เบนเซม่ายิงเบิ้ลช่วยฝรั่งเศสถล่มฮอนดูรัส10คน

เบนเซม่ายิงเบิ้ลช่วยฝรั่งเศสถล่มฮอนดูรัส10คน



"เบนเซม่า"ยิงเบิ้ลช่วยฝรั่งเศสถล่มฮอนดูรัส10คน

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่สนามเอสตาดิโอ ไบร่า-ริโอ เมือง ปอร์โต้ อเลเกร ประเทศบราซิล เป็นการแข่งขันในกลุ่มอี ฝรั่งเศส พบ ฮอนดูรัส
 
 โดยเกมนี้ ฝรั่งเศส มาในระบบ 4-3-3 ผู้เล่น 11 คนแรกประกอบด้วย ฮูโก้ โยริส, มาติเยอ เดอบูชี่, พาทริช เอวร่า, ราฟาเอล วาราน, มามาดู ซาโก้, โยฮัน กาบาย, มาติเยอ วัลบูเอน่า, คาริม เบนเซม่า, อองตวน กริซมันน์, แบลส มาตุยดี้, พอล ป๊อกบา
 
 ด้าน ฮอนดูรัส ใช้ 4-4-2 ส่ง โนเอล วัลลาดาเรส, เมย์นอร์ ฟิเกอรัว, วิกเตอร์ เบอร์นาร์เดซ, เอมิลิโอ อิซากุยเร่, วิลสัน ปาลาซิออส, เจอร์รี่ เบงค์สัน, คาร์โล คอสต์ลีย์, โรเจอร์ เอสปิโนซ่า, แอนดี้ นาจาร์, หลุยส์ การ์ริโด้, บรายัน เบ๊กเคเลส ลงสนาม  ส่วนผู้ตัดสินเป็น ซานโดร ริคกี้ ชาวบราซิล

 เริ่มเกม เป็นฝรั่งเศสที่ดาหน้าบุกเข้าใส่ฮอนดูรัสอย่างต่อเนื่อง ชนิดฮอนดูรัสไม่สามารถตั้งเกมได้ นาที 14 ฝรั่งเศส ได้ลูกฟรีคิก บริเวณริมเขตโทษด้านขวา วัลบูเอน่า รับหน้าที่เปิดไปที่กลางประตู เจอร์รี่ เบงต์สัน แข้งฮอนดูรัส โหม่งสกัดมาเข้าทาง แบลส มาตุยดี้ ที่ยืนรออยู่บริเวณจุดโทษ ก่อนซัดด้วยซ้าย แต่วัลลาดาเรส นายทวารฮอนดูรัส โชว์ซูเปอร์เซฟปัดชนคานออกหลังไปได้ 
 
 จากนั้นยังเป็นฝรั่งเศสที่สร้างโอกาสทำประตูอยู่ข้างเดียวนาที 21 วัลบูเอน่า ทำชิ่งกับ เบนเซม่า กองหลังฮอนดูรัสสกัดบอล เด้งออกมาเข้าทาง โยฮัน กาบาย ที่วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดออกไปไกล ถัดมา 1 นาที พาทริช เอวร่า พาบอลมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนเปิดด้วยซ้ายมาหน้าประตูให้ อองตวน กริซมันน์ ขึ้นโหม่งเต็มหัว แต่บอลชนคานอย่างหน้าเสียดาย นาที 24 ฝรั่งเศส น่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ กริซมันน์ แทงบอลทะลุช่อง จากกลางสนามผ่านไปถึง วัลบูเอน่า ที่วิ่งไปรับบอลในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนเปิดไปให้ คาริม เบนเซม่า ขึ้นโหม่งโล่งๆคนเดียวหน้าประตู แต่ดันบอลเหินข้ามคานออก

 จากนั้นเกมเริ่มเดือดขึ้นเมื่อ พอล ป๊อกบา ถูก ปาลาซิออส และเอสปิโนซ่ 2 ผู้เล่น ฮอนดูรัส รุ่มแย่งบอลบริเวณกลางสนาม ก่อนที่ ป๊อกบา และปาลาซิออส จะมีการปะทะกัน ทำให้ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายต้องกรูกันเข้ามา สุดท้าย ผู้ตัดสินตัดสินใจ ให้ใบเหลืองทั้ง ป๊อกบา และปาลาซิออส 

 เกมยังคงดำเนินไปโดยที่ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่อยู่ข้างเดียวจนกระทั่งนาที 42 โยฮัน กาบาย โยนบอลยาวจากกลางสนาม เข้ามาในกรอบเขตโทษ ป๊อกบา กระโดดพักอกเอาบอลลงพื้น แต่ถูกปาลาซิออส ผู้เล่นฮอนดูรัส วิ่งเข้ามากระแทกด้านหลังล้มลง ผู้ตัดสินไม่รอช้า เป่าให้จุดโทษแก่ฝรั่งเศส พร้อมควักใบเหลือที่ 2 ให้ปาลาซิออส เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม แล้วเป็น คาริม เบนเซม่า ที่รับหน้าที่สังหารไปทางซ้ายของตัวเองเข้าประตูให้ จบครึ่งแรก ฝรั่งเศส ออกนำ ฮอนดูรัส 1-0 

 ครึ่งหลัง หลุยส์ เฟอร์นันเดซ กุนซือฮอนดูรัส ปรับหมากโดยส่ง โบเนียก การ์เซีย ลงสนามแทน เจอร์รี่ เบงต์สัน และ ออสมัน ชาเวช ลงแทน วิกเตอร์ เบอร์นาร์เดซ แต่รูปเกมก็ยังไม่เปลี่ยน เป็นฝรั่งเศสที่มีผู้เล่นมากกว่าสร้างจังหวะลุ้นประตูอย่างต่อเนื่อง จนนาที 48 โยฮัน กาบาย เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวา เข้ามาที่เสาสอง ให้เบนเซม่า ที่วิ่งมารับบอลแปด้วยซ้าย สวนทางไปที่เสาไกล ก่อนบอลจะชนเสา เด้งกลับมาแฉลบ วัลลาดาเรส ผู้รักษาประตูฮอนดูรัส ข้ามเส้นเข้าประตูไป แม้ผู้เล่นฮอนดูรัส จะเข้ามาประท้วงผู้ตัดสินว่าบอลยังไม่ข้ามเส้นประตู แต่หลังจากที่ใช้เทคโนโลยีโกล์ไลน์ ที่ใช้ตรวจสอบการข้ามเส้นของลูกบอล ก็พบว่าลูกบอลข้ามเส้นไปแล้ว ทำให้ฝรั่งเศสหนีห่างเป็น 2-0 โดยฟีฟ่าให้เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ วัลลาดาเรส

 แม้นำห่างถึง 2 ประตูแต่ฝรั่งเศสยังไม่ลดละที่จะเปิดเกมบุก นาทีที่ 54 อองตวน กริซมันน์ ทำชิ่งกับ ป๊อกบา หลุดไปถึงสุดเส้นหลังด้านซ้าย ก่อนเปิดไปให้เบนเซม่า ที่ยืนอยู่โล่งๆหน้าประตู จับหนึ่งจังหวะแล้วยิงด้วยขวา แต่บอลยังไปตรงตัว วัลลาดาเรส ถัดมา 1 นาที ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือฝรั่งเศส เริ่มปรับแผนบ้าง โดยส่ง มุสซ่า ซิสโซโก้ ล่งแทน พอลป๊อกบา จากนั้นนาที 57 ฮอนดูรัสจึงปรับแผนอีก โดยส่ง ฮอร์เก้  คาร์ลอส สำรองคนสุดท้ายลงแทน แอนดี้ นาจาร์

 ฝรั่งเศสยังสร้างโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง นาที 62 เอวร่า พาบอลหลุดมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนปาดเข้ากลางให้ มาตุยดี้ วิ่งสอดขึ้นมาแปไปที่เสาแรก แต่บอลเข้าข้างตาข่าย ถัดมานาทีเดียว เดส์ชองส์ ปรับแผนอีกครั้ง โดยส่ง ริโอ มาวูบาย ลงมาแทน โยฮัน กาบาย 

 ยังคงเป็นทีมตราไก่ ที่เดินหน้าบดเข้าใส่ฮอนดูรัสฝ่ายเดียว นาที 71 ฝรั่งเศสได้ฟรีคิกบริเวณริมเขตโทษด้านขวา วัลบูเอน่า เปิดเลียดย้อนกลับไปนอกกรอบเขตโทษ ให้ เดอบูชี่ วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งติดบล็อกผู้เล่นฮอนดูรัสมาเข้าทางเบนเซม่า จับหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวาแสกหน้าวัลลาดาเรา นายทวารฮอนดูรัส เข้าไปอย่างสวยงาม ให้ฝรั่งเศส นำห่าง 3-0 จากนั้นนาที 77 ฝรั่งเศส จึงเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย โดยเอา วัลบูเอน่า ออกแล้วส่ง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ลงมาแทน

 ช่วงเวลาที่เหลือฮอนดูรัสยังไม่สามารถตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ เป็นฝรั่งเศสที่ผู้เล่นมากกว่า เปิดเกมบุกและสร้างโอกาสทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายยังทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบ 90 นาที ฝรั่งเศส ถล่ม ฮอนดูรัส 3-0 

เบนเซม่ายิงเบิ้ลช่วยฝรั่งเศสถล่มฮอนดูรัส10คน


เบนเซม่ายิงเบิ้ลช่วยฝรั่งเศสถล่มฮอนดูรัส10คน


เบนเซม่ายิงเบิ้ลช่วยฝรั่งเศสถล่มฮอนดูรัส10คน


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์