เมื่อ นิวคาสเซิล ต้องเป็น น้องใหม่ แชมเปี้ยนชิพ


ในขณะที่ ฟิล บราวน์ กุนซือของ ฮัลล์ ซิตี้ อยู่ในอารมณ์ดีใจสุดขีดหลังทีมรอดจากการตกชั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงขั้นคว้าไมโครโฟนออกมาพูดกับแฟนบอลในสนามเคซีสเตเดียมว่า "การได้เลื่อนชั้นเมื่อปีที่แล้วถือว่าสุดยอดแล้ว แต่การได้อยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไป และยังได้รับการสนับสนุนจาก พอล ดัฟเฟน ประธานสโมสรด้วย ถือว่าสุดยอดไม่แพ้กัน" นั้น

บรรยากาศที่สนามวิลล่าปาร์กกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เมื่อ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมเก่าแก่ในพรีเมียร์ลีก บุกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1 ซึ่งเป็นสกอร์เดียวกับที่ ฮัลล์ แพ้ "แชมป์" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ผลดังกล่าวส่งให้ทีมต้องร่วงตกชั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่ที่ เควิน คีแกน นำทีมกลับมาโลดแล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษ เมื่อปี 1993

แม้ว่า อลัน เชียเรอร์ จะเป็นตำนานของนิวคาสเซิลผู้ครองสถิติยิงประตูให้ต้นสังกัดมากถึง 206 ประตู แต่ในฐานะ ผู้จัดการทีม หน้าใหม่ที่เข้ามารับงานคุมทีมเป็นการชั่วคราวในช่วงท้ายฤดูกาล
ดูเหมือนว่าจะเป็นงานหนักเกินกำลังสำหรับอดีตกัปตันทีมผู้นี้ เมื่อนำทีมชนะได้เพียงแค่นัดเดียวจาก 8 นัดที่คุมทีม สุดท้ายจึงต้องตกชั้นไปตามระเบียบ

"เราไปว่าใครไม่ได้ และพูดไม่ได้เลยว่าโชคไม่ดีในฤดูกาลนี้ ทีมไม่ได้ตกชั้นจากการแข่งขันวันนี้ แต่เป็นเพราะว่าเราไม่ดีพอต่างหากใน 38 นัดที่แข่งมา" เชียเรอร์กล่าวยอมรับกับชะตากรรมของทีม

"ผมทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ นักเตะก็ไม่ดีพอ ผู้จัดการทีมคนก่อนๆ ก็ไม่ดีพอ ขณะที่เจ้าของทีมก็ทำผิดพลาด"

นอกจากนี้ กุนซือวัย 38 ยังรู้สึกผิดหวังแทนแฟนบอลร่วม 5 พันคนที่เดินทางมาให้กำลังใจทีมในนัดสุดท้ายของฤดูกาลด้วย โดยกล่าวว่า แฟนบอลเหล่านั้นควรจะได้รับการตอบแทนที่ดีกว่านี้

ขณะที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับต่างเศร้าใจกับการตกชั้นของทีมดัง แต่ก็มองว่า

ทีมสาลิกาสมควรแล้วที่จะร่วงจากพรีเมียร์ลีก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะแสดงความเห็นใจต่อกุนซือมือใหม่อย่างเชียเรอร์ และตำหนิการบริหารจัดการทีมของ ไมก์ แอชลีย์ เจ้าของทีมแทนว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทีมต้องประสบความล้มเหลวถึงขนาดนี้ ซึ่งว่ากันว่า การตกชั้นไปเล่นในลีกแชมเปี้ยนชิพในฤดูกาลหน้า จะทำให้ทีมสาลิกาสูญเงินไปราวๆ 30-60 ล้านปอนด์ (1,620-3,240 ล้านบาท) เลยทีเดียว

ดีเร็ก ลัมเบียส ผู้อำนวยการจัดการสโมสรแถลงผ่านเว็บไซต์ทางการของสโมสร "เอ็นยูเอฟซี" (www.nufc.co.uk) ว่า การตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกถือเป็นความผิดหวังอันยิ่งใหญ่สำหรับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

"เราทุกคนต่างเจ็บปวด และผมก็รู้สึกเสียใจกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกับไมก์ (แอชลีย์) ที่ลงทุนมหาศาลเพื่อสโมสร และกับแฟนบอลที่ให้การหนุนหลังอย่างดีเยี่ยม"

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ สโมสรไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ โดยลัมเบียสเผยว่า ทั้งเขาและแอชลีย์จะหารือกับเชียเรอร์ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาวิธีที่จะทำให้สโมสรขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อีกครั้ง ก่อนจะแจ้งให้แฟนๆ ได้รับทราบกันต่อไป

ส่วนจะมีการต่อสัญญาคุมทีมกันหรือไม่นั้น ยังไม่มีใครทำนายอนาคตได้ แต่สำหรับมุมมองของอดีตนักเตะดังของลิเวอร์พูล สแตน คอลลีมอร์ ที่มาเป็นคอลัมนิสต์ให้ เดลี่ มิร์เรอร์ กลับมองว่าเชียเรอร์ควรจะลงจากเก้าอี้กุนซือเสียมากกว่า โดยวัดจากที่ได้ไปนั่งชมเกมนัดส่งท้ายของทีมสาลิกาอยู่ที่สนามด้วย และพบว่านักเตะในทีมค่อนข้างไร้คุณภาพ

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นแฟนบอลพันธุ์แท้ของนิวคาสเซิล และชมการถ่ายทอดสดเกมดังกล่าวด้วยเช่นกัน เผยว่าตั้งใจจะโทรศัพท์ไปหาเชียเรอร์หากทีมชนะ แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อผลสุดท้ายทีมเป็นฝ่ายปราชัย ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใดที่ทีมต้องตกชั้น

แต่ถึงกระนั้น นายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งใส่เน็คไทที่มีโลโก้ของทีมสาลิกามาให้สัมภาษณ์กับกองทัพนักข่าว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยืนยันว่าจะปักหลักเชียร์ทีมรักต่อไป แม้ว่าจะตกชั้นไปแล้วก็ตาม

"ผมจะยังให้การสนับสนุนทีมต่อไป และเชื่อว่าพวกเขาจะกลับมาได้อีก ผมยังคงศรัทธาในทีมนิวคาสเซิล"

ส่วนแฟนบอลพันธุ์แท้ในอังกฤษที่ถูกเรียกขานว่า "ทูน อาร์มี่" จะยังศรัทธาและเชื่อมั่นในทีมรักต่อไปหรือไม่นั้น ต้องไปลุ้นกันต่อกับการเป็นน้องใหม่ในลีกแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลหน้า

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์