ดิเอโก้ มาราโดน่า กุนซือแมวน้ำได้เครดิตอีกอักโขเมื่อตัวผู้เล่นที่จัดลงอย่างมั่นใจเต็มร้อยโชว์ฟอร์มเยี่ยมหยุดเกมรุกอุรุกวัยได้หมด กระทั่งโบลัตติตัวสำรองลงมาซัดประตูชัยทำให้ ฟ้า-ขาว คว้าอันดับที่ 4 เข้ารอบฟุตบอลโลกอย่างเด็ดขาด ส่วน จอมโหด เจ้าบ้านไปเพลย์ออฟหลังอีกคู่ชิลีเอาชนะเอกวาดอร์ 1-0
ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2552
อุรุกวัย 0-1 อาร์เจนตินา
ประตู : มาริโอ โบลัตติ น.84
เสือเตี้ยเปลี่ยนจริงแค่ 3 คน จาก 4
รายชื่อที่โผล่ออกมาเมื่อวานนี้คือ เกือบของจริง เมื่อดิเอโก้ มาราโดน่าเปลี่ยน 3 ตำแหน่งคือส่งดิมิเคลิส , เวรอน และโอตาเมนดี้ลงมา แต่ที่ยังคงถูกส่งลงสนามแบบพลิกโผคืออังเคล ดิ มาเรีย มิดฟิลด์จอมพลิ้ว
งานนี้ต้องเช็คผลคู่ชิลี - เอกวาดอร์ไปด้วยเพราะมีผลกับคู่นี้โดยตรงเลย
ครึ่งแรก
อุรุกวัยโหดสมชื่อบุกแหลกใส่ฟ้า-ขาวก่อน
อุรุกวัยเจ้าบ้านที่แต้มเป็นรองต้องเดินเกมบุกแหลกตามคาดและก็สร้างความน่ากลัวให้กองหลังนุ่มนิ่มของอาร์เจนตินาได้ตลอด เริ่มมา 4 นาทีซัวเรซได้บอลทางขวาก่อนจ่ายทะลุตัดมาจะให้โรดริเกซวิ่งควบหลุดเดี่ยวไปจะถึงบอลอยู่แล้ว โรเมโร่ออกมาจะเตะทิ้งแต่ไปติดบล็อกโรดริเกซเด้งออกหลังไปนิดเดียว
ฟ้า-ขาวเกือบโดนอีก
กองหลังทีมเยือนน่าเป็นห่วงมากเพราะไม่ว่าจะโดนบุกแบบไหนก็ปล่อยให้เขาได้จบตลอด นาทีที่ 9 เป็นโรดริเกซเปิดฟรีคิกมาจากด้านขวา ก่อนเป็นสก็อตติที่หาช่องมาโขกเฉี่ยวเสาออกไป โดยกองหลังอาร์เจนฯที่คอยคุมอยู่ 2 คนเอาไม่อยู่
แดนหลัง..ความมั่นใจต่างกันเยอะ
เห็นรายชื่อตัวจริงแล้วพอลงสนามยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปใหญ่ เพราะหลังจากทั้งสองทีมบุกแลกกันในช่วง 20 นาทีแรก ก็เห็นความแตกต่างระหว่างกองหลังเจ้าบ้านกับทีมเยือนชัดเจน.. โดยจังหวะที่ ฟ้า-ขาว บุกมากองหลังอุรุกวัยจะเข้าเร็วและหนักตลอด ในขณะที่อุรุกวัยเจ้าบ้านบุกมาทีน่ากลัวแถมกองหลังอาร์เจนฯอย่างชิอาวี่ก็เคลียร์บอลชนิดเจียนไปเจียนอยู่ งานนี้คนรักเสือเตี้ยคงต้องลุ้นกันหนักๆหน่อยแล้ว เพราะศักยภาพตัวผู้เล่นต้องยอมรับว่าเป็นรองจริงๆ
คุมห่างแบบนี้น่าเป็นห่วงจริงๆ
กองหลังอาร์เจนฯผิดพลาดอีกแล้วในนาทีที่ 22 เมื่อเดมิเคลิสปล่อยพื้นที่ให้อัลบาโร่ เปไรร่าทางซ้ายมากเกินไป จนได้โอกาสซัดด้วยซ้ายแต่บอลหลุดกรอบไปเยอะ
ดิ มาเรียได้ยิงไกล
อาร์เจนตินาต้องรอจังหวะหลังเจ้าบ้านขึ้นสูงอย่างเดียวเลยได้สวนมา นาทีที่ 38 ดิ มาเรียที่รับภาระขึ้นเกมบุกตลอดครึ่งแรกได้เลี้ยงเลาะเข้าไปโล่งๆก่อนยิงไกลระยะประมาณ 20 กว่าหลาแต่บอลเข้ามือมุสเลร่า
จอมโหด เพรสซิ่งสูง
ผ่านมา 40 นาทีอาร์เจนตินาเริ่มตั้งเกมกันเป็นภาษามากขึ้นแต่ก็บุกขึ้นมาไม่ได้สูงเพราะอุรุกวัยเล่นเพรสซิ่งกันเร็วและหนักมากจนอิกัวอินที่เป็นกองหน้าต้องลงมาช่วยล้วงบอลไม่งั้นก็บุกต่อไม่ได้ ทางเดียวที่อาร์เจนฯจะแก้ปัญหาได้คือการเล่นบอลยาวแต่เท่าที่ดูตอนนี้ยังครอสบอลข้ามกันยังไม่แม่นเลย
ฟอร์ลันหาจังหวะยิงเฉี่ยวเสา
ผ่านมาทั้งครึ่งแต่ฟอร์ลันเพิ่งมาได้โอกาสยิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก โดยต้องล้วงมาเอาบอลจากเพื่อนก่อนแตะหนึ่งจังหวะและเสี่ยงดวงยิงแต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกไป
โดยรวมถือว่าทั้งคู่ยังคงเล่นกันแบบป้องกันตัว เน้นเพรสซิ่งและความแน่นอนเป็นหลักก่อนจบครึ่งแรกยังคงเสมอกันแบบสูสี 0-0.. ในขณะที่คู่ร่วมชะตาอย่างชิลี กับเอกวาดอร์ ก็ยังคง 0-0 เช่นกัน
ครึ่งหลัง
ฟอร์ลันลุยเองปั่นโค้งหลุดกรอบนิดเดียว
เมนหลักในเกมรุกของอุรุกวัยยังขึ้นกันที่ฟอร์ลัน โดยนาทีที่ 49 แข้งปิชิชี่ต้องลงมาล้วงบอลลึกเองอีกครั้งก่อนลุยเข้าไปและซัดไกลเล่นทางกะให้เข้าที่เสาแรกที่บอลเฉี่ยวออกไป
แฟนบอลเฮลั่นชิลีออกนำ 1-0
แฟนบอลร่วมใจเฮกันลั่นสนามอย่างไร้สาเหตุทันที เมื่อผลอีกคู่เป็นชิลีที่ขึ้นนำเอกวาดอร์ไปแล้ว 1-0 นั่นหมายความว่าหาผลอีกคู่จบลงแค่นี้ ผู้แพ้อย่างน้อยที่สุดก็จะได้ไปเพลย์ออฟแน่นอน
ซัวเรซได้เสียว
กองหลังอาร์เจนฯเริ่มเปิดพื้นที่นิดๆแล้ว นาทีที่ 63 หลุยส์ ซัวเรซรับบอลก่อนได้โอกาสปั่นด้วยขวาแต่บอลเบาเกินไปเข้ามือโรเมโร่
ยังไม่มีจังหวะ จังๆ ให้เห็น
เกมกำลังจะเข้ามาถึงนาทีที่ 70 แล้วแต่ยังคงเน้นกันที่การชิงจังหวะเป็นส่วนใหญ่.. แถมไม่มีใครโหมบุกเลยเพราะถ้าเสมอกันก็มีโอกาสกอดคอเข้ารอบสูง แต่จากแนวโน้มของเกมตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังมาเป็นอุรุกวัยที่มีโอกาสได้จบหลายครั้งกว่า แต่ยังไม่มีคุณภาพพอที่จะเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้
อุรุกวัยน่าได้จริงๆ
นาทีที่ 73 อุรุกวัยน่าได้ประตูขึ้นนำจริงๆ เมื่อฟอร์ลันเปิดฟรีคิกจากกราบซ้ายเข้ามา ก่อนที่ลูกาโน่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมได้สอดขึ้นมาโขกเสยโล่งๆ แต่บอลมันมาต่ำไปหน่อยเลยเล่นยาก บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
จอมโหดเดินเครื่องเต็มกำลัง-เสือเตี้ยอุดตัวงอ
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายอุรุกวัยเจ้าบ้านแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่อยากเพลย์ออฟ โดยส่งตัวรุกเน้นๆอย่างโรดริเกซและอาบรูลงมาค้ำด้านหน้า กะโจมตีจุดอ่อนที่ลูกกลางอากาศของอาร์เจนฯอย่างเดียว.. ในขณะที่มาราโดน่าคงหวังแค่ยันเสมอกลับบ้านจริงๆเพราะเปลี่ยนตัวรุกอย่างดิ มาเรียและอีกัวอินออก แล้วเติมมอนซอนกับโบลัตติซึ่งเน้นเกมรับ ลงไปแพ็คเกมแน่น คราวนี้จะพิสูจน์กันไปเลยว่าแผงหลังอันยวบยาบของฟ้า-ขาวจะยันเกมเกียร์ห้าของอุรุกวัยในช่วงท้ายอยู่หรือไม่??
2 คู่ 2 แดง
อีกคู่สถานการณ์ยิ่งแย่หนักเข้าไปใหญ่เมื่อเซกุนโด้ คาสติโญ่โดนไล่ออก ทำให้เอกวาดอร์เหลือแค่ 10 คน.. เปิดกลับมาที่สนามนี้ก็ไม่น้อยหน้าเมื่อคาเซเรสไปทำฟาว์ลโจนาสชัดเจน กรรมการชักใบเหลืองที่สองไล่ออกไป เจ้าบ้านเหลือ 10 คน
เตี้ยตัวลอยโบลัตติซัด 1-0 โอกาสลิ่วสูงแล้ว
ทั้งๆที่อุรุกวัยเล่นบุกเต็มสูบแต่สุดท้ายประตูสำคัญมาโผล่ฝั่งอาร์เจนตินาในนาทีที่ 84 เมื่อเมสซี่โยนฟรีคิกจากกราบขวาเข้ามา กองหลังอุรุกวัยพอโดนไล่ออกไปคนนึงก็หลวมโพรก ทำให้โบลัตติได้ลูกขลุกขลิกแล้วยิงด้วยขวาเล่นทางเข้าไป ฟ้า-ขาว นำ 1-0 พร้อมกับการชูมือขึ้นฟ้าประกาศศักดาของดิเอโก้ มาราโดน่า ที่คงจะอยากบอกเต็มแก่ว่า บอลโลกจ๋า..เตี้ยมาแล้ว !!
สก็อตติยิงเบาเป็นลูกโป่ง
โอกาสลุ้นครั้งท้ายๆของอุรุกวัยก็ปล่อยให้หลุดลอยไปอีก เมื่อสก็อตติกองหลังได้จับบอลในเขตโทษก่อนได้ยิงแต่บอลไหลเบาๆเข้ามือโรเมโร่
จบเกมอาร์เจนตินาขวัญใจมวลชนสมหวังเข้ารอบฟุตบอลโลกอย่าสวยงามด้วยการบุกมาเอาชนะ 1-0 และส่งอุรุกวัยผู้แพ้ไปเพลย์ออฟ ท่ามกลางเสียงร่ำไห้อย่างปิติของมาราโดน่าเป็นฉากจบ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อุรุกวัย : เฟร์นานโด มุสเลร่า , อันเดรส สก็อตติ
, ดิเอโก้ ลูกาโน่ , มาร์ติน คาเซเรส
, มักซี่ เปไรร่า , อัลบาโร่ เปไรร่า , ฮอร์เก้ โรดริเกซ(เอดิสัน คาวานี่ น.59) , วอลเตอร์ การ์กาโน่(คริสเตียน โรดริเกซ น.71) , ดิเอโก้ เปเรซ , หลุยส์ ซัวเรซ(เซบาสเตียน อาบรู น.78) , ดิเอโก้ ฟอร์ลัน อาร์เจนตินา : แซร์คิโอ โรเมโร่
, มาร์ติน ดิมิเคลิส , โรลันโด้ ชิอาวี่ , กาเบรียล ไฮน์เซ่ , กาเบรียล โอตาเมนดี้ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ , โจนาส กูเตียร์เรซ , อังเคล ดิ มาเรีย(ลูชาโน่ มอนซอน น.76) , ฮวน เซบาสเตียน เวรอน , กอนซาโล่ อิกัวอิน(มาริโอ โบลัตติ น.80) , ลิโอเนล เมสซี่(คาร์ลอส เตเบซ น.86) 
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
