โจเซ่ มูริญโญ่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ตัวเขาเอง ด้วยการพาทีมอินเตอร์ มิลานคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ หลังจากเอาชนะบาเยิร์น มิวนิคไปได้ 2-0 จากการทำประตูของดิเอโก้ มิลิโต้หัวหอกสุดคมทั้งสองลูก ทำให้พวกเขาเถลิงแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีกเป็นสมัยที่ 3 ได้อย่างยิ่งใหญ่
ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเิลิศ
วันเสาร์ที่ 22 พฤษาคม 2553
บาเยิร์น มิวนิค 0 - 2 อินเตอร์ มิลาน
ประตู : 0-1 ดิเอโก้ มิลิโต้ น.33,0-2 ดิเอโก้ มิลิโต้ น.70
เปิดตัวสุดอลังการ-เสือใต้ไร้ริเบรี่,งูใหญ่ขาดม็อตต้า
ศึกชิงชนะเลิศแชมป์เปี้ยนส์ ลีกเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการโชว์สุดอลังการก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้น
บาเยิร์น มิวนิคจะไม่มีฟร้องค์ ริเบรี่ที่ติดโทษแบน หลังจากไปโดนแบนแดงในรอบรองชนะเลิศ ฟาน กัลล์จึงเลือกใช้อัลตินทอปลงเล่นแทน ส่วนทางอินเตอร์ มิลานไม่มีธิเอโก้ ม็อตต้าที่โดนใบแดงจากรอบรองก่อนเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าทีมใดชนะในนัดนี้ ก็จะสามารถคว้าเทรเบิลแชมป์ได้เช่นเดียวกันทั้งคู่
ครึ่งแรก
ต่างฝ่ายต่างแลกหมัด
เริ่มเกมมาได้ 10 นาที ทั้งสองทีมต่างก็พยายามทำเกมบุกกันทั้งคู่ ต่างจากที่นักวิจารณ์ได้พูดกันไว้ก่อนเกมว่าน่าจะเล่นกันแบบระวัง ทำให้เกมสนุกตั้งแต่เริ่มเขี่ยบอลเลยทีเดียว
สไนจ์เดอร์ฟรีคิกได้ลุ้น
นาทีที่ 18 โอกาสยิงครั้งแรกของเกมแบบจัง ๆ ก็เกิดขึ้น ในจังหวะที่อินเตอร์ได้ฟรีคิกระยะไกล สไนจ์เดอร์ตัดสินใจยิงทันที บอลพุ่งแรงแฉลบผู้เล่นของบาเยิร์น ถึงอย่างนั้นทิศทางก็ยังคงพุ่งเข้าหาประตู แต่บุตต์พุ่งปัดเอาไว้ได้ทัน
งูกดสูตร
เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม อินเตอร์ มิลานเริ่มใ้ช้แผนที่ถนัดของพวกเขาเองในรายการนี้ โดยเน้นไปที่การคุมจังหวะเกม และตั้งรับ เพื่อหาโอกาสสวนกลับ ซึ่งทางบาเยิร์นได้ครองบอลมากกว่าโข แต่ยังหาจังหวะเข้าทำจัง ๆ ไม่ได้
มิลิโต้สุดยอดดดดดดดดดดดด!!!
นาีทีที่ 33 อินเตอร์ มิลานที่ทำเกมบุกได้น้อยกว่าก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะสวนกลับที่เซซาร์เปิดยาวขึ้นมา แล้วมิลิโต้โขกชให้สไนจ์เดอร์ ก่อนที่มิดฟิลด์ชาวดัตช์จะจ่ายทะลุช่องกลับคืนให้ ทำให้มิลิโต้หลุดเข้าไปยิงสวนบุตต์ตุงตาข่ายจากสวยงาม อินเตอร์ มิลานขึ้นนำไปก่อน 1-0
สไนจ์เดอร์ยิงติดเซฟ
นาทีที่ 43 อินเตอร์มาได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่มิลิโต้จ่ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ ให้สไนจ์เดอร์ที่วิ่งเติมเกมขึ้นมาได้ยิง แต่บอลพุ่งไปตรงตัวบุตต์ที่ออกมาบล็อกได้ทัน ไม่อย่างนั้นแล้วเกม 'พี่เสือ' อาจจะต้องเจองานหนักก็เป็นได้
จบ 45 นาทีแรก แม้ว่าเกมของทางบาเยิร์น มิวนิคจะดูดีกว่า เนื่องจากได้ครองบอลบุกค่อนข้างเยอะ แต่ก็โดนทีเด็ดในการสวนกลับของอินเตอร์ มิลานเล่นงาน จนทำให้ 'งูใหญ่' ออกนำไปก่อน 1-0
ครึ่งหลัง
พี่เสือเกือบตีเสมออย่างไว
เริ่มเกมมาได้ไม่กี่วินาที บาเยิร์น มิวนิคก็เกือบจะทำประตูตีเสมอได้ จากจังหวะที่อัลตินทอปจ่ายให้กับมุลเลอร์ได้ยิงในกรอบเขตโทษแบบเหน่ง ๆ แต่บอลพุ่งไปติดเซฟของทางเซซาร์ที่ยื่นขาสกัดเอาไว้ได้ หวาดเสียวดีแท้
เอาบ้าง!ปานเดฟซัด-บุตต์เซฟ
นาทีที่ 47 อินเตอร์ได้โอกาสคืนบ้าง จากจังหวะที่มิลิโต้ ไหลให้กับโกราน ปานเดฟได้ซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเหมือนกำลังจะเสียบใต้คาน แต่บุตต์ยังไว กระโดดปัดออกหลังไปได้
พี่เสือบุกหนัก
เข้าสู่หนึ่งชั่วโมงเต็มของเกม บาเยิร์นพยายามทำเกมบุกอย่างหนัก เพื่อหวังทวงประตูคืนให้ได้ แต่เกมทางริมเส้นทั้งสองข้างก็ต้องระวังโดนอินเตอร์สวนด้วย ทำให้ต้องพึ่งร็อบเบนในการทำเกมบุกค่อนข้างเยอะ
มุลเลอร์ยิงติดบล็อก
นาทีที่ 63 บาเยิร์นได้โอกาสอีกครั้งจากโธมัส มุลเลอร์ที่ไ้ด้ยิงเหน่ง ๆ จากจังหวะี่กองหลังอินเตอร์สกัดบอลออกมาไม่ดีนักในกรอบเขตโทษ แต่โดนคัมบิอัสโซ่พุ่งมาโหม่งสกัดเอาไว้ได้ทัน ซึ่งจังหวะนี้เซซาร์เสียตำแหน่งไปแล้ว ถ้าหากบอลผ่านมา เขาอาจจะกลับมารับไม่ทันก็เป็นได้ ทำเอาแฟน 'งูใหญ่' เสียวกันทั่วหล้า
ร็อบเบนกดสูตร-เซซาร์ปัดสวย
2 นาทีต่อมา เป็นโอกาสของร็อบเบนที่กดสูตรเฉพาะตัว เลี้ยงขึ้นทางด้านขวา ก่อนที่จะหักตัดเข้าใน แล้วบรรจงปั่นด้วยซ็าย บอลพุ่งโค้งอย่างสวยงาม และน่าที่จะเสียบเสาแน่นอน แต่เซซาร์พุ่งมาปัดมือเดียวได้อย่างสวยงาม
มิลิโต้เพอร์เฟ็คคคคคคคคคคคคคค
นาทีที่ 70 ดิเอโก้ มิลิโต้โชว์ทั้งเทคนิค และการยิงกันยอดเยี่ยม จากจังหวะอินเตอร์สวนกลับ โดยเอโต้จ่ายให้เขาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะเลี้ยงจี้เข้าหาฟาน บุยเต็น ทำท่าหลอกหักเข้ากลาง แต่สลับตัดออกข้าง ทำให้บุยเต็นเหวงจนสกัดวืดไป ทำให้เขาไ้ด้หลุดเข้าไปยิงด้วยซ็ายข้างถนัด สวนผ่านบุตต์เข้าไปอย่างสวยงาม มิลิโต้เบิ้ลพา 'งูใหญ่' นำห่าง 2-0
เสือใต้พยายามเต็มที่
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย บาเยิร์น มิวนิคไม่มีทางเลือกนอกจากต้องดาหน้าบุกใส่อินเตอร์ มิลานอย่างเต็มที่ แต่ก็เจอเกมรับอันแข็งแกร่งต้านทานเอาไว้ได้หมด
จบ 90 นาที อินเตอร์ มิลานเอาชนะบาเยิร์น มิวนิคไปได้ 2-0 ทำให้พวกเขาคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ ลีกไปได้ในรอบ 45 ปี และนี่ก็เป็นการคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้อีกด้วย
ซึ่งจากนั้นมูริญโญ่ยังสามารถคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้ 2 ครั้ง จากการคุมทีมที่ต่างกัน ซึ่งนั่นก็คือกับปอร์โต้ และอินเตอร์ มิลาน
นอกจากนั้นซามูเอล เอโต้ยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ได้ 2 ครั้ง กับ 2 สโมสร ซึ่งนั่นก็คือกับบาร์เซโลน่า และอินเตอร์ มิลานนั่นเอง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บาเยิร์น มิวนิค : ยอร์ก บุตต์,ดาเนีล ฟาน บุนเตน,มาร์ติน กาสตัน เดมิเชลิส,โอลเกอร์ บาดสตูเบอร์,ฟิลลิปป์ ลาห์ม,บาสเตียน ชไวสไตเกอร์,มาร์ค ฟาน บอมเมล,ฮามิต อัลทินทอป,อาร์เยน ร็อบเบน,โธมัส มุลเลอร์,อิวิก้า โอลิช
อินเตอร์ มิลาน : ฮูลิโอ เซซาร์,วอลเตอร์ ซามูเอล,ลูซิโอ,คริสเตียน คิวู,ไมค่อน,เอสเตบัน คัมบิอัสโซ่,ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ,อัลแบร์โต้ ดิเอโก้ มิลิโต้,เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์,โกราน ปานเดฟ,ซามูเอล เอโต้
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
