วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2555
เรอัล มาดริด 4 : 1 แอธ.บิลเบา 
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
ประตู : 0-1 เฟร์นานโด ญอเรนเต้ น.13, 1-1 มาร์เซโล่ น.25, 2-1 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (จุดโทษ น.47), 3-1 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (จุดโทษ น.67), 4-1 โฆเซ่ กาเญฆ่อน น.86
โจเซ่ มูรินโญ่ส่งริคาร์โด้ กาก้าลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกนับแต่วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ราฟาเอล วารานได้ยืนจับคู่กับเซร์คิโอ รามอสในแผงหลังส่วนเปเป้เจ็บไม่มีชื่ออยู่ในทีมนัดนี้
ที่น่าสนใจคือฝั่งแอธ.บิลเบามีผู้เล่นถูกไล่ออกถึง 5 คนในการเจอกับเรอัล มาดริด 6 เกมหลังสุด
ครึ่งแรก
เริ่มเกมราชันดูดี
เกมในช่วง 10 นาทีแรกทั้งเรอัล มาดริดและแอธ.บิลเบาผลัดกันขึ้นเกมบุกอย่างรวดเร็วแต่เป็นทาง"ราชันชุดขาว"ที่ได้ลุ้นสกอร์จากการส่องไกลของกราเนโร่และฟรีคิกของโรนัลโด้ทว่าไม่ตรงกรอบทั้งคู่ 
นาที 13 ทีมเยือนก็ขึ้นนำ"โลส บลังโกส"เมื่ออิไรซอสขว้างบอลให้มาร์ติเนซส่งต่อให้เอร์เรร่าที่กลางสนามแล้วเจ้าตัวก็วิ่งเติมเกมไปรับบอลคืนทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดไปให้ญอเรนเต้วอลเล่ย์ตุงตาข่าย
มูเนียอินสเต็ปเหลือร้าย
อีกห้านาทีถัดมามูเนียอินโชว์สเต็ปกระชากบอลแหวกแนวรับ"ราชันชุดขาว"เข้าไปกดเต็มข้อร้อนถึงคาซิญาสต้องล้มตัวปัดทิ้งออกมาเข้าทางเด มาร์กอสแต่มิดฟิลด์บิลเบายิงซ้ำแบบแป๊กๆเลยชวดได้ประตู
มาร์เซโล่เติมมายิงตีเสมอ
แต่เจ้าบ้านก็มาตีเสมอได้สำเร็จในนาที 25 เมื่อมาร์เซโล่วิ่งสอดมาแปบอลที่โรนัลโด้ผ่านมาให้ไปยังเบนเซม่าซึ่งแข้งเลือดเฟร้นช์ก็ชิ่งคืนมาให้แบ็กแซมบ้าทะลุเข้าไปซัลโวในเขตโทษผ่าอิไรซอสซุกก้นตาข่าย
ผลัดกันจบสกอร์ฝั่งละที
หลังจากนั้นรามอสเติมขึ้นไปเปิดบอลให้เบนเซม่าโหม่งที่กรอบ 6 หลาโดนอิไรซอสรับได้แบบมีกระฉอก ขณะที่บิลเบาตอบโต้ด้วยจังหวะส่องไกลของเด มาร์กอสที่บอลพุ่งเฉียดโคนเสาซ้ายไปอย่างหวาดเสียว
ญอเรนเต้ทิ้งโอกาส
นาที 39 ซูซาเอต้าแทงบอลทะลุช่องมาให้ญอเรนเต้ที่ยืนโล่งๆทางด้านซ้ายแต่เพราะจับบอลแรกไม่ดีเท่าไหร่เลยทำให้จังหวะต่อมาโดนกองหลังเจ้าบ้านพุ่งมากดดันจนทำให้ซัดบอลปลิ้นหลุดกรอบประตู
ครึ่งหลัง
โด้หวดจุดโทษแซงนำ
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้สองนาทีอิตูร์ราสเป้ไปเสียท่าดึงกาก้าล้มลงในเขตโทษก่อนที่โรนัลโด้เอาบอลไปซัดเสียบสามเหลี่ยมบนเสาซ้ายอย่างเฉียบขาดให้เรอัล มาดริดแซงนำ 2-1 อย่างรวดเร็ว 
นาที 49 แอธ.บิลเบารวบรวมสมาธิกลับมาสู้ใหม่แล้วเป็นเด มาร์กอสที่ไหลบอลให้มูเนียอินหลุดเข้าไปยิงวัดฝีมือกับคาซิญาสที่กรอบเขตโทษด้านขวาแต่นายด่านมือหนึ่งทีมชาติสเปนปัดทิ้งออกหลังได้ทัน
เด มาร์กอสลองส่องไกล
หลังจากนั้นเกมเริ่มเปิดแลกกันมากขึ้นจนนาที 63 เด มาร์กอสพาบอลมากระชากหนีอาร์เบลัวที่หน้ากรอบเขตโทษแล้วยิงหลบการสไลด์ของกราเนโร่ผ่านมือคาซิญาสหลุดเสาขวาไปอย่างน่าเสียดาย
โด้เบิ้ลจุดโทษ
นาที 67 โอซิลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษก่อนล็อคหลบเด มาร์กอสแล้วโดนเกี่ยวขาล้มลงไปแต่บอลกระดอนไปเข้าทางปืนเบนเซม่ากดตุงตาข่ายแต่ไม่ได้ประตูเพราะผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษไปก่อนแล้ว สุดท้ายแข้งบิลเบาโดนไล่ออกจากสนามส่วนโรนัลโด้ซัดลูกโทษเสียบมุมล่างเสาซ้ายให้ทีมทิ้งห่าง 3-1
อิกวาอินซัดชนเสา
"ราชันชุดขาว"น่าได้เพิ่มอีกประตูในนาที 75 เมื่ออิกวาอินที่ลงมาแทนเบนเซม่ารับบอลทะลุช่องจากโรนัลโด้เข้าแตะหนีอิไรซอสไปทางด้านซ้ายก่อนล็อกเข้าเท้าขวาอย่างใจเย็นแต่ดันซัดไปชนเสาอย่างจัง
กาเญฆ่อนกระทุ้งปิดเกม
ท้ายเกมนาที 86 อิกวาอินโชว์คิลเลอร์พาสจากเกือบครึ่งสนามให้กาเญฆ่อนสปีดหนีตัวประกบเข้าไปซัดผ่านตัวอิไรซอสเสียบเสาซ้ายอย่างสวยงามให้เรอัล มาดริดปิดเกมเอาสยบแอธ.บิลเบาที่ไม่แพ้ใครมา 7 เกมติด 4-1
ทำให้"ราชันชุดขาว"ขยับหนีบาร์เซโลน่าออกไป 5 แต้มเท่าเดิมส่วนโรนัลโด้นำเป็นดาวซัลโวของลีกด้วยจำนวน 23 ประตูเหนือกว่าลิโอเนล เมสซี่อยู่ลูกเดียวแต่ปีกโปรตุเกสยิงจุดโทษไปถึง 9 ประตูขณะที่แข้งอาร์เจนไตน์ซัดลูกโทษไปเพียง 2 ตุงเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อีเกร์ คาซิญาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว 
, เซร์คิโอ รามอส , ราฟาเอล วาราน, มาร์เซโล่ 
, ชาบี อลอนโซ่, เอสเตบัน กราเนโร่ (ลาสซานา ดิยาร์ร่า น.73), ริคาร์โด้ กาก้า 
(โฆเซ่ กาเญฆ่อน น.79 ), เมซุต โอซิล , คริสติอาโน่ โรนัลโด้ , คาริม เบนเซม่า (กอนซาโล่ อิกวาอิน น.68 )
สำรองไม่ได้ใช้ : อันโตนิโอ อาดาน, ราอูล อัลบิโอล, ฮามิต อัลตินท็อป, ฟาบิโอ โคเอนเทรา
แอธ.บิลเบา : กอร์ก้า อิไรซอซ, อันโดนี่ อิราโอล่า, ฆาบี มาร์ติเนซ , เฟร์นานโด อมอเรบิเอต้า (อิไบ โกเมซ น.62), มิเกล ซาน โฆเซ่, อันเดร์ เอร์เรร่า, อันเดร์ อิตูร์ราสเป้ , ออสการ์ เด มาร์กอส 
, มาเกล ซูซาเอต้า (อิญิโก้ เปเรซ น.69), เฟร์นานโด ญอเรนเต้ (กาอิซก้า ตอร์เกโร่ น.61), อีเกร์ มูเนียอิน
สำรองไม่ได้ใช้ : ราอูล, ดาบิด โลเปซ, กอยกิลี่ เดล คัมโป้, บอร์ฆ่า อิกิซ่า
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
