การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ในเมืองแซงต์-เดนีส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค. ระหว่างเจ้าภาพ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ดวลแข้งกับ "ฝอยทอง" โปรตุเกส ที่นำทัพโดย คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังคนดัง
สำหรับนัดนี้ เรนาโต ซานเชส กองกลางดาวรุ่งวัยเพียง 18 ปี 328 วัน ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ โปรตุเกส ส่งผลให้เขาทำสถิติใหม่เป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงในเกมนัดชิงดำฟุตบอลยูโร ทุบสถิติเก่าของรุ่นพี่ร่วมชาติ โรนัลโด ที่เคยทำเอาไว้ตอนอายุ 19 ปี 150 วัน เมื่อปี 2004
เริ่มเกมเป็น ฝรั่งเศส ที่คึกคักกว่า ทำเกมรุกมีลุ้นยิงประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะโหม่งของ อองตวน กรีซมันน์ แต่ผู้รักษาประตูโปรตุเกส รุย ปาทริซิโอ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันไว้ได้ หลังจากนั้น โรนัลโด เข้าปะทะกับ ดิมิทรี ปาเยต จนได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า แม้จะออกไปปฐมพยาบาลและพยายามฝืนลงมาเล่นต่อ แต่สุดท้ายก็ฝืนสังขารไม่ไหว ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปในนาที 25 ให้ ริคาร์โด กวาเรสมา ลงมาเล่นแทน
เข้าสู่นาที 34 ฝรั่งเศส น่าขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะยิงของ มุสซา ซิสโซโก แต่ ปาทริซิโอ ที่วันนี้ฟอร์มเด่น ยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งไปได้ ช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรก แข้งแดนฝอยทองถอยลงไปตั้งรับลึก ขณะที่ทีมตราไก่เจาะเกมรับไม่เข้า จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง เกมรุกของฝรั่งเศสไม่ดีเหมือนครึ่งแรก ขณะที่ โปรตุเกส ตั้งเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้โอกาสจบสกอร์ของเจ้าภาพน้อยลง ส่งผลให้ ดิดิเยร์ เดสชองส์ ต้องแก้เกมด้วยการส่ง คิงสลีย์ โกม็อง ลงมาเล่นแทน ปาเยต ในนาที 58
แม้เกมของ ฝรั่งเศส จะยังไม่ดีขึ้นมากนักหลังเปลี่ยนตัว แต่นาที 66 กรีซมันน์ ได้ขึ้นโหม่งโล่ง ๆ ในกรอบเขตโทษ ทว่า ลูกลอยข้ามคานไปนิดเดียว นาที 77 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้ยิงหักข้อมุมแคบ แต่ ปาทริซิโอ ยังเซฟได้อีกตามเคย
ท้ายเกมนาที 80 โปรตุเกส ได้ตอบโต้บ้าง จากจังหวะกระโดดลอยตัวยิงของ กวาเรสมา แต่ ฮูโก โยริส ยังรับเอาไว้ได้ จากนั้นนาที 84 "ตราไก่" ได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ มุสซา ซิสโซโก ทว่า ยังไม่ผ่านมือ ปาทริซิโอ เหมือนเดิม
ช่วงทดเจ็บ ฝรั่งเศส น่าได้ประตูชัยอย่างที่สุด เมื่อกองหน้าตัวสำรอง อองเดร ปิแอร์ ชีญัก ที่ลงมาแทน ชิรูด์ ได้บอลในเขตโทษ ก่อนล็อคหลบกองหลังโปรตุเกส ยิงผ่านมือ ปาทริซิโอ ไปแล้ว ทว่า บอลพุ่งไปชนเสา ทำให้หมดเวลา 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ถือเป็นเกมรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรครั้งที่ 6 ที่ต้องต่อเวลาพิเศษเพื่อหาแชมป์ แต่เป็นครั้งแรกที่เสมอกันในเวลา 90 นาทีแบบไร้สกอร์
เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาที 104 จากลูกเตะมุม เอแดร์ กองหน้าตัวสำรองของโปรตุเกส ได้โหม่งลุ้นทำประตู แต่ โยริส ยังเซฟเอาไว้ได้ จากนั้นนาที 108 โปรตุเกส เกือบขึ้นนำจากลูกฟรีคิกของ ราฟาเอล เกร์เรโร ทว่า ซัดไปชนคาน อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งนาทีถัดมา โปรตุเกส ได้ประตูขึ้นนำจากลูกยิงไกลสุดเฉียบคมของ เอแดร์ ในนาที 109 หลังจากนั้น ฝรั่งเศส พยายามโหมบุกอย่างหนัก แต่หาจังหวะจะแจ้งไม่ได้ ครบ 120 นาที โปรตุเกส พลิกล็อกโค่นเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ชนิดช็อกโลก 1-0 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 ไปครองได้อย่างสุดยิ่งใหญ่ ถือเป็นแชมป์ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่รายการแรกในประวัติศาสตร์ของโปรตุเกส และเป็นแชมป์แรกของโรนัลโดกับทีมชาติ
สำหรับ "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ของเกมนี้ ได้แก่ รุย ปาทริซิโอ ผู้รักษาประตูทีมชาติโปรตุเกส ที่โชว์ฟอร์มเซฟประตูถึง 7 ครั้งมากสุดในรอบชิงฯฟุตบอลยูโร เทียบเท่ากับ ปีเตอร์ ชไมเคิล จากเดนมาร์ก ที่เคยทำเอาไว้ในฟุตบอลยูโร 1992 ในเกมพลิกล็อกโค่น เยอรมนี 2-0
ส่วนดาวซัลโวของศึกฟุตบอลยูโร 2016 ครั้งนี้ ได้แก่ อองตวน กรีซมันน์ จากฝรั่งเศส ที่ยิงไปทั้งหมด 6 ประตู.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
