แซมบ้าโหดยำชิลี 6-1 ชนจอมโหดตัดโคปา

"แซมบ้า" บราซิล

ลบคำวิจารณ์ฟอร์มจากรอบแรก โคปา อเมริกา ไล่ถล่ม ชิลี 6-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบ "จอมโหด" อุรุกวัย ที่ฟอร์มแรงยำ เวเนซุเอลา เจ้าภาพ 4-1

 ศึกโคปา อเมริกา รอบ 8 ทีมสุดท้าย

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม "แซมบ้า" บราซิล ลงสนามพบกับ ชิลี ซึ่งทั้งสองทีมอยู่ร่วมกลุ่ม บี ในรอบแรก และบราซิล เคยชนะมาแล้ว 3-0 เกมนี้ ดุงก้า กุนซือแซมบ้ายังคงให้ โรบินโญ่ ยืนเป็นคู่กองหน้ากับ วากเนอร์ เลิฟ เหมือนเดิม เริ่มเกมขึ้นมา บราซิล ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากสื่อมวลชนของตัวเองกับฟอร์มการเล่นในรอบแรก เล่นด้วยความตั้งใจอย่างผิดหูผิดตา และได้ประตูออกนำในนาทีที่ 16 เมื่อ ฮวน กองหลังขึ้นมาโหม่งลูกเตะมุมเข้าไปเป็น 1-0 

 หลังจากได้ประตูนำ

บราซิล เล่นกันเหมือนหมดความกดดันนาทีที่ 22 นำห่างเป็น 2-0 เมื่อ เลิฟ ไหลบอลให้ ฮูลิโอ บาปติสต้า ยิงเข้าเสาไกลเป็น 2-0 และอีก 5 นาทีต่อมา บาปติสต้า ใส่พานให้ โรบินโญ่ ยิงไปอีกประตู จบครึ่งแรก บราซิล นำห่างถึง 3-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง ชิลี พยายามจะสู้บ้าง

แต่ก็ต้องเสียประตูไปอีกในนาทีที่ 50 โดย กิลแบร์โต้ ซิลวา เปิดบอลให้ โรบินโญ่ จบสกอร์ เป็น 4-0 และหนีไปเป็น 5-0 ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่กองหลัง ชิลี สกัดบอลกันไม่ขาด โจชัว ซัดเข้าสู่ก้นตาข่าย ก่อนที่ชิลี จะมาตามตีไข่ได้เมื่อถึงนาทีที่ 75 เมื่อ ฮุมแบร์โต้ ซัวโซ หลุดไปกระดกบอลข้ามนายทวาร โดนี เป็น 5-1 แต่ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน 6 นาที เลิฟ มาทำประตูแรกในทัวร์นาเม้นท์นี้ของตัวเอง ได้สำเร็จ ทำให้จบเกม บราซิล เข้ารอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์ที่ขาดลอยถึง 6-1

 ขณะที่เกมอีกคู่ "เจ้าภาพ" เวเนซุเอลา พบกับ อุรุกวัย

โดยในเกมรอบแรกนั้นเสมอกันมา 0-0 แต่เป็นการเตะกันหลังจากที่ทั้งคู่เข้ารอบสองแล้ว มานัดนี้ อุรุกวัย ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มที่ โดยคู่หัวหอกนั้นเป็น ดิเอโก้ ฟอร์ลัน คู่กับ อัลบาโร เรโคบา เกมในช่วงแรกทั้งสองทีมเล่นกันได้ค่อนข้างสูสี จนมาถึงนาทีที่ 39 เป็น อุรุกวัย ที่ออกนำไปก่อนเมื่อกอง หลังเจ้าถิ่นสกัดบอลจากลูกฟรีคิกไม่ดี โดน ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ยิงเป็น 1-0 แต่อีก 2 นาทีต่อมา เวเนซุเอล ตามตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว จากการยิงเต็มเท้าของ ฮวน อรานโก้ ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลัง อุรุกวัย กลับมาครองเกมในแดนกลางได้ดีกว่านาทีที่ 65
 
ได้ประตูขึ้นนำไปอีกครั้งจากจังหวะที่ พาโบล การ์เซีย ยิงเสียบคานเป็น 2-1 ทำให้ อุรุกวัย หันมาเล่นเกมรับ และเปิดเกมโต้กลับจนมาได้ประตูเพิ่มอีกนาทีที่ 87 จาก คริสเตียน โรดริเกซ และได้ประตูปิดท้ายอีกประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก ดิเอโก้ ฟอร์ลัน จบเกม อุรุกวัย จึงชนะไปขาดลอย 4-1 

 ทำให้ในรอบรองชนะเลิศ

วันที่ 10 กรกฎาคม บราซิล จะพบกับ อุรุกวัย และวันที่ 11 กรกฎาคม ผู้ชนะระหว่าง เม็กซิโก กับ ปารากวัย จะพบกับผู้ชนะระหว่าง อาร์เจนตินา กับ เปรู