ทีมจนได้จากจังหวะปั่นฟรีคิกสุดสวนบริเวณนอกกรอบเขตโทษด้านขวาบอลโค้งผ่านกำแพงก่อนมุดเข้าโคนเสาแรกไวเดนเฟลเลอร์ขยับมาปัดป้องไว้ไม่ทันก่อนจบเกมด้วยการเสมอกัน 2-2

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

เรอัล มาดริด : อีเคร์ กาซีญาส, ราฟาเอล วาราน, เปเป้
, เซร์คิโอ รามอส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว (กาก้า น. 76), คริสติอาโน่ โรนัลโด้, ซาบี อลอนโซ่, ลูก้า โมดริช (มิเชล เอสเซียง น. 46), อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล , กอนซาโล่ อิกวาอิน (โฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อน น. 46)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : อันโตนิโอ อาดาน, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, ราอูล อัลบิโอล, นาโช่

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, เนเว่น ซูโบติช, แมตส์ ฮุมเมิ่ลส์
, ลูคัส ปิสเซ็ค, มาร์เซล ชเมลเซอร์ , เซบาสเตียน เคห์ล, อีกาย กุยโดกัน (อีวาน เพริซิช น. 80), มาร์โค รอยส์ (สเวน เบนเดอร์ น.74), เควิน โกรสครอยซ์ , โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, มาริโอ เกิทเซ่
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : มิตเชลล์ แลนเกรัค, คริส เลิฟ, เฟลิเป้ ซานตาน่า, โมริตซ์ ไลท์เนอร์, จูเลี่ยน ชีเบอร์









 


แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์