เมสซี่ฮีโร่!บาร์ซ่าบดบิลเบา2-1,เรือดำน้ำ1-1

     ลีโอเนล เมสซี่ ดาวยิงแข้งเทพซัดประตูชัยช่วย เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเฉือน แอธเลติก บิลเบา สุดมันส์ 2-1 เก็บสามแต้มเต็มมี 65 คะแนน นำจ่าฝูงต่อไปโดยห่างอันดับ2 เรอัล มาดริด อยู่ 5 แต้ม ขณะที่ เรือดำน้ำ บียาร์เรอัล ทำได้เพียงเสมอทีมบ๊วยของตาราง มาลาก้าในบ้าน 1-1 อยู่ดันดับ4เหมือนเดิม


การแข่งขันฟุตบอลลา ลีกา สเปน

(นัดที่ 24 ฤดูกาล 2010-11)
วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554
บาร์เซโลน่า 2 - 1
 แอธเลติก บิลเบา
 


สนาม: เอสตาดิโอ คัมป์ นู, บาร์เซโลน่า



     เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า เพิ่งออกไปพ่ายให้กับ อาร์เซน่อล มาหวุดหวิด 1-2 ในศึกยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในลีกยังนำเป็นจ่าฝูง 

     เกมนี้ไม่มี เจฟเฟรน ซัวเรซ กองหน้าดาวรุ่งที่ไม่ฟิต รวมไปถึง การ์เลส ปูโยล ปราการหลังกัปตันทีมซึ่งเจ็บเส้นเอ็น แต่ได้ ดาบิด บีย่า หัวหอกตัวฉกาจหายบาดเจ็บข้อเท้าซ้ายลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ เปโดร โรดริเกซ และ ลีโอเนล เมสซี่
โดยรายของ เมสซี่ ลงเล่นให้กับบาร์ซ่า เป็นนัดที่ 250 เมื่อรวมทุกถ้วย 

     แผงมิดฟิลด์ให้ ชาบี เอร์นานเดซ กับ อันเดรส อิเนียสต้า ลงทำเกมรุก
 โดยส่ง มาสเคราโน่ เล่นเป็นกลางรับแล้วถอย เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ไปเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ เคราร์ด ปิเก้ 

     ในตำแหน่งผู้รักษาประตูไม่มี บิคตอร์ บัลเดส ที่เจ็บหัวเข่าซ้าย เลยต้องให้ โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ เฝ้าเสาแทน 

     ทางด้าน แอธเลติก บิลเบา ทีมดังจากแคว้นบาสก์ ได้ การ์ลอส กูร์เปกี พ้นโทษแบนหวนคืนสู่ทีม แนวรุกวาง เฟร์นานโด ยอเรนเต้ หัวหอกร่างยักษ์ทีมชาติสเปน ลงเล่นกองหน้าตัวเป้า 

     เปิดเกมขึ้นมาได้แค่ 4 นาที เจ้าบุญทุ่มขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ วางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ ดาเนียล อัลเวส หลุดขึ้นไปแตะบอลเข้ากลางจังหวะเดียวให้ ดาบิด บีย่า วิ่งเข้ามาแปด้วยซ้ายตุงตาข่ายให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำ 1-0 แล้ว 

     จากนั้นเจ็ดนาที ทีมเยือนมาได้ลุ้นประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ได้บอลทางกราบซ้ายก่อนล็อกหนี เคราร์ด ปิเก้ เข้าไปในเขตโทษแล้วเปิดด้วยซ้ายให้ มาร์เกล ซูซาเอต้า โขกที่เสาแรกบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว 

     เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 26 บาร์ซ่า น่าได้ประตูที่สอง เมื่อ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ จ่ายทะลุขึ้นหน้าให้กับ ดาบิด บีย่า หลุดเข้าไปชิปด้วยซ้ายบอลไปชนคานออกมาอย่างน่าเสียดาย 

     หลังจากนั้นห้านาที เจ้าบ้านได้ลุ้นอีก เปโดร โรดริเกซ เปิดบอลให้กับ ดาบิด บีย่า ยิงด้วยขวาจากนอกเขตบอลสูงแล้วหลุดออกขวาไป 

     แอธ.บิลเบา น่าได้ประตูตีเสมอเหมือนกันในนาทีที่ 37 จากจังหวะที่ อีกอร์ กาบิลอนโด้ โยนบอลจากสุดเส้นหลังด้านซ้ายไปหน้าประตูให้กับ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ทะยานขึ้นโขกเต็มๆ แต่ว่า โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ นายทวารบาร์ซ่า พุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม 

     ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 3 นาที เจ้าถิ่นได้ลุ้นประตูอีกครั้ง ดาเนียล อัลเวส สับไกจากนอกเขตโทษบอลไม่เข้ากรอบ หมดครึ่งแรก บาร์ซ่า นำก่อน 1-0 

     มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่นาทีเดียว เฟร์นานโด ยอเรนเต้ โหม่งตั้งให้กับ มาร์เกล ซูซาเอต้า ยิงด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเข้ากรอบ ทว่า โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ นายด่านบาร์ซ่า ป้องกันได้ 

     อย่างไรก็ตาม แอธ.บิลเบา ตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 50 เมื่อ เอริก อบิดัล แบ็คซ้ายคืนบอลเข้ากลางมาไม่ดี ทำให้ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ต้องไปเสียบ ยอเรนเต้ ที่หลุดเข้าไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินชักใบเหลืองให้กับ บุสเก็ตส์ พร้อมชี้เป็นจุดโทษ ก่อนที่ อันโดนี่ อิราโอล่า จะสังหารจุดโทษด้วยขวาเข้าไป โดยที่ โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ นายด่านบาร์ซ่าพุ่งไปผิดทาง ทำให้ทีมดังจากแคว้นบาสก์ ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ 

     สองนาทีต่อมา กาอิซก้า โตเกโร่ กองหน้าตัวสำรองของบิลเบา ที่เปลี่ยนลงมาในครึ่งหลัง ตัดบอลได้จะหลุดเข้าไปอยู่แล้ว แต่โดน เคราร์ด ปิเก้ ดึงล้มลง ผู้ตัดสินยังปราณีแจกแค่เหลืองให้กับ ปิเก้ เท่านั้น ทั้งที่จะให้ใบแดงก็ไม่น่าเกลียดแต่อย่างใดในจังหวะนี้ 

     เขยิบมานาที 56 ดาเนี่ยล อัลเวส แบ็คจอมบุกบาร์ซ่า ครอสจากขวาเข้ามาให้กับ เปโดร โรดริเกซ โหม่งตามน้ำบอลหลุดเสาออกไปชนิดได้ลุ้นทีเดียว 

     สี่นาทีต่อมา บาร์ซ่า น่าได้จุดโทษอย่างยิ่ง เมื่อ ลีโอเนล เมสซี่ โชว์ทักษะชั้นอ๋อง พลิ้วหลบกองหลังของแอธ.บิลเบา หลายรายเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายโดน ฆาบี มาร์ติเนซ กระโดดพุ่งมาเสียบดักทางไว้จนล้ม แต่ปผู้ตัดสิน ราฟาเอล รามิเรซ โดมิงเกซ ใจแข็งไม่ยอมเป่าให้เป็นจุดโทษ เล่นเอาแฟนบอลของบาร์ซ่า โห่กันขรม 

     บาร์ซ่า ปรับทัพด้วยการส่ง แม็กซ์เวลล์ ลงมาเล่นแบ็คซ้ายแล้วถอด มาสเคราโน่ ออก พร้อมกับขยับ เอริก อบิดัล ไปเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ปิเก้ แล้วดัน บุสเก็ตส์ ขึ้นมาเล่นเป็นกลางรับ ในนาทีที่ 65 

     สองนาทีต่อมา เมสซี่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวยกบอลเข้าช่องหลบกองหลังทีมเยือน ก่อนจะยิงเร็วด้วยซ้ายแต่ไปช้อนใต้บอลมากเกินไป บอลเหินข้ามคานไปไกล 

     บาร์ซ่า โหมแล้วมีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 70 เมื่อ ชาบี จ่ายให้กับ ดาบิด บีย่า กดด้วยขวาเน้นๆ แต่ว่า กอร์ก้า อิไรซอซ นายทวารบิลเบา ปัดได้ด้วยปลายนิ้วบอลหลุดเสาสองออกหลังไป 

     ถัดมา 2 นาที บิลเบา เปลี่ยนตัวอีกครั้งให้ อีเกร์ มูเนียอิน กองกลางดาวรุ่งลงมาเล่นแทน กาบิลอนโด้ 

     นาที 75 อัลเวส ผ่านบอลมาแถวเสาให้อีเนียสต้า กระหน่ำด้วยซ้าย แฉลบกองหลังบิลเบาออกหลัง และจากลูกเตะมุม ชาบีเปิดมาให้ปีเก้โขกกลางประตู แต่กดไม่ลง บอลลอยโด่งออกหลัง 

     นาที 78 ชาบี เปิดบอลข้ามฟากไปให้อัลเวส จ่ายเข้ากลางให้เมสซี่วิ่งมาแปด้วยขวาที่เสาแรก ตุงตาข่าย บาร์ซ่าขึ้นนำ 2-1 

     บาร์ซ่ายังคงโหมบุกหนักและนาที 80 เกือบได้อีกหนึ่งประตู จากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ เร่งความเร็วควบแซง กอร์ก้า อิไรซอซ นายด่านทีมเยือนที่ออกมาตัดบอลริมเส้นด้านซ้ายนอกเขตโทษ ก่อนโยนบอลมาหน้าประตูแต่กองหลังทีมเยือนโหม่งสะกัดบอลออกไปได้ 

     นาที 81 เมสซี่ โชว์ฟอร์มเทพอีกครั้ง กระชากบอลหลบแผงหลังทีมเยือนหลุดเข้าไปซัดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดแต่ กอร์ก้า อิไรซอซ นายทวารบิลเบายังป้องกันเอาไว้ได้   

     ช่วงทดเวลาบาทเจ็บกรรมการชักใบเหลืองให้กับ การ์ลอส กูร์เปกี ห้องเครื่องของทีมเยือนที่เสียท่าถูกเมสซี่พลิกหลอกและต้องยอมดึงฟาวน์  

     และจากจังหวะนี้เองบาร์ซ่าเกือบได้ประตูอีกครั้ง เมสซี่โยกบอลหลบกองหลังบิลเบาหลุดเข้าไปซัดเต็มข้อที่เสาแรกแต่ กอร์ก้า อิไรซอซ นายด่านบิลเบายังคงป้องกันไว้ได้อีกครั้ง 

     ก่อนหมดเวลาเจ้าถิ่นเปลี่ยน อิบราฮิม อเฟลลาย ศูนย์หน้าตัวสำรองลงมาแทน เปโดร โรดริเกซ เพื่อหวังทำประตูเพิ่ม 

     ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มจบเกม บาร์เซโลน่า เฉือนชนะ แอธเลติก บิลเบา ไป 2-1 เก็บสามแต้มล้ำค่า ทำแต้มนำห่าง เรอัล มาดริด รองฝูงเป็น 5 แต้ม จากการลงเล่น 24 นัดเท่ากัน



รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
 


     บาร์เซโลน่า:
โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เอริก อบิดัล - ชาบี เอร์นานเดซ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อันเดรส อิเนียสต้า - เปโดร โรดริเกซ, ลีโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า

     สำรอง:
ออยเอร์ โอลาซาบาล (ผู้รักษาประตู) - กาเบรียล มิลิโต้, อาเดรียโน่ คอร์เรอา, แม็กซ์เวลล์, เซย์ดู เกอิต้า, อิบราฮิม อเฟลลาย, โบยาน เกร์กิช 



     แอธเลติก บิลเบา:
กอร์ก้า อิไรซอซ - อันโดนี่ อิราโอล่า, เฟร์นานโด อมอเรเบียต้า, บอร์ฆา เอกีซ่า, กอยกิลี่ เลร์ชุนดี้ - ฆาบี มาร์ติเนซ, การ์ลอส กูร์เปกี - มาร์เกล ซูซาเอต้า, อันเดร์ อิตูร์รัสเป้, อีกอร์ กาบิลอนโด้ - เฟร์นานโด ยอเรนเต้

     สำรอง:
ราอูล เฟร์นานเดซ (ผู้รักษาประตู) - อุสตาริตซ์ อัสตาร์ลัว,
ดาบิด โลเปซ โมเรโน่, ชาบี กัสตีโญ่, ออสการ์ เด มาร์กอส, อีเกร์ มูเนียอิน, กาอิซก้า โตเกโร่



     ผู้ตัดสิน:
ราฟาเอล รามิเรซ โดมิงเกซ









src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110221C0S5P.jpg


บียาร์เรอัล 1 - 1 มาลาก้า




สนาม:
เอสตาดิโอ เอล มาดรีกัล, กาสเตย่อน


     เยลโล่ ซับมารีน บียาร์เรอัล ผลงานช่วงหลังตกลงไปชัดเจน จนโดน บาเลนเซีย แย่งอันดับสามไปแล้ว เกมนี้ไม่มี อังเคล โลเปซ กับ ฆวน การ์ลอส ที่บาดเจ็บ โดยแนวรุกจัดสามหัวหอกอย่าง มาร์โก รูเบน, นิลมาร์ และ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ลงล่าตาข่ายพร้อมเพรียงกัน 

     ทางด้าน มาลูก้า ทีมดังจากแคว้นอันดาลูเซียน ที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนักนั้นไม่มี ไอ้ยักษ์ ชูลิโอ บาปติสต้า กองกลางตัวเก๋าชาวบราซิเลียน ที่บาดเจ็บหัวเข่าขวาฉีกในระหว่างการฝึกซ้อม เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องชวดลงสนามประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่ได้ อันโตนิโอ อปอนโญ่ พ้นโทษแบนหวนคืนสู่ทีม
โดยหัวหอกตัวเป้าวาง โฮเซ่ รอนดอน ลงตะบัน 

     ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาสามนาที ทีมเยือนได้ลุ้นประตูก่อน มาร์ติน เดมิเคลิส ปราการหลังเติมขึ้นมาโขกบอลหลุดกรอบออกไป 

     ผ่านมา 17 นาที บียาร์เรอัล มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกริมเขตโทษด้านขวา จูเซ็ปเป้ รอสซี่ วิ่งเข้ามาปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งเข้ากรอบ แต่ วิลเฟรโด้ กาบาเยโร่ นายทวารมาลาก้า ยังทุบออกมาได้ 

     ครึ่งชั่วโมงของเกม มาลาก้า เกือบได้ประตูก่อนเมื่อ เรซิโอ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ โฮเซ่ รอนดอน ตวัดยิงด้วยซ้ายบอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว 

     มาถึงนาทีที่ 36 เจ้าบ้านออกนำจนได้จากจังหวะที่ รูเบน กราเซีย กานี จ่ายบอลให้กับ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ หลุดเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายก่อนตวัดเข้ามาที่กลางประตูให้ มาร์โก รูเบน ชาร์จด้วยซ้ายโล่งๆเข้าไปให้ บียาร์เรอัล นำก่อน 1-0 

     สามนาทีต่อมา เจ้าถิ่นลุยขึ้นมาอีกครั้ง นิลมาร์ ป้ายบอลต่อให้กับ มาริโอ กาสปาร์ ตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลหลุดเสาขวาไป 

     เยลโล่ ซับมารีน บุกหนักมีลุ้นอีกในนาทีที่ 43 นิลมาร์ พาบอลเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ วิลเฟรโด้ กาบาเยโร่ นายทวารมาลาก้า 

     นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก รูเบน กราเซีย กานี กองกลางบียาร์ฯ เปิดบอลให้กับ นิลมาร์ ซัดด้วยขวาโดน กาบาเยโร่ พุ่งปัดไว้ได้อีก หมดครึ่งแรก บียาร์เรอัล นำก่อน 1-0 

     มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้สามนาที เจ้าบ้านได้โอกาสก่อน กานี เปิดบอลให้กับ นิลมาร์ ตะบันด้วยซ้ายไม่ผ่านมือของ วิลเฟรโด้ กาบาเยโร่ นายด่านทีมเยือน 

     ถัดมานาทีเดียว มาลาก้า ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เซบาสเตียน เฟร์นานเดซ ไหลบอลให้กับ เรซิโอ ซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลพุ่งเกือบเสียบมุมขวาอยู่แล้ว แต่ว่า ดีเอโก้ โลเปซ นายทวารบียาร์เรอัล ป้องกันไว้ได้ 

     เขยิบมานาทีที่ 55 มาลาก้า เปลี่ยนเอา ฆวนมี่ โลเปซ ลงมาเล่นแทน อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ ในแดนกลาง 

     ทีมเยือนดีขึ้นเล็กน้อย มีโอกาสตีเสมอในนาที 62 เซบาสเตียน เฟร์นานเดซ หาเหลี่ยมยิงด้วยขวาบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว 

     กระนั้นเป็นเจ้าบ้านที่น่าได้เพิ่มในนาที 78 เมื่อ ซานติ กาซอร์ล่า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาไม่นาน ปั่นฟรีคิกด้วยขวาจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ไปชนคานออกมาอย่างน่าเสียดาย 

     อย่างไรก็ตาม มาลาก้า มาได้ประตูตีเสมอจนได้ในนาทีที่ 82 จากจังหวะที่ โฮเซ่ รอนดอน พาบอลโต้กลับเร็วขึ้นมา ก่อนจะผ่านบอลจากทางซ้ายมาให้กับ เซบาสเตียน เฟร์นานเดซ แปด้วยขวาโล่งๆกลางประตูเข้าไปให้ทีมเยือนตามมาเป็น 1-1 

     เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ครบ 90 นาที บียาร์เรอัล ทำได้แค่เพียงเปิดบ้านเสมอกับ มาลาก้า ไป 1-1 แบ่งแต้มกันไป



รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


     บียาร์เรอัล:
ดีเอโก้ โลเปซ - มาริโอ กาสปาร์, กอนซาโล่ โรดริเกซ, การ์ลอส มาร์เชน่า, โจน กัปเดบีล่า (กัปตันทีม) - รูเบน การ์เซีย กานี, บรูโน่ โซเรียโน่, บอร์ฆา บาเลโร่ - นิลมาร์, มาร์โก รูเบน, จูเซ็ปเป้ รอสซี่

     สำรอง:
ดีเอโก้ มาริโน่ บียาร์ (ผู้รักษาประตู) - ชิชินโญ่, โฆเซ่ มานูเอล กาตาล่า, มาเตโอ มูซัคคิโอ, ซานติ กาซอร์ล่า, มาร์กอส เฟร์เรร่า, วากาโซ่ มูบารัค



     มาลาก้า:
วิลเฟรโด้ กาบาเยโร่ - มานูเอล กาสปาร์, มาร์ติน เดมิเคลิส, เวลลิงตัน ร็อบสัน, เอลิเซว โดส ซานโต๊ส - อันโตนิโอ อปอนโญ่, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ - ฟรานซิสโก้ ปอร์ตีโย่, เรซิโอ, เซบาสเตียน เฟร์นานเดซ - โฮเซ่ รอนดอน

     สำรอง:
ฟรานเชสซ์ อาร์เนา (ผู้รักษาประตู) - พาทริค เอ็มติลิก้า, เฟร์นานโด เฟร์นานเดซ, มานูเอล ตอร์เรส กาตูร์ล่า, เอ็นโซ มาเรสก้า, ฆวนมี่ โลเปซ, ซานโดร ซิลวา 



     ผู้ตัดสิน:
เฟร์นานโด เตยเชยร่า บิเตียเนส



ผลฟุตบอลลา ลีกา สเปน
- อัลเมเรีย เสมอ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า  1 - 1
- เคตาเฟ่ แพ้ ราซิ่ง ซานตานเดร์  0 - 1
- บียาร์เรอัล เสมอ มาลาก้า   1 - 1
- โอซาซูน่า ชนะ เอสปันญ่อล  4 - 0
- เซบีย่า ชนะ เอร์กูเลส  1 - 0
- บาร์เซโลน่า ชนะ แอธเลติก บิลเบา 2 - 1 



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์