แดงดุ-เดือด เฮือกสุดท้าย หงส์ต้องชนะผี

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2008/09 คืนนี้ (เสาร์ 14 มี.ค.) คู่เอกบิ๊กแมตช์จะเป็นคู่ไหนไปไม่ได้ นอกจากศึกแดงเดือดภาค 2 ประจำพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดย “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ทีมที่กำลังคั่ว 5 แชมป์อยู่ในเวลานี้ จะเปิดสนามโอลด์แทรฟเฟิร์ด รับมือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาล ซึ่งเกมนี้ จะเริ่มเตะตรงกับเวลาไทย 19.45 น. ถ่ายทอดสดให้ชมทางทรูสปอร์ต 1

ส่วนโปรแกรมอีก 6 คู่ที่เหลือในวันเดียวกัน มีดังนี้ อาร์เซนอล พบ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส (ถ่ายทอดสดทางทรูสปอร์ต 1), ฮัลล์ พบ นิวคาสเซิล (ถ่ายสดทางทรูสปอร์ต 3), โบลตัน พบ ฟูแลม (ถ่ายสดทางทรูสปอร์ตเอ็กซ์ตรา 1), ซันเดอร์แลนด์ พบ วีแกน (ถ่ายสดทางทรูสปอร์ต 5), มิดเดิลสโบรช์ พบ พอร์ตสมัธ (ถ่ายสดทางทรูวิชั่นส์ 27) และเอฟเวอร์ตัน พบ สโต๊ก ซึ่งจะเตะเวลา 22.00 น. พร้อมกันทุกคู่ 

เกมแดงเดือดที่สังเวียนโอลด์แทรฟเฟิร์ด ถือเป็นการโคจรมาพบกันถูกที่ถูกเวลาดีเหลือเกิน เนื่องจากทั้งแมนฯยูและลิเวอร์พูลกำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มด้วยกันทั้งคู่ หลังจากเพิ่งคว้าชัยมาอย่างสวยงามในศึกแชมเปียนส์ ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ โดย “หงส์แดง” เปิดรังถล่มเรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งแดนกระทิงดุ ไปแบบยับเยินหมดรูป 4-0 ขณะที่ปิศาจแดง แมนฯยู ก็ไม่น้อยหน้า เปิดบ้านต้อน “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน จ่าฝูงกัลโชซีรีเอ ราบคาบ 2-0 ทำให้ทั้งแมนฯยูและลิเวอร์พูลต่างฉลุยเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแชมเปียนส์ลีกด้วยกันทั้ง 2 ทีม

คาดว่าเกมนี้เจ้าถิ่นแมนฯยูอาจไม่มีการปรับเปลี่ยน ตัวผู้เล่น และน่าจะใช้ทัพใหญ่ลงบู๊ แนวรับยังคงปึ้กมี เนมานยา วีดิช และริโอ เฟอร์ดินานด์ ยืนเป็นคู่ปราการหลังตัวกลาง ส่วนแบ็กซ้ายเป็น พาทริซ เอวรา

ขณะที่แดนกลางมีไมเคิล คาร์ริก, พอล สโคลส์, ไรอัน กิกส์ และคริสเตียโน โรนัลโด ส่วนคู่หน้าเป็น เวย์น รูนีย์ จับคู่กับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ  ข้างฝ่ายทีมเยือนหงส์แดง เชื่อว่ากุนซือราฟา เบนิเตซ จะไม่ “โรเทชั่น” เปลี่ยนแปลงทีมจากชุดที่ถล่มเอาชนะเรอัล มาดริด 4-0 ในศึกแชมเปียนส์ลีกเช่นเดียวกัน โดยสตีเวน เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์ และเฟอร์นันโด ตอร์เรส จะลงเป็นตัวจริง แต่อัลเบิร์ต ริเอรา ปีกชาวสเปน พ้นโทษแบนในแชมเปียนส์ลีก จะกลับมาลงเล่นได้ แต่ต้องแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงกับไรอัน บาเบล ที่โชว์ฟอร์มดีในเกมถล่มมาดริดในแชมเปียนส์ลีก

การเจอกันนัดแรกของฤดูกาลที่แอนฟิลด์ เมื่อ 13 ก.ย. ปีที่แล้ว ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายแซงเฉือนชนะแมนฯยู 2-1 ชนิดที่ผีแดงยิงนำก่อนตั้งแต่ 3 นาทีแรกจากคาร์ลอส เตเบซ ก่อนที่หงส์แดงจะมาพลิกยิงแซง 2 ลูกรวด จากเวส บราวน์ ทำเข้าประตูตัวเอง และไรอัน บาเบล กดประตูชัย อย่างไรก็ตาม เกมนี้ “ผีแดง” ตั้งเป้าล้างแค้นลิเวอร์พูลให้ได้ ทว่าหงส์แดงก็จะบุกมาแพ้แมนฯยูในนัดนี้ไม่ได้เช่นกัน หากยังต้องการต่อลมหายใจลุ้นแชมป์ต่อไป คาดว่าเกมจะหวดกันสนุกไฟแลบแน่ และมีสิทธิ์ออกได้ทั้ง 3 หน้า แต่ดูแล้วมีโอกาสจบลงด้วยผลเสมอมากที่สุด