อาร์แซน เวนเกอร์ถูกแฟนตัวเองด่ายับหลังเปลี่ยนเอาอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามออกก่อนเสียท่าให้แดนนี่ เวลเบ็คกดประตูชัยแพ้คาบ้าน 2-1 ในนาที 81 ส่งปีศาจแดงตามแมนฯซิตี้เหลือ 3 แต้มส่วนปืนใหญ่แพ้รวด 3 นัดอยู่ที่ 5 ตามเดิม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2555
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 
อาร์เซน่อล 1:2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู : 0-1 วาเลนเซีย น.45, 1-1 ฟาน เพอร์ซี่ น.71, 1-2 เวลเบ็ค น.81
นัดนี้เจ้าบ้านอาร์เซน่อลได้แฟร์มาเล่นกลับมาเล่นได้แล้วจากที่ต้องลุ้นว่าฟิตทันหรือไม่ ส่วนอองรีที่มีข่าวเจ็บก็ไม่มีชื่อในเกมนี้เลย ส่วนแชมเบอร์เล่นจะได้ลงมาลากริมเส้นแทนอาชาวินในเกมนี้ ด้านฟอร์มการเล่นในบ้าน 5 นัดหลังพวกเขายังไม่แพ้ใครโดยชนะ 3 เสมอ 2 ด้วยกันแต่ฟอร์มโดยรวม 2 เกมหลังที่ผ่านมาพวกเขาแพ้มาทั้ง 2 เกม
ทีมเยือนแมนฯ ยูไนเต็ดไม่มีเฟอร์ดินานด์ในเกมรับวันนี้โดยจะเป็นสมอลลิ่งที่หายมาคู่กับอีแวนส์ เช่นเดียวกับโจนส์ที่หายมายืนแบ็คขวาเช่นกันและตรงกลางก็มีกิ๊กส์จับคู่กับคาร์ริค ส่วนฟอร์มเกมเยือน 5 นัดหลังพวกเขาชนะมา 4 นัดก่อนมาพลาดให้นิวคาสเซิ่ลในที่แล้ว แต่นัดแรกที่ทั้งสองทีมเจอกันในช่วงต้นฤดูกาลพวกเขาก็ถล่มมาถึง 8-2 เลย
ครึ่งแรก
ปืนใหญ่ขอทักทายก่อน
เปิดฉากเริ่มเกมกันมาทั้งสองฝ่ายผลัดกันบุกเข้าใส่เลยแต่ก็เรียกว่าไม่ผลีผลามกันมากนักโดยปืนใหญ่มีโอกาสได้ลองดูก่อนจากการยิงไกลของแรมซี่ย์แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากของลินเดการ์ดรับเข้าซองไปได้
วัลคอตต์ลองส่องอีกยังไม่เป็นผล
เกมผ่าน 10 นาทีแรกมาแล้วโดยเจ้าบ้านได้ครองบอลเป็นส่วนใหญ่แต่ไม่ได้ลุ้นอะไรมากโดยมีโอกาสได้ลองยิงไกลอีกทีจากวัลคอตต์แต่บอลก็ยังเข้าซองลินเดการ์ดอยู่ 
ผีเซ็ง!โจนส์โดนหามลงเปล
แต่นาที 17 ปิศาจแดงเรียกว่าเจอข่าวร้ายเลยหลังโจนส์ไปลื่นในจังหวะตามประกบวัลคอตต์จนเล่นต่อไม่ไหวหามลงเปลทำให้ราฟาเอลต้องลงสนามมาแทน
ผีได้ครองบอลบุกใส่บ้าง
แมนฯ ยูไนเต็ดมาได้ครองบอลบุกเข้าใส่บ้างแต่จังหวะจบจังๆนั้นยังหาไม่เจอเลยโดยมีลุ้นจากลูกครอสของนานี่ให้เวลเบ็คโหม่งเช็ดไปเสาสองก็เข้าไม่ถึง ครั้นถึงคราวกิ๊กส์หลุดมาทางขวาจะปาดไปหน้าประตูก็ยังโดนเซสนี่ดักไว้ได้
วัลคอตต์ยิงขึ้นฟ้า...
ปืนใหญ่มามีโอกาสจบอีกแล้วจากแชมเบอร์เลนที่วิ่งไปเก็บบอลสุดเส้นหลังทางขวาก่อนโชว์ทักษะหนึ่งต่อหนึ่งหนีเอฟร่ามาได้แล้วจ่ายให้วัลคอตต์ได้ยิงแบบไม่ต้องจับแต่ก็ไร้ความแม่นยำยิงห่างไปเยอะ
แลกคนละที!เวลเบ็คหลุดมายิงก็ไม่ใกล้เคียง
ผลัดกันแลกคนละหมัดเลยช่วงนี้และเป็นคิวของเวลเบ็คบ้างที่จ่ายให้กับวาเลนเซียก่อนปีกซ้ายพิการจะดีดไซร้ก้อยขึ้นหน้าด้วยขวาให้เวลเบ็คสปีดไปเก็บบอลหลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงโดนกอสเซียลนี่พัวพันเลยยิงไปไหนไม่รู้
เซสนี่ยังไว!นานี่ยิงยัดเสาแรกโดนปัด
เข้านาที 35 ปิศาจแดงเดินเกมบุกแหลกแล้วมีโอกาสน่าได้ประตูเหมือนกันจากนานี่ที่จ่ายให้เอฟร่าแตะบอลหนีฉูรูไปจนสุดเส้นหลังก่อนจะปาดกลับมาให้นานี่ยิงแบบไม่ต้องจับหวังเสียบโคนเสาแรกแต่เซสนี่ยังล้มตัวปัดเอาไว้ทัน
นานี่มีโอกาสแต่ทำไม่ดี
ท้ายครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ดมีโอกาสอีกแล้วจากการวางบอลยาวมาตั้งแต่แดนตัวเองออกมาทางซ้ายให้กับนานี่ที่สปีดไปแตะบอลได้ก่อนหน้าฌูรูหลุดเข้าเขตโทษไปก่อนจะเลือกยิงแต่เหมือนกั๊กๆบอลเลยไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่ไปออกเสาไกล
ถูกเวลา!วาเลียเซียโขกพาผีขึ้นนำ
แต่ปิศาจแดงมาได้ประตูถูกเวลาจริงๆจากทดเจ็บครึ่งแรกเป็นจังหวะบอลเคลียร์มาเข้าทางคาร์ริคจ่ายให้กับนานี่ทางซ้ายก่อนจะแตะต่อให้กิ๊กส์ได้ตั้งป้อมเปิดไปเสาไกล ถึงทางวาเลนเซียโถมมาโขกบอลสวนไปนอนก้นตาข่ายที่เสาไกล ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดนำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0
ครึ่งหลัง
ละละเหลือเชื่อ!ปืนส้มหล่นแต่RVPยิงไม่เข้า
ส้มเข่งใหญ่ทำพลาดหน้าตาเฉยเลยสำหรับปืนใหญ่ที่โอกาสตีเสมอมาแล้วในนาที 50 จากสมอลลิ่งที่ดันจับบอลลื่นเจอโรซิคกี้วิ่งมาฉกก่อนพาบอลตะลุยเข้าเขตโทษไปแล้วหักกลับมาตรงกลางให้กับฟาน เพอร์ซี่ตั้งท่าจะยิงแต่เลือกแตะหลอกอีแวนส์ทีก่อนจะสับไกแต่ดันยิงหลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ
เกือบอีกแล้ว!แรมซี่ย์ยิงข้ามคานนิดเดียว
ปืนใหญ่มาหนักแล้วน่าได้ประตูอีกแล้วจากแชมเบอร์เลนที่ได้บอลทางริมเส้นซ้ายก่อนจะเลี้ยงจี้ใส่ราฟาเอลก่อนจะเลือกจ่ายเข้ากลางให้แรมซี่ย์สอดมาแตะหนีแนวรับผีมาทีนึงแล้วกดด้วยซ้ายแต่ก็ข้ามคานออกหลังไปอีก 
โรซิคกี้ยิงติดบล็อกฟ้องเอาแฮนด์บอล
เจ้าบ้านบุกมาได้ลุ้นอีกแล้วจากฟาน เพอร์ซี่ที่ค่อยๆไถบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนจะเปิดกลับมาให้แรมซี่ย์ไม่ได้ยิง หลุดถึงโรซิคกี้ล้มตัวซัดแต่บอลติดบล็อกเอฟร่าซึ่งแข้งปืนก็พ้องกันเกรียวว่าลูกนี้น่าจะโดนแขน
ปืนเสียววาบ!แพร์สกัดลูกยิงโก๋แดนหวุดหวิด
นาที 64 เจ้าบ้านบุกๆเพลินใจหายวาบเลยหลังจากจังหวะเตะเปิดเกมของทางอาร์เซน่อลเอง เจอโหม่งสวนมาแล้วกลายเป็นเวลเบ็คที่วิ่งแซงแมร์เตซัคเกอร์ไปดวลกับเซสนี่เลือกจิ้มบอลข้ามตตัวไป บอลกลิ้งหลุนๆจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่แมร์เตซัคเกอร์ยังวิ่งมาสไลด์ออกไปหวุดหวิด
เขาคนเดิม!RVP จัดการให้ปืนตีเสมอ
นาที 71 ปืนใหญ่ใช้ลูกโต้กลับทวงประตูคืนจนได้ราฟาเอลที่ลุยขึ้นไปจนสุดก่อนเจอกอสเซียลนี่ดักเอาไว้แล้วจ่ายไปตรงกลางให้กับโรซิคกี้เปิดยาวออกมาทางซ้ายให้กับแชมเบอร์เลนเลี้ยงตัดเข้าในแล้วจ่ายตัดให้ฟาน เพอร์ซี่โฉบมายิงหักข้อลอดขาอีแวนส์ ลินเดการ์ดพยายามจะล้มตัวปัดแล้วแต่โดนนิดเดียวบอลเลยยังแรงพอที่จะเสียบเสาไกล อาร์เซน่อลตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ
ป๋า,เหี่ยวแก้เกมกันใหญ่
ทั้งสองฝ่ายแก้เกมยกใหญ่เลยหลังเวนเกอร์ถอดแชมเบอร์เลนออกแล้วส่งอาชาวินมาแทนตามมากับร้องกร่นด่าจากแฟนๆ ส่วนเฟอร์กูสันก็ต้องเปลี่ยนนนานี่ออกเพราะเจ็บ ตามด้วยราฟาเอลที่เป็นตัวสำรองยังโดนเปลี่ยนอีกให้ปาร์คลงมาแทน
วัลคอตต์โฉบเล่นบอลมีสลบเล็กน้อย
ปืนใหญ่ยังได้บุกมากว่ามีโอกาสได้ประตูขึ้นนำด้วยจากจังหวะเปิดเข้ากลางมาให้วัลคอตต์กระโดดแหย่เท้ามาแต่ลินเดการ์ดยังตัดบอลได้ จังหวะล้มหน้าวัลคอตต์ไปฟาดกับพื้นทำเอาสลบไปพักนึงแต่ก็ยังลุกมาได้
เด็ดขาด!โก๋แดนซัดผีขึ้นนำอีกรอบ
แล้วนาที 81 ปิศาจแดงเรียกว่าเด็ดขาดแบบสุดเพราะแม้จะมีโอกาสน้อยแต่ทำได้ประตูจากบอลยาวมาทางขวาให้กับวาเลนเซียพาบอลจากริมเส้นเข้าไปในเขตโทษก่อนจะทำชิ่งกับเวลเบ็คหลุดไปหน้าประตูมีอาชาวินมาบัง แต่ปีกเล็บขบก็ใจกว้างยิ่งกว่าแม้น้ำแยงซีเกียงเลือกจ่ายให้เวลเบ็คได้อัดเต็มข้อกลางประตู แมนฯ ยูไนเต็ดกลับมานำอีกครั้ง 2-1
ทดเจ็บปืนใหญ่ยังได้ลุ้น
ทดเจ็บ5 นาทีปืนใหญ่มีโอกาสเฮือกสุดท้ายจากลูกเปิดเข้ามาแล้วแมร์เตซัคเกอร์ขึ้นสูงสุดได้โขกแต่ก็ติดตัวทางอีแวนส์ก่อนจะเป็นลินเดการ์ดที่เก็บบอลได้ทัน
จบเกมเป็นอันว่าแมนฯ ยูไนเต็ดยังคงย้ำแค้นบุกมาเอาชนะอาร์เซน่อลไปได้ 2-1 ทำให้พวกเขายังรักษาความห่าง 3 แต้มกับแมนฯ ซิตี้ต่อไปได้ ส่วนทางเจ้าบ้านจะยังมีแต้มห่างกับเชลซีอันดับ 4 เท่าเดิมที่ 5 คะแนน
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : วอจเชียจ เซสนี่, โลรองต์ กอสเซียลนี่
, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โทมัส แฟร์มาเล่น, โยฮัน ฌูรู (เยนนาริส น.45), โทมัส โรซิคกี้, อเล็กซ์ ซง, อารอน แรมซี่ย์ (ชู ยอง น.84), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (อาชาวิน น.74), ธีโอ วัลคอตต์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : มานูเอล อัลมูเนีย, ยอสซี่ เบนายูน, เซบาสเตียน สกิลลาชี่, อิกนาซี่ มิเกล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, จอห์นนี่ อีแวนส์, คริส สมอลลิ่ง, ปาทริช เอฟร่า, ฟิล โจนส์ (ราฟาเอล น.17 (ปาร์ค น.77)), ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, นานี่ (สโคลส์ น.75), อันโตนิโอ วาเลนเซีย, แดนนี่ เวลเบ็ค, เวย์น รูนี่ย์
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ดาวิด เด เกอา, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
