โค้ชหรั่งลั่นนัดหน้าแพ้ลาออก

ความเคลื่อนไหวของ ทีมฟุตบอลไทย ชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก รอบ 20 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย ที่เกม 2 นัดแรก ออกไปพ่าย ญี่ปุ่น 1-4 และล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา แพ้คาบ้านต่อ โอมาน 0-1 ตกเป็นที่โหล่ของสาย 2 ทำให้ บิ๊กโต้ง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ซึ่งสมาคมฟุตบอลได้พิจารณาอนุมัติ แต่ยังไม่มีการแต่งตั้งใครขึ้นมาแทน พร้อมมอบหมายให้ โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน เป็นผู้ควบคุมทีมไปพร้อมกับการเป็นหัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชนั้น

ซึ่ง โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน เปิดเผยว่า การเข้ามาทำทีม ฟุตบอลทีมชาติไทย ในห้วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ถึงตอนนี้ต้องถือว่าทีมชาติไทยพัฒนาขึ้นมามาก แม้หลายคนอาจจะมองว่ายังอยู่กับที่ก็ตาม ซึ่งอาจเป็นเพราะการที่ทีมไทยพลาดท่าตกรอบแรก ศึกลูกหนังเอเชี่ยนคัพ รวมถึงการพลาดแชมป์ลูกหนังชิงแชมป์อาเซียนก็เป็นได้ แต่ความจริงแล้วก่อนที่ตนจะเข้ามาทำทีมนั้นอันดับโลกของทีมไทยอยู่ที่ 130 แต่ถึงวันนี้อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 90 อย่างนี้เราเรียกว่าพัฒนาขึ้นหรืออยู่กับที่กันแน่

ผมพยายามที่จะยกระดับ ฟุตบอลไทย ขึ้นเทียบชั้นเอเชีย แต่การแพ้ 2 เกมรวดใน ศึกบอลโลก รอบคัดเลือก ทำไมถึงรีบมาประเมินการทำงานว่าชั้นไม่ถึง ที่ผ่านมาทีมไทยได้แสดงสามารถให้เห็นมาแล้วว่าสู้ได้ทุกทีม อีกทั้งศักยภาพของนักเตะไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่ในตอนนี้ก็คือชัยชนะเท่านั้น อยากให้ดูจบ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ก่อนถึงมาประเมินกัน ยังไงผมก็ยอมรับได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะเกมหน้า ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ หากเราพ่าย บาห์เรน คาบ้าน และเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้ลาออก ผมพร้อมเสมอ เพราะผมถือว่าแม่ทัพต้องตายในสนามรบ โค้ชหรั่ง กล่าว

ด้านแหล่งข่าวจากสมาคมฟุตบอลระบุว่า สมาคมลูกหนังยังจะให้โอกาส โค้ชหรั่ง ทำทีมจนจบ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งหาก ทีมไทย ไม่สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ ก็จะมีการพิจารณากันเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวหัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทันที