เมื่อ อังกฤษ ผิดคิว by..คุณฉุย


 


เอาตัวรอดไปแบบใจหายใจคว่ำทั้ง อังกฤษ และ เยอรมัน 2 ชาติที่มีแฟนประจำในบ้านเรากลุ่มใหญ่ให้การหนุนหลัง ทว่าหลายคงลงความเห็นคล้ายๆ กันว่าไม่น่าประทับใจทั้งคู่



จริงอยู่ เยอรมัน ออกสตาร์ทนัดแรกในฟุตบอลโลก 2010 ด้วยฟอร์มเทพกับการต้อน ออสเตรเลีย ขาด 4-0 พร้อมกับเสียงสรรเสริญ โยอัคคิม เลิฟ รวมไปถึงเหล่ายังบลัดอย่าง เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, ซามี่ เคดิร่า และ โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์


ทว่าเกมถัดมากับ เซอร์เบีย ดันพลาดท่าแพ้ 0-1 แต่ก็พอยอมรับได้เพราะเหลือ 10 คนจากการที่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ โดนไล่ออก แถมยังเป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีกว่าและน่าจะตีเสมอได้ด้วยจากลูกจุดโทษเพียงแต่ ลูคัส โพดอลสกี้ ดันยิงไม่เข้า


ทำให้ต้องไปลุ้นเข้ารอบกับ กาน่า ในนัดสุดท้าย ซึ่งผลก็อย่างที่ทุกคนทราบไปแล้วคือทีมอินทรีเหล็กเอาตัวรอดไปได้จากประตูชัยของ เมซุต โอซิล ดาวเตะสายเลือดเติร์ก
 

ส่วน อังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนทำผิดหวังตั้งแต่เกมแรกที่เสมอ สหรัฐอเมริกา 1-1 โดย โรเบิร์ต กรีน กลายเป็นแพะรับบาปเพราะดันรับบอลจากลูกยิงที่เหมือนไม่อันตรายเลยของ คลินต์ เดมพ์ซี่ย์ หลุดเข้าประตู
 

ทว่าที่โดนสับแหลกคือเกม 2 กับ แอลจีเรีย ที่จบลงด้วยผลเสมอแบบไม่มีสกอร์ เพราะตลอดทั้ง 90 นาทีลูกทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย
 

แถมก่อนเกมชี้ชะตากับ สโลวิเนีย ก็มีข่าวไม่ดีเรื่องการปีนเกลียวของ จอห์น เทอร์รี่ อดีตกัปตันทีมหลุดออกมา จนหลายคนเกรงว่าจะบานปลายเหมือนกรณี ฝรั่งเศส ที่ฝากผลงานสุดอัปยศไว้ทั้งในและนอกสนาม
 

อย่างไรก็ดีด้วยหัวใจหัวใจที่กร้าวแกร่งทีมสิงโตคำรามก็ก้ามพ้นความกดดันไปได้ด้วยชัยชนะ 1-0 เหนือ สโลวิเนีย จากประตูทองของ เจอร์เมน เดโฟ ที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ เลือกใช้บริการแทน เอมิล เฮสกี้
 

อังกฤษ เล่นไม่สวยแต่สุดท้ายผ่านรอบไปแล้วและเกือบจะเป็นอันดับ 1 กลุ่ม ซี แล้วหาก แลนดอน โดโนแวน ไม่ยิงประตูชัยให้ สหรัฐอเมริกา เฉือนชนะ แอลจีเรีย ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ



ทั้งนี้ก็เป็นเพราะประตูดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งให้ สหรัฐอเมริกา ผ่านเข้ารอบด้วยการมี 5 คะแนน เท่ากับ อังกฤษ เท่านั้น แต่ยังส่งให้ทีมลุงแซมแซงเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มด้วยประตูที่ยิงได้มากกว่า หลังวัดที่ผลต่างประตูได้-เสียแล้วบวก 1 เหมือนกัน
 

ส่งผลให้เส้นทางที่กำลังจะโรยด้วยกลีบกุหลาบของ อังกฤษ เปลี่ยนไป โดยแทนที่จะได้เจอกับอันดับ 2 กลุ่ม ดี ซึ่งตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเป็น กาน่า ก็ต้องเปลี่ยนเป็น เยอรมัน ที่สุดท้ายเข้าป้ายด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม
 

เท่านั้นยังไม่พอคู่ต่อสู้ด่านต่อไปในรอบ 8 ทีมสุดท้ายไม่เป็น อาร์เจนติน่า ก็ เม็กซิโก ที่จะดวลกันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั่นเอง
 

ขณะที่หากยึดตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ซี ไว้ได้ คู่ต่อกรในรอบควอเตอร์ไฟนั่ลจะเป็นผู้ชนะระหว่าง อุรุกวัย กับ เกาหลีใต้ ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อยอยู่แค่เอื้อม
 

จึงไม่แปลกที่บอกว่าหากทำได้ตามเป้าคือเป็นแชมป์กลุ่ม ซี เส้นทางของ อังกฤษ จะโรยด้วยกลีบกุหลาบเลย
 

แต่เมื่อดันมาผิดคิวอย่างนี้ซึ่งก็ต้องโทษตัวเองที่ยิงประตูเพิ่มไม่ได้ในเกมชนะ สโลวิเนีย เมื่อมีโอกาสอีกหลายคนทั้งจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เจอร์เมน เดโฟ, เวย์น รูนี่ย์ และแม้กระทั่ง จอห์น เทอร์รี่
 

ไม่เพียงแต่จะต้องเปลี่ยนเส้นทางสู่ โจฮันเนสเบิร์ก ไปใช้เส้นทางที่หฤโหดเท่านั้นแต่ยังทำให้ เยอรมัน ต้องมาปวดหัวด้วยเมื่อต้องเจอกับทีมใหญ่เร็วกว่ากำหนด 1 รอบนั่นเอง
 

จริงๆ แล้วหากเลือกได้ เยอรมัน ขอเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ดี ดีกว่าเพราะจะไปเจอกับ สหรัฐอเมริกา แล้วก็ผู้ชนะระหว่าง อุรุกวัย กับ เกาหลีใต้ ต่อไป เหมือนกับเมื่อฟุตบอลโลก 1986 ที่ เยอรมัน ซึ่งสมัยนั้นยังเป็น เยอรมันตะวันตก ยอมแพ้ เดนมาร์ก ของ เซ็ปป์ พิออนเท็ค 0-2 ด้วยการจัดสำรองลงเล่นเกือบทั้งทีมเพื่อเลี่ยงการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มเพราะต้องไปดวลกับ สเปน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
 

และการยอมหล่นมาเป็นอันดับ 2 ก็ทำให้ เยอรมันตะวันตก ผ่าน โมร็อคโก 1-0 แม้จะเล่นกันถึง 120 นาทีในรอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนจะดวลจุดโทษชนะ เจ้าภาพ เม็กซิโก ในรอบควอเตอร์ไฟนั่ล
 

จากนั้นก็เป็น รูดี้ โฟลเลอร์ ที่เหมาคนเดียว 2 ประตูให้ทีมพลิกชนะ ฝรั่งเศส ที่นำทัพโดย มิเชล พลาตินี่ จนเข้าชิงชนะเลิศสมใจก่อนจะพลาดท่าแพ้ อาร์เจนติน่า ที่มี ดิเอโก้ มาราโดน่า เป็นพระเอกแบบสุดมัน 3-2
 

ส่วน เดนมาร์ก ที่เล่นได้สวยงามมากก็ไปสุดแพ้ สเปน แบบขาดลอย 1-5 ทั้งที่ออกนำไปก่อนด้วย ขณะทีทีมกระทิงดุก็ไปเสียท่าให้ เบลเยี่ยม ในการดวลจุดโทษหลังเสมอกันอย่างสุดมัน 2-2 ใน 120 นาที
 

ขณะที่ เบลเยี่ยม ก็ไปไม่รอดเมื่อเจอทีเด็ดของ ดิเอโก้ มาราโดน่า ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าถ้า เยอรมันตะวันตก เลือกทางเดินนี้มีโอกาสจอดป้ายได้ตลอด
 

ทว่าสถานการณ์ก่อนเกมกับ กาน่า ต่างกับเมื่อ 24 ปีก่อนเพราะตอนนั้น เยอรมันตะวันตก เข้ารอบไปพร้อมกับ เดนมาร์ก ก่อนเดินลงสนามแล้ว
 

แต่ก่อนกับ กาน่า นั้น เยอรมัน ต้องการชัยชนะเพื่อการันตีในการเข้ารอบ เว้นแต่ว่า ออสเตรเลีย จะพลิกชนะ เซอร์เบีย ในเวลาเดียวกันแต่ยิงไม่เยอะ เยอรมัน จึงจะเข้ารอบไม่ว่าจะแพ้หรือเสมอ แถมจะเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มด้วย
 

ทำให้ โยอัคคิม เลิฟ ต้องสั่งให้ลูกทีมเล่นเต็มที่และยิงประตูขึ้นนำให้เร็วที่สุดเพราะโอกาสที่ เซอร์เบีย ซึ่งมีอยู่ 3 แต้มก่อนลงเล่นเกมสุดท้ายเหมือนกันจะเอาชนะ ออสเตรเลีย ได้มีสูง
 

ทว่าเมื่อจบครึ่งแรกทั้ง กาน่า กับ เยอรมัน และ เซอร์เบีย กับ ออสเตรเลีย ยังเสมอกันแบบไม่มีสกอร์ทำให้ทั้ง 4 ทีมต้องเดินลงสนามด้วยความกดดันแบบสุดๆ ในครึ่งหลัง
 

จนกระทั่ง เมซุต โอซิล มายิงประตูสุดสวยให้ เยอรมัน ขึ้นนำนั่นแหละถึงทำให้ โยอัคคิม เลิฟ ยิ้มได้ และไม่เท่านั้นสกอร์อีกคู่ที่เป็น ออสเตรเลีย ขึ้นนำ เซอร์เบีย 1-0 จากลูกโหม่งของ ทิม เคฮิลล์ เท่านั้นยังไม่พอ เบร๊ตต์ โฮมัน ยังยิงไกลให้ทีมจิงโจ้หนีห่างเป็น 2-0 ในอีก 4 นาทีให้หลัง ทำให้ทั้ง เยอรมัน และ กาน่า เล่นกันแบบผ่อนคลายเพราะไม่ว่าผลจะจบยังไงก็เข้ารอบทั้งคู่
 

ทว่าด้วยเวลาที่เหลือในตอนนั้นทุกอย่างดูเข้าทาง กาน่า เพราะต่างก็รู้ดีว่าเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม น่าจะดีกว่าการเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม
 

ไม่แปลกที่ เยอรมัน จะเล่นเหมือนพยายามรักษาสกอร์พร้อมกับล่อให้ กาน่า ขึ้นมายิงตีเสมอ แต่ขุนพลดาวดำก็ไม่หลงกลเพราะหากดันซัดตีเสมอก็จะไปเจอเส้นทางหฤโหด
 

สุดท้าย เยอรมัน เป็นฝ่ายชนะ กาน่า ไป 1-0 ขณะที่ เซอร์เบีย พลิกแพ้ ออสเตรเลีย 1-2 ก่อนจะกอดคอกันตกรอบ
 

หลังจากที่เคยเลี่ยงกันเผชิญหน้ากันเร็วกว่ากำหนดได้เมื่อ 4 ปีก่อนเมื่อทั้ง เยอรมัน และ อังกฤษ ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 1 ของ กลุ่ม เอ และ บี ตามลำดับ
 

ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากันจนได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเพราะ อังกฤษ ดันผิดคิวเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 กลุ่ม ซี ขณะที่ เยอรมัน ทำได้ตามเป้าคือเป็นอันดับ 1 กลุ่ม ดี
 

เมื่อผิวคิวไปแล้วคงต้องห้ำหั่นกันเต็มที่ ส่วนใครจะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไปก็สุดยากจะคาดเดา
 

ทว่าไม่สำคัญเท่ากับที่กำลังลุ้นว่า อุรุกวัย, เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา หรือ กาน่า จะหลุดเข้าไปเป็น 1 ใน 4 ทีมสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก 2010 หนนี้
 

และเชื่อเหลือเกินกว่า อังกฤษ ยังเสียดายไม่หายกับการผิดคิวครั้งนี้ ...
   

คุณฉุย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์