วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2554 
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 4:2 แอธเลติค บิลเบา
ประตู : 0-1 ออร์เตเนตเซ่ น.3, 1-1 ปาสตอเร่ น.21, 2-1 บอดแมร์ น.41, 2-2 โลเปซ น.55, 3-2 โลเปซ(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.85, 4-2 โฮอาโร(จุดโทษ) น.90
เกมนี้เหลือเพียงเจ้าบ้านปารีสที่ต้องลุ้นเข้ารอบเท่านั้นโดยพวกเขาจำต้องลุ้นคู่ระหว่างซัลบวร์กกับสโลวาน บราติสลาว่าด้วยโดยหากทั้งสองสนามจบด้วยผลแบบเดียวกันปารีสก็จะตกรอบทันทีแต่หากมีผลการแข่งที่เหนือกว่าอีกคู่พวกเขาก็ผ่านเข้ารอบ
ครึ่งแรก
เปิดฉากมาแค่ 3 นาทีทีมเยือนก็ทำเจ้าบ้านช็อคก่อนเลยหลังขึ้นมาได้ลุ้นจนได้ลูกเตะมุมทางขวา ก่อนจะเป็นออร์เตเนตเซ่โถมมาโขกเสาแรกส่งบอลเข้าประตูไปแบบไม่มีเหลือ บิลเบาออกนำไปก่อน 1-0 
หลังจากนั้นปารีสใช้เวลาบดอยู่นานจนในที่สุดก็มาได้ประตูตีเสมอสำเร็จในนาทีที่ 20 จากลูกตั้งเตะทางหน้าเขตโทษทางซ้าย เปิดเข้ามาโดยเนเน่ให้กับเบห์เบ็คโหม่งโล่งๆมาเข้าทางปาสตอเร่ที่ยืนโล่งๆได้จับก่อนทีนึงแล้วซัดบอลเข้าประตูไม่เหลือ ปารีสตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ
ปารีสยังยิงเฉียดไปเฉียดมาอยู่คราวนี้เป็นทางขึ้นเกมทางขวาอีกครั้งโดยเนเน่แทงให้เซียร่าเติมขึ้นมาเปิดเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะเป็นเบห์เบ็คโฉบมาแปจ่อๆแค่ไม่กี่หลาแต่กลับส่งบอลข้ามคานออกหลัง
แต่แล้วนาที 41 เจ้าบ้านก็ทำได้สำเร็จจากลูกเตะมุมทางขวาโดยเนเน่เปิดเข้ามาที่เสาแรกให้บอดแมร์โดดเอาชนะทางตัวประกบโหม่งบอลย้อยๆส่งบอลลอยเสียบทางเสาไกล ปารีสออกนำเป็น 2-1 จนได้
จะทดเวลาแล้วแต่ปารีสยังบุกไม่หยุดและเกือบได้ประตูที่สามจากบอดแมร์ที่ดีดให้กาเมโร่วิ่งฉีกแนวรับมาจับบอลแรกโด่งๆก่อนใช้หัวแต่งบอลหลบตัวประกบแล้วยิงด้วยซ้ายแต่ราอูลยังออกมาปิดมุมได้ไวทำให้บิลเบายังรอดตัว
ครึ่งหลัง
เริ่มครึ่งหลังมาบิลเบาก็คึกคักแล้วก็ตีเสมอได้สำเร็จในนาที 55 จากดาวิด โลเปซทีได้บอลกลางสนามแบบไร้ตัวประกบเลยลากบอลขึ้นมาก่อนจะสับไกที่ระยะประมาณ 25 หลาบอลติดไซร้ก้อยพุ่งโค้งหนีมือดูเช่ซ์เข้าประตูไปแบบหมดจด บิลเบาตีเสมอเป็น 2-2
ปารีสพยายามจะบุกกดดันแต่กลับเป็นบิลเบาที่ได้ลุ้นประตูอยู่เรื่อยๆคราวนี้เป็นจังหวะแทงทะลุให้ทางขวา บาห์เบ็คตัดได้แต่ดันตัดบอลแล้วกระเด้งโดนตัวเองเลยเข้าทางอิราโอล่าที่เติมขึ้นมาได้เข้าไปยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลก็ยังผ่านเสาสองออกไป 
บิลเบามีโอกาสได้จบอีกแล้วจากซูซาเอต้าที่พาบอลขึ้นมาตรงกลางโดนดึงโดนเหนี่ยวไว้กรรมการไม่ว่าอะไรเลยจ่ายคืนให้โลเปซก่อนแทงกลับเข้าเขตโทษให้ซูซาเอต้าไขว้ล็อกเข้าซ้ายก่อนยิงหักข้อหวังเสียบเสาแรกแต่ก็หลุดออกไปนิดเดียว
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายปารีสยิ่งกดดันหนักเดินหน้าหาประตูขึ้นนำอีกครั้งแต่ยังไม่เฉียบคมพอจากจังหวะแทงทะลุช่องให้กับโฮอาโรหลุดมาทางซ้ายก่อนจะปาดเข้ากลางแต่ดันเสียหลักบอลเลยมาไม่ถึงฌัลเลย์ที่รอชาร์จ
แล้วจู่ๆนาที 82 ปารีสก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่เนเน่จ่ายแ้ล้วโดนแขนซาน โฆเซ่ก่อนจะเป็นเนเน่ที่มารับหน้าที่สังหารเอง แต่ดันพลิกยิงข้ามคานหน้าตาเฉย อดพลาดประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
จุดโทษยิงไม่เข้าแต่ปารีสดันมาได้ประตูขึ้นนำจากลูกทำเข้าประตูตัวเองซะงั้นจากจังหวะต่อเนื่องไม่กี่นาทีโดนฌัลเบน์จ่ายให้เออร์ดิ้งหลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะเปิดกลับเข้ากลางแล้วเป็นเปเรซสกัดเข้าประตูตัวเองหน้าตาเฉย ปารีสนำเป็น 3-2แล้ว
แล้วจะทดเวลาอยู่แล้วแต่ปารีสมาได้จุดโทษอีกแล้วจากเนเน่ที่โดนเตะตัวลอยก่อนคราวนี้จะให้โฮอาโรเป็นคนรับหน้าที่แล้วก็ไม่พลาด ปารีสนำห่างเป็น 4-2
จบเกมปารีสก็เปิดบ้านเอาชนะบิลเบาไปได้ 4-2 มี 10 แต้มเท่ากับซัลบวร์กแต่พวกเขาได้เป็นเพียงแค่อันดับ 3 เท่านั้นเพราะเฮด ทู เฮดเป็นรองและร่วงตกรอบยูโรป้าไปตามระเบียบ
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ปารีส แซ็งต์ แชร์กแมง : นิโคล่าส์ ดูเชซ์, ซูมาน่า กามาร่า, ซิลแว็ง อาร์ม็อง, ดิเอโก้ ลูกาโน่, มาร์กอส เซียร่า, มาติเยอ บอดแมร์
(เออร์ดิ้ง น.76), เนเน่
, ซิอาก้า ติเอเน่, เควิน กาเมโร่ (ฌัลเลย์น.74), ฮาเวียร์ ปาสตอเร่, ฌอง-คริสต์ตอป บาห์เบ็ค (โฮอาโร น.65)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ซัลวาตอเร่ ซิริกู, มิลาน บิเซวัช, มามาดู ซาโก้, โมฮาเหม็ด ซิสโซโก้
แอธเลติค บิลเบา : มาเตออส ราอูล, อันโดนี่ อิราโอล่า, มิเกล ซาน โฆเซ่, จอน ออร์เตเนตเซ่, บอร์ฆ่า เอกิซ่า (กัลลาร์เรต้า น.87), อิกอร์ กาบิลอนโด้ (มูเนียอิน น.69), ดาวิด โลเปซ, อันแดร์, กาอิซก้า ตอเกโร่ (ซูซาเอต้า น.60), อินิโก้ เปเรซ, อิไบ โกเมซ
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : กอร์ก้า อิไรซอซ, เดล คัมโป้, โจนาส รามัลโญ่, กิลเลอโม่ เอียร์โร่
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
