เปิดอกแวนเกอร์ ผจก.ทีมที่ไม่เคยท้อกับโปรเจ็คท์แห่งความฝัน แล้วคุณจะรักแวนเกอร์มากขึ้นอีกเยอะ


ตอนที่ตัดมานี่ เริ่มจากตอนที่ซามูเอลถามถึงเรื่องหนี้จากการสร้างเอมิเรตส์ สเตเดียม โดยพูดไปถึงความเห็นของมิเชล พลาตินี่ ประธานยูฟ่า คู่รัก (คู่แค้น) กันเชียว แล้วเวนเกอร์ก็ตอบแบบเจ็บๆ คันๆ สไตล์ป๋าอีกตามเคย นอกนั้นก็มีพูดถึงเซสก์, น้องแจ็ค, เบิร์กแคมพ์, อองรี, บอร์ดบริหาร กระจายๆ กันไปค่ะ

-----------------
.
.

ซามูเอล : คุณยังมีหนี้สินก้อนใหญ่

เวนเกอร์ : เรามีหนี้ก้อนใหญ่เพราะเราสร้างสนาม

ซามูเอล : ใช่ แต่หนี้ก็คือหนี้ ตามที่มิเชล พลาตินี่บอก เขาไม่แยกแยะความแตกต่างระหว่างหนี้สินที่กู้มาเพื่อเป็นทุนสนับสนุนนโยบายซื้อขายนักเตะกับหนี้ที่เกิดจากการสร้างสนามใหม่

เวนเกอร์ : นั่นเป็นความผิดพลาด สองอย่างนั้นเป็นคนละเรื่องกันเลย เมื่อชำระหนี้ค่าสนามหมดแล้ว สโมสรจะใหญ่กว่าเดิม และมีเงินทุนที่นำไปใช้จ่ายได้มากกว่าเดิมด้วย พลาตินี่ก็พูดได้สิ เขาไม่รู้หรอกว่าในลอนดอนนี่ การจะซื้อสถานที่ก่อสร้างต้องใช้เงินถึง 125 ล้านปอนด์ ในฝรั่งเศส พวกเขาได้มันมาในราคาแค่ยูโรเดียวเท่านั้น

ซามูเอล : เพราะทุกอย่างได้รับเงินสนับสนุนจากประเทศหรือจากรัฐ

เวนเกอร์ : ใช่เลย

ซามูเอล : ถ้างั้น เวลาคุณมองดูเชลซีหรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คุณรู้สึกยังไง

เวนเกอร์ : ผมไม่รู้สึกอิจฉา

ซามูเอล : หงุดหงิดรำคาญใจล่ะ? เวลาที่ใครๆ ไม่แยกแยะว่าสโมสรอย่างสโมสรของคุณกำลังบริหารด้วยการควบคุมการเงิน แล้วบอกว่าคุณไม่ประสบความสำเร็จ?

เวนเกอร์ : สิ่งที่ยากสำหรับผมไม่ใช่เรื่องที่ว่าสโมสรอื่นมีเงินมากกว่าหรอกนะ เราพยายามใช้วิธีการที่แตกต่าง ซึ่งสำหรับผมแล้ว เป็นวิธีที่น่านับถือ พูดสั้นๆ ก็คือ สิ่งเหล่านี้คือพื้นฐาน ผมคิดว่า ‘เรากำลังจะสร้างสนามใหม่ เพราะฉะนั้นผมจะดึงนักเตะอายุน้อยเข้ามาเร็วหน่อย ผมจะได้ไม่ต้องเจอกับสถานการณ์ไม่มั่นคงในตลาดซื้อขายนักเตะเพราะเราไม่มีเงินที่จะแข่งกับทีมอื่นๆ

ผมสร้างทีม และเราชดเชยด้วยการสร้างสรรรค์สไตล์การเล่น ด้วยการสร้างวัฒนธรรมที่สโมสรของเรา เพราะเด็กหนุ่มๆ จะเข้ามาตอนอายุ 16 หรือ 17 และเมื่อพวกเขาลงสนาม พวกเขาจะมีเรื่องของจิตวิญญาณเพิ่มเข้าไปด้วย มีความรักต่อสโมสร เพราะพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาด้วยกัน

คนที่คุณเจอในมหาวิทยาลัยตั้งแต่คุณอายุ 16 ถึง 20 ส่วนใหญ่นั่นจะเป็นความสัมพันธ์ในชีวิตที่ยืนยาว ผมคิดว่านั่นจะมอบความแข็งแกร่งให้กับเราในแบบที่สโมสรอื่นๆ ไม่มี’ และจนถึงตอนนี้เราก็กำลังเข้าใกล้ความสำเร็จ ไม่ใช่ปีที่แล้วนะ เพราะเราไม่เคยได้อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์เลย แต่เป็นก่อนหน้านั้นและแน่นอนในปี 2006 ด้วย ตอนที่เราเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกน่ะ

สำหรับผม ทีมของเราดูจะเติบโตขึ้น ผสมกลมกลืนกัน และเข้าใกล้ความสำเร็จแล้ว แต่ขณะนี้ พวกเขาไม่ได้รับเครดิตสำหรับสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้น และก็เหมือนกับทีมอื่นๆ ที่ยังไม่ได้แชมป์ พวกเขายังคงสงสัยว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์ได้หรือเปล่า

ซามูเอล : แล้วคุณตอบสนองยังไงกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย รวมทั้งจากแฟนๆ อาร์เซนอลเองด้วย ว่าคุณมีความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในปรัชญานี้มากเสียจนกระทั่งตอนนี้คุณยึดติดกับมันซะแล้ว คุณจะไม่เปลี่ยนแปลงมันถึงแม้ว่าคุณสามารถทำได้ คุณอาจจะขาดนักเตะไปสองคน แต่คุณก็ยังคงไม่ซื้อเข้ามา

เวนเกอร์ : ใช่ แต่ทันทีที่คุณเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นคุณจะติดกับ ตอนที่เซสก์ ฟาเบรกาสอายุ 18,19 ผมให้เขาลงคู่กับปาทริค วิเอร่าในระบบ 4-4-2 และผมเห็นว่ามันไม่ได้ผล แล้วผมก็ต้องตัดสินใจให้ปาทริคจากไป เพราะจิลแบร์โต้ ซิลวากับวิเอร่าเวิร์ค ฟาเบรกาสกับซิลวาเวิร์ค แต่ผมส่งฟาเบรกาสลงเล่นกับวิเอร่าไม่ได้

แต่ตอนนั้นฟาเบรกาสอายุ 19 และถ้าเขาไม่ได้ลงเล่น ผมรู้ว่าเขาต้องอยากย้าย เราก็เลยเสี่ยงทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง งานทั้งหมดที่เราทำมากับนักเตะคนนี้ ตอนนี้เรามีสถานการณ์แบบเดียวกันกับแจ็ค วิลเชียร์ เขาอายุ 17 และเราไม่สามารถขอให้เขาลงเล่นทุกเกมเพื่อคว้าแชมป์ได้ เขาอาจจะได้ลงซักสองสามเกมส์ แต่ปีหน้าเขาจะพร้อมลงเล่นทุกเกมส์ เขาจะต้องการลงเล่นทุกเกมส์ และถ้าเราซื้อนักเตะตำแหน่งเดียวกันกับเขาเข้ามา เขาก็จะอยากย้าย

นั่นคือเหตุผลที่คุณต้องเลือกว่าถ้าคุณไม่ใช้นโยบายซื้อนักเตะที่ได้รับการยืนยันฝีเท้าแล้ว นักเตะระดับสุดยอดที่อายุ 23 หรือมากกว่า คุณก็ต้องทำแบบที่เราทำ ทีมที่เรามีอยู่ตอนนี้กำลังจะไปถึงจุดนั้น เมื่ออายุ 22 หรือ 23 ผมคิดว่าทีมจะโตเป็นผู้ใหญ่พอที่จะทำผลงานได้ดี และนี่เป็นปีที่สำคัญอย่างมากสำหรับสโมสรของเรา ผมรู้เรื่องนั้นดี ผมรู้ว่าผู้คนไม่มีความอดทนอีกต่อไป

ซามูเอล : คุณคิดว่าทีมนี้จะไปถึงจุดนั้นในปีนี้หรือ?

เวนเกอร์ : ใช่

ซามูเอลถามเรื่องการซื้อนักเตะแพงๆ ว่าเวนเกอร์จะยอมใช้เงินซื้อนักเตะด้วยเงิน 100 ล้านปอนด์มั้ย เวนเกอร์ตอบว่า “ถ้าคุณมีเงินและคุณพบนักเตะซักคนที่ทำให้คุณเป็นแชมป์ได้ และสร้างความแตกต่างได้ คุณก็ควรซื้อไม่ว่าเขาจะราคาแพงซักแค่ไหน แต่ในโลกนี้มีนักเตะไม่กี่คนหรอกที่สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริง”

ซามูเอล : นั่นคือเหตุผลที่คุณปฏิเสธรีล มาดริดหรือ? ตอนที่พวกเขาติดต่อคุณ พวกเขาต้องบอกคุณอย่างชัดเจนแน่ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง (เวนเกอร์พยักหน้า) คุณสามารถสั่งการได้ทั้งโปรเจ็คท์ โดยมีคริสเตียโน่ โรนัลโด้กับกาก้าอยู่ในทีมด้วย ทำไมคุณถึงไม่รับข้อเสนอ?

เวนเกอร์ : ผมต้องการทำงานของผมที่นี่ให้ลุล่วง ผมสร้างทีมๆ นี้ ผมต้องการประสบความสำเร็จกับทีมนี้ และผมรู้สึกว่าถ้าผมจากไป ก็เท่ากับผมทรยศต่อความเชื่อของตัวเอง มันก็ง่ายๆ แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสิ่งที่รีล มาดริดทำ มันเกี่ยวกับอาร์เซนอล ผมมีโปรเจ็คท์ที่นี่ที่ผมเริ่มต้นขึ้นเมื่อสามสี่ปีก่อน และผมต้องการเดินไปให้สุด ผมไม่สามารถทิ้งทีมนี้ไปในขณะที่พวกเขาพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้

ซามูเอล : สำหรับคุณ มันจะมีความหมายเท่าเทียมกันไหมถ้าคุณประสบความสำเร็จในแบบที่รีล มาดริดหวังจะเป็นในฤดูกาลนี้ ด้วยการใช้เงินให้มากที่สุดกับนักเตะที่ดีที่สุด?

เวนเกอร์ : ผมเชื่อมั่นในงาน ในความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะ ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้ฟุตบอลยอดเยี่ยมก็คือมันเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม คุณสามารถชนะได้หลายวิธี ด้วยการเล่นเป็นทีม หรือด้วยการมีนักเตะบางคนที่เก่งกว่าคนอื่น

แต่สิ่งที่ทำให้ผมสนใจคือจริยธรรมของทีม เป็นอย่างนี้เสมอมา ผมไม่ใช่แฟนเทนนิส ไม่ใช่แฟนทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ แต่ผมชอบเดวิส คัพ เพราะรายการนั้นเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม ผมชอบกอล์ฟเมื่อเป็นไรเดอร์ คัพ มันแปลก ผมรู้

ซามูเอล : ตอนไหนที่คุณปิดสวิทช์ ตอนไหนที่คุณค้นหาโลกอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอล หรือว่าไม่มีช่วงเวลาแบบนั้นสำหรับคุณ ฟุตบอลครอบงำคุณตลอดเวลาเลยหรือเปล่า?

เวนเกอร์ : ใช่ เมื่อคุณทำงานนี้มา 30 ปีคุณก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ บ้านิดหน่อย เพราะคุณไม่สามารถบอกได้ว่ามันไม่มีผลกระทบทางจิตวิทยากับคุณ คุณมีชีวิตอยู่กับมัน คุณคิดถึงมัน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบหนี

ซามูเอล : ถ้างั้นก็มีความบ้าอยู่ในความหลงใหลคลั่งไคล้นี้?

เวนเกอร์ : ใช่

ซามูเอล : มันเป็นอย่างนั้นกับใครบ้างมั้ย คนที่มีความโดดเด่นอย่างแท้จริงในโลกกีฬาน่ะ?

เวนเกอร์ : เป็นสิ ผมทำงานกับเดนนิส เบิร์กแคมพ์มา 10 ปี และผมไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนคลั่งไคล้อยู่กับเทคนิคการเล่นเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างมากไปกว่าเขาเลย เขาเหลือเชื่อจริงๆ ทั้งในและนอกสนาม

เธียร์รี่ อองรีก็เหมือนกัน คุณสามารถโทรไปหาเธียร์รี่ที่บ้านได้ตอนสี่ทุ่มของทุกคืน และเขาก็จะอยู่ที่บ้านนั่นแหละ ตอนเขาอายุ 23 น่ะนะ แล้วลองคุยกับเธียร์รี่เรื่องฟุตบอลดู คุณไม่มีวันชนะเขาหรอก

ซามูเอล : คุณทำแบบนั้นจริงๆ หรือ? โทรไปหาเขาตอนสี่ทุ่มเพื่อทดสอบน่ะ?

เวนเกอร์ : ส่วนใหญ่แล้วไม่หรอก เพราะคุณไม่สามารถควบคุมคนที่อยู่ในลอนดอนได้ และคุณต้องมองโลกในแง่ดี

ซามูเอล : คุณเคยปรารถนาให้ตัวเองเป็นอิสระจากความหลงใหลคลั่งไคล้นี้บ้างไหม คุณรู้สึกไหมว่านี่เป็นอุปสรรค ภรรยาหรือลูกสาวของคุณเคยพูดไหมว่า ‘อาร์แซน ฉันหวังว่าคุณจะทำตัวผ่อนคลายกับเขาซะที’ ?

เวนเกอร์ : เซอร์บ็อบบี้ ร็อบสันเพิ่งเสียชีวิตไป คุณเห็นเกมสุดท้ายที่เขาไปดูมั้ย? มันเป็นแค่เกมการกุศล แต่ก็ยังมีประกายในดวงตาของเขาเวลาที่เขาไปชมการแข่งขันฟุตบอล เขาจะนั่งอยู่ที่บ้านก็ได้ แต่เขาเลือกจะไปที่นั่น

เขาเหลือเวลาอีกแค่สองสามวันเท่านั้นที่จะมีชีวิตอยู่ และนั่นคือที่ที่เขาต้องการจะอยู่ แล้วเขาจะทำอะไรที่บ้านล่ะ นั่งอยู่ที่นั่นและคิดถึงการตาย และอาจจะหวาดกลัวด้วยน่ะหรือ วิธีที่จะหลบจากสิ่งนั้นก็คือการออกไปหาสิ่งที่เขารักอย่างแท้จริง

ซามูเอล : คุณกลัวชีวิตหลังจากเลิกเกี่ยวข้องกับฟุตบอลไหม?

เวนเกอร์ : แน่นอน

ซามูเอล : จะเกิดอะไรขึ้นกับความรักอย่างแท้จริง แรงผลักดัน และความปรารถนาที่คุณมี ถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมในระดับสุดยอดอีกต่อไป?

เวนเกอร์ : ผมไม่อาจเป็นผู้จัดการทีมระดับสูงสุดได้ตลอดไปหรอกเพราะคุณจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งทางร่างกายเพื่อทำงานนี้ คุณจำเป็นต้องมีสิ่งนั้นเพื่อต่อสู้และเพื่อชนะ นั่นจะหายไปทีละน้อยตลอดชีวิตของคุณ แต่คุณชดเชยได้ด้วยประสบการณ์ คุณคาดหวังถึงปัญหา คุณเข้าใจอะไรมากขึ้น คุณเข้าใจนักเตะมากขึ้น แต่ผมคิดว่าผมจะยังอยู่ในวงการฟุตบอลต่อไปนะ อาจจะเป็นในฐานะประธานหรือทำงานอื่น

ซามูเอล : ปัญหาเรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับฟุตบอลแล้วนะครับ ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงท่าทีจากบอร์ดบริหาร ดูเหมือนพวกเขาจะสงวนท่าทีสำหรับเรื่องที่ว่าคุณมีเงินให้ใช้จ่ายมากแค่ไหน คุณขอให้พวกเขาทำแบบนั้นหรือเปล่า?

เวนเกอร์ : ผมคิดว่าพวกเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่านั่นทำให้ผมกดดันอย่างมหาศาลและไม่ช่วยอะไรเลย ถ้าจะพูดตรงๆ ผมคิดว่าพวกเขาก็ตกอยู่ภายใต้ความกดดันเหมือนกันตอนที่พวกเขาพูดอย่างนั้น เรามีรูปแบบเชิงเศรษฐกิจที่อธิบายได้ง่าย ตอนนี้เมื่อเราขายนักเตะออกไป เราก็มีเงินสำหรับซื้อนักเตะเข้ามา

ซามูเอล : ถ้าอย่างนั้นคุณก็คิดว่าอาร์เซนอลสามารถไปถึงเป้าหมายได้ด้วยโครงสร้างการเงินอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยไม่ต้องเชิญคนอย่างอลิเชอร์ อุสมานอฟเข้ามาจากข้างนอก?

เวนเกอร์ : ใช่ เรามีรูปแบบทางเศรษฐกิจที่ปฏิบัติได้จริงและจะได้ผลตราบเท่าที่เรายังรักษาทีมให้อยู่ในระดับบนต่อไปได้ ภายในหกหรือเจ็ดปี มันจะง่ายมากสำหรับเราในแง่การเงิน แต่นั่นไม่ใช่งานของผม บริษัทจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อพนักงานทุกคนทำงานที่เขาถูกจ้างมาให้ทำ

ซามูเอล : ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่ได้กดดันบอร์ดให้รับเงินจากภายนอก?

เวนเกอร์ : ผมยอมรับโครงสร้างของสโมสรตั้งแต่สี่ห้าปีก่อน ผมเชื่อว่ามันจะได้ผล และตอนนี้เราอยู่ในช่วงที่จะได้เห็นกันแล้วว่าผมคิดถูกหรือไม่ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ฤดูกาลนี้เป็นฤดูที่น่าสนใจมาก


เครดิต: มาร์ติน ซามูเอล
ที่มา http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-1206377/ARSENE-WENGER-INTERVIEW-The-transcript-Martin-Samuels-fascinating-meeting-Arsenal-manager--I.html

http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-1206363/ARSENE-WENGER-INTERVIEW-The-transcript-Martin-Samuels-fascinating-meeting-Arsenal-manager--II.html


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์