โสมขาวอัดอิหร่าน2-0,ยูเครนเผาเครื่องยุ่น1-0

ดิ๊ก อั๊ดโวคาท โค้ชชาวดัตช์ ประเดิมการคุมทัพ โสมชาว เกาหลีใต้ ได้อย่างสวยหรูเมื่อพาทีมไล่อัด อิหร่าน ยอดทีมเอเชีย แบบสบายเท้า 2-0 โมฮัมหมัด โนสตราตี สกัดเข้าประตูตัวเองให้โสมขาวออกนำก่อนคิม จิน-คู มาซัดปิดท้ายให้ทีมเก็บชัยในเกมอุ่นเครื่อง

โสมขาว เกาหลีใต้ ทีมอันดับ 4 ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2002 เปิดรังพบกับทีมชาติอิหร่านอดีตแชมป์เอเชียน คัพ 3 สมัยซึ่งเกาหลีใต้ ดิ๊ก อั๊ดโวคาท โค้ชชาวดัตช์เข้านำทีมนัดแรกอย่างเป็นทางการหลังจากที่เซ็นสัญญารับงานเมื่อเดือนที่แล้ว และเรียกนักเตะจากต่างแดนเข้ามาร่วมทีมพร้อมกับนักจากชุดฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเมื่อสามปีที่แล้วมากกว่าครึ่งทีมผสมผสานกับรุ่นใหม่ส่วน อิหร่านก็เรียกนักเตะจากต่างชาติมาร่วมทีมขาดเพียงแค่ อาลี ดาอี และ เมห์ดี้ มาห์ดาวิเคีย

ครึ่งแรกเกาหลีใต้ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วเมื่อเริ่มเขี่ยลูกแค่ 58 วินาที เมื่อ คิม ดอง-จิน กองกลางตัวเก่งเปิดจากทางซ้ายเข้าไป โมฮัมหมัด โนสตราตี กองหลังอิหร่านเคลียร์บอลแต่ไปเข้าทาง โช วอน-ฮี กองกลางดางรุ่งที่เล่นทีมชาติครั้งแรกยิงด้วยเท้าขวาเข้าไปสุดที่ เอบราฮิม มีร์ซาปูร์ ผู้รักษาประตูอิหร่านจะรับไว้ได้ทำให้เกาหลีใต้นำไปก่อน 1-0 นับเป็นสถิติการยิงประตูเร็วที่สุดในทีมชาติเกาหลีใต้ และเป็นประตูเดียวในครึ่งแรกจบลงเกาหลีใต้นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังทางเกาหลีใต้ยังครองเกมดีกว่า และนาทีสุดท้ายการแข่งขัน อาห์น จุง-ฮวาน กองหน้าจากสโมสรเม็ตซ์ในลีก เอิง ฝรั่งเศส ซึ่งลงมาเล่นแทน อี ดอง-กุ๊ก ในท้ายเกมแย่งบอลได้จากหน้าหัวกะโหลกแล้วเปิดบอลเข้าไปให้ คิม จิน-คู กองหลังเติมเกมรุกขึ้นไปยิงด้วยเท้าซ้ายโดน ระห์มาน เรซาอี กองหลังอิหร่านจากสโมสรเมสซิน่าในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลีเคลียร์บอลเปลี่ยนทาง มีร์ซาปูร์หลงทางรับไม่ได้ทำให้เกาหลีใต้ชนะไป 2-0 เป็นการเริ่มต้นการทำงานของ อั๊ดโวคาทได้ดีเยี่ยมมาก และเกาหลีใต้มีสถิตินำอิหร่าน 8-7-3

ส่วนขุนพลซามูไร ญี่ปุ่น อีกหนึ่งยอดทีมเอเชียบุกไปโดนยูเครนเผาเครื่อง 1-0

ยูเครน ทีมซึ่งผ่านเข้าสุดท้ายฟุตบอลโลก 2006 ไม่ได้แข่งขันรอบคัดเลือกโซนยุโรปจึงเล่นกระชับมิตรกับทีมชาติญี่ปุ่นแชมป์เอเซียสามสมัยโดยที่ครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลังเล่นไปถึงนาทีที่53 ญี่ปุ่นต้องเสียเปรียบเมื่อ โคจิ นากาตะ นักเตะญี่ปุ่นจากสโมสรโอลิมปิก มาร์กเซยโดนใบแดงไล่ออกจากทำให้เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนแต่ญี่ปุ่นก็รับได้ดีเยี่ยม

นาทีสุดท้ายยูเครนได้ลูกจุดโทษเมื่อ อันเดร โวโรเบย์ โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ และ อังเดร ฮูซิน กองกลางคนเก่งสังหาเข้าไปให้ยูเครนเฉือนชนะเอาชนะไป 1-0