เรือใบเจ็บปวด!ไมกาห์ฮีโร่เก้อ สโต๊คไล่เจ๊าทดเจ็บ 1:1

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก 2010-11 วัน เสาร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2553 แม็ทธิว เอเธอริงตันยิงเซฟช่วยสโต๊ค ซิตี้เปิดบ้านไล่ตีเสมอแมนฯซิตี้ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ1:1


ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก 2010-11


 





 


วัน เสาร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2553




 


สโต๊ค ซิตี้ 1:1 แมนฯซิตี้






สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม 
ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ วอลตัน ตัดสิน8เกม, ใบแดง1, ใบเหลือง23 
ถ่ายทอดสด : 22.00 น.ทรูสปอร์ต 3(103) 
ผู้ทำประตู : [0-1]ไมกาห์ ริชาร์ด น.81, [1-1]แม็ทธิว เอเธอริงตัน น.90
ผู้ชม: 27,405 คน 




ครึ่งแรก 

     สโต๊คเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน เพียงแค่นาทีที่7 รอรี่ ดีแล็ปทุ่มไกลเข้ามาในกรอบเขตโทษ โรเบิร์ต ฮูธดีดส้นต่อมาถึงคาร์โด้ ฟูลเลอร์ฮาล์ฟวอลเล่ย์ทักทาย แต่บอลไม่ตรงกรอบ

     เจ้าบ้านทำเกมรุกเข้าใส่แมนฯซิตี้แบบไม่กลัวศักดิ์ศรี นาทีที่ 15 แม็ทธิว เอเธอริงตันฉวยโอกาสฉกบอลหนีโจ ฮาร์ทในกรอบเขตโทษหมุนตัวยิงติดเซฟโจ ฮาร์ทก่อนที่กองหลังช่วยกันเคลียร์บอลทิ้งไปได้

     จากนั้นอีกแค่นาทีเดียว เคนวิน โจนส์ทำชิ่งจ่ายทะลุช่องให้ ฟูลเลอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดด้วยซ้าย แต่ไม่เต็มข้อบอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

     นาทีที่ 20สโต๊คได้เตะมุมอีกครั้ง บอลหล่นมาที่ โรเบิร์ต ฮูธ พักอกยิงแบบกองหลังโด่งข้ามคานออกไป

     นาทีที่ 32สโต๊คยังบุกได้น้ำได้เนื้อกว่า ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ลากบอลตัดเข้าขวา ซัดเข้าซอง โจ ฮาร์ท รับสบาย

     เข้าสู่ช่วง5นาทีสุดท้าย ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น ดีแล็ปได้ทุ่มไกลเข้ามาอีกครั้ง แต่ โจ ฮาร์ท ขึ้นรับไว้ได้

     โอกาสของแมนฯซิตี้หายากในครึ่งแรก มาริโอ บาโลเตลลี่ ลองตะบันระยะนอกกรอบหวังเคาะสนิม แต่ก็ไม่เป็นผลจบครึ่งแรก สโต๊ค ซิตี้ เสมอ แมนฯซิตี้ 0:0

ครึ่งหลัง 

     เริ่มเกมในครึ่งหลังทีมเยือนได้เขี่ยลูกบ้าง แต่ทางสโต๊คมีการเปลี่ยนตัวตุนกาย ซาญลี่ ลงมาแทน เจอร์เมน เพนแนนท์ หวังเสริมเกมรุกบวกกับเพนแนนท์มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย

     นาทีที่ 50บาโลเตลลี่จ่ายให้ ดาวิด ซิลบา ใช้ความคล่องแตะบอลหนีกองหลังสโต๊คต้องรีบยิงบอลเข้าข้างตาข่าย

     นาทีที่ 53แมนฯซิตี้เจาะเข้ากรอบเขตโทษยังไม่ได้ บาโลเตลลี่พาบอลหาช่องยิงนอกกรอบ แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ

     นาทีที่ 56เจมส์ มิลเนอร์ ตะบันนอกกรอบ บอลพุ่งตรงเข้าซองแอสเมียร์ เบโกวิช จากนั้นอีกแค่นาทีเดียวเป็นทีของเจ้าบ้านบ้าง ชอว์ครอสส์ โหม่งบอลตามน้ำข้ามคานออกไป

     เกมของแมนฯซิตี้เริ่มดีขึ้น สามารถเก็บบอลขึงบอลได้แล้วนาทีที่ 74เจมส์ มิลเนอร์เปิดด้วยซ้ายเข้ามาหน้าประตูแต่ มาริโอ บาโลเตลลี่ เข้าชาร์ตไม่โดนบอล

     นาทีที่ 78สโต๊คเกือบได้ประตุขึ้นนำเมื่อ แม็ทธิว เอเธอริงตัน เปิดลูกเตะมุมเข้ามา บอลไปตกใส่ตัว เคนวิน โจนส์ กระดอนเกือบข้ามเส้นแต่ เจมส์ มิลเนอร์ยืนถูกที่ถูกตำแหน่งเตะทิ้งออกมาได้แมนฯซิตี้รอดพ้นการเสียประตู

     แต่แล้วนาทีที่ 81ทีมเยือนก็มาได้เฮจนได้เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์จ่ายสั้นๆให้ไมกาห์ ริชาร์ด หลอกปล่อยบอลลอดตูดก่อนกลับตัวตามมาตะบันเต็มข้อส่งบอลไปนอนใต้ก้นตาข่ายได้สำเร็จ แมนฯซิตี้ขึ้นนำ 1:0 

     นาทีที่ 90สโต๊คเกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกฟรีคิกแต่โรเบิร์ต ฮูธ กองหลังหนวดเข้มโหม่งข้ามคานออกไป

     แต่ แต่ แต่แล้ว ช่วงทดเจ็บอันเจ็บปวดของแมนฯซิตี้อีกจนได้ เมื่อ ตุนกาย ซาญลี่ตอกส้นต่อให้ แม็ทธิว เอเธอริงตัน หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษเรียบร้อย สโต๊ค ตีเสมอ เป็น 1:1 

     จบเกมแมนฯซิตี้ฉลองวันเกิด 46 ปีให้กุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ ไม่สำเร็จโดนสโต๊ค ซิตี้ตีเสมอช่วงทดเจ็บ 1:1 เก็บได้เพียงแต้มเดียวเท่านั้น



รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 

สโต๊ค ซิตี้ : ระบบ 4-4-2 
ผู้รักษาประตู : แอสเมียร์ เบโกวิช 
กองหลัง : แอนดี้ วิลกินสัน(มาร์ค วิลสัน น.63), ไรอัน ชอว์ครอสส์, โรเบิร์ต ฮูธ, แดนนี่ คอลลินส์ 
กองกลาง : ดีน ไวท์เฮด, รอรี่ ดีแล็ป, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, เจอร์เมน เพนแนนท์(ตุนกาย ซาญลี่ น.46) 
กองหน้า : ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์(โจนาธาน วอลเตอร์ส น.75), เคนวิน โจนส์ 
ผู้เล่นสำรอง : โทมัส โซเรนเซ่น, เกล็นน์ วีแลน, โจนาธาน วอลเตอร์ส, มาร์ค วิลสัน, ตุนกาย ซาญลี่, แดนนี่ ฮิ๊กกิ้นบอทแฮม, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น 


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ระบบ 4-4-2 
ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ท 
กองหลัง : ไมกาห์ ริชาร์ด, โคโล่ ตูเร่, แว็งซ็องต์ กอมปานี, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ 
กองกลาง : ไนเจล เดอ ย็อง, ดาวิด ซิลบา, แกเร็ธ แบร์รี่, เจมส์ มิลเนอร์(อดัม จอห์นสัน น.83) 
กองหน้า : คาร์ลอส เตเบซ, มาริโอ บาโลเตลลี่(โจเอา อัลเวส โจ น.90) 
ผู้เล่นสำรอง : เชย์ กิฟเว่น, เจอโรม บัวเต็ง, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, อดัม จอห์นสัน, ปาทริค วิเอร่า, โจเอา อัลเวส โจ, โจลีออน เลสค็อตต์ 








Etherington earns Stoke point 


     A last-gasp Matthew Etherington goal saw Stoke earn a point against Man City at the Britannia Stadium. 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์