เบื้องหลังความสำเร็จของ คอสตาริกา ม้ามืดผู้มอบความตายให้แก่อดีตแชมป์โลก

เบื้องหลังความสำเร็จของ คอสตาริกา ม้ามืดผู้มอบความตายให้แก่อดีตแชมป์โลก

เบื้องหลังความสำเร็จของ "คอสตาริกา" ม้ามืดผู้มอบความตายให้แก่อดีตแชมป์โลกในกรุ๊ป ออฟ เดธ

 

คอสตาริกา เป็นทีมในกลุ่มดี หรือ "กรุ๊ป ออฟ เดธ" ของศึกเวิร์ลด์ คัพ 2014 เพียงทีมเดียว ที่ไม่เคยคว้าถ้วยแชมป์โลก เกียรติประวัติที่ดีที่สุดของพวกเขา ก็คือ การผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลี

แต่ไปๆ มาๆ พวกเขากลับเอาชนะได้ทั้งอุรุกวัยและอิตาลี ในสองนัดแรกของฟุตบอลโลกครั้งนี้ จนกลายเป็นทีมแรกของ "กลุ่มแห่งความตาย" ที่ทะลุเข้าสู่รอบสอง ทั้งยังส่งผลให้ต้องมีอดีตแชมป์โลกถึง 2 ทีม ซึ่งจะกระเด็นตกรอบแรก (แน่น่อนว่า หนึ่งในนั้น คือ ทีมสิงโตคำราม อังกฤษ)

ก่อนหน้าฟุตบอลโลกที่บราซิลจะเริ่มเปิดสนาม สมาคมฟุตบอลคอสตาริกามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าทีมชาติชุดนี้ คือทีมที่ดีที่สุดของพวกเขา ตั้งแต่เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมา

ขณะที่ทีมชาติคอสตาริกา ชุดลุยฟุตบอลโลกปี 2002 และ 2006 มีนักเตะเพียงแค่ 3 จาก 23 ราย ที่มีประสบการณ์ในการออกไปเล่นกับลีกนอกประเทศ

แต่ทีมชาติคอสตาริกา ชุดลุยฟุตบอลโลก 2014 กลับมีผู้เล่นถึง 14 ราย ที่เล่นอยู่ในลีกต่างชาติ โดยมี 11 คน ที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสรในทวีปยุโรป

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ กุนซือชาวโคลัมเบีย ของคอสตาริกา ต้องประสบกับโชคร้าย เมื่อถูกโจรทุบรถยนต์ส่วนตัว ขณะที่เขาไปรับประทานอาหารในภัตตาคารแห่งหนึ่ง "ของมีค่า" ที่ถูกโจรกรรมไปมีทั้งมุดโทรศัพท์ที่ปินโต้ใช้งานและพกพามา 20 ปี รวมถึง ไอแพด ที่เขาใช้เขียนหนังสือและบันทึกความทรงจำว่าด้วยการประกอบอาชีพโค้ชฟุตบอลของตนเอง

แต่ปินโต้ก็สามารถเขียนความทรงจำหน้าใหม่ของตนเองขึ้นได้สำเร็จที่บราซิล ในอีก 2 เดือนต่อมา

โค้ชชาวโคลัมเบีย เลือกสต๊าฟโค้ชมาร่วมงานอย่างพิถีพิถัน ในทีมงานของเขา มีรายชื่อของ "เปาโล วันโชเป้" สุดยอดดาวซัลโวของคอสตาริกา ซึ่งยิง 45 ประตู จากการลงเล่นให้ทีมชาติ 73 นัด แถมยังเคยมีประสบการณ์ค้าแข้งกับหลายสโมสรดังในอังกฤษ

นอกจากนั้น ยังมี "หลุยส์ มาริน" ที่มีดีกรีติดทีมชาติถึง 130 ครั้ง ส่วนโค้ชผู้รักษาประตู ก็เป็น "หลุยส์ กาเบล่า คอเนโฆ" ซึ่งมีดีกรีติดทีมชาติ 40 นัด และเคยโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบในศึกอิตาเลีย 90

มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ทีมงานผู้ฝึกสอนของทีมชาติคอสตาริกาชุดนี้ เป็นทีมงานที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์การเป็นนักเตะตัวแทนทีมชาติ ที่เคยลงฟาดแข้งในศึกฟุตบอลโลกมาแล้วทั้งสิ้น

นี่อาจเป็น "อารมณ์ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์" ที่สืบทอดมาสู่นักฟุตบอลรุ่นหลังในปี 2014

ไม่ใช่แค่นั้น เซลโซ่ บอร์เกส มิดฟิลด์ของทีมชาติคอสตาริกาชุดนี้ ยังมีคุณพ่อที่เป็นผู้เล่นทีมชาติชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 1990 เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สมาชิกคนอื่นๆ ของทีมก็ไม่ได้มีเกียรติประวัติหรือภูมิหลังอันสูงส่งไปเสียทั้งหมด

ผู้เล่นจำนวนมากของทีมชาติคอสตาริกาชุดนี้ค้าแข้งอยู่กับสโมสรที่ทำได้อย่างมากก็แค่การลงเตะในรอบแรกของศึกยูโรป้าลีก

ศูนย์หน้าอย่างแรนดอลล์ เบรเนส ถึงกับต้องเคยหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพนักงานถ่ายเอกสาร

ขณะที่นักเตะในทีมอีก 3 ราย รวมทั้งโจเอล แคมป์เบลล์ ดาวรุ่งจากอาร์เซนอล พยายามซื้อสติ๊กเกอร์รูปนักเตะที่จะลงแข่งในเวิร์ลด์คัพ 2014 ของ "ปานินี่" มากล่องแล้วกล่องเล่า เพียงเพราะอยากจะเจอสติ๊กเกอร์ที่มีรูปของพวกตนปรากฏอยู่

แต่ท้ายสุด โชคชะตาของพวกเขาก็ถึงคราวโชติช่วงในฟุตบอลโลกหนนี้

ปินโต้ มีโชเซ่ มูรินโญ่ ยอดกุนซือของเชลซี เป็นแบบอย่าง เขาพยายามสร้างทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่น และมีเกมโต้กลับที่แคล่วคล่องเฉียบคม ตามแนวทางของโค้ชผู้ยิ่งใหญ่ชาวโปรตุกีส

แต่คำถามของมูรินโญ่ที่ปรากฏผ่านสื่อว่า หลังจากพลิกล็อกเอาชนะอุรุกวัยได้แล้ว คอสตาริกายังมีดีพอที่จะเอาชนะอิตาลีได้อีกหรือไม่ ก็สร้างความผิดหวังให้แก่ปินโต้อยู่มิใช่น้อย

ทว่า ในที่สุด ยอดกุนซือชาวโคลัมเบีย ก็นำลูกทีมชาวคอสตาริกาของเขาเอาชนะอดีตแชมป์โลก 4 สมัย และผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ของฟุตบอลโลกหนนี้ได้อย่างสง่างาม

(เรียบเรียงข้อมูลจาก บีบีซี)

เบื้องหลังความสำเร็จของ คอสตาริกา ม้ามืดผู้มอบความตายให้แก่อดีตแชมป์โลก


เบื้องหลังความสำเร็จของ คอสตาริกา ม้ามืดผู้มอบความตายให้แก่อดีตแชมป์โลก


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์