เดินหน้าขวาง 5 แชมป์!!










เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งการคว้าแชมป์ 5 รายการของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

จำความได้ว่านั่นประโยคข้างบนเป็นวาทะที่หลุดออกมาจากปากของกุนซือที่ได้ชื่อว่ามากฝีมือที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนังโลกอย่าง กุส ฮิดดิ้งค์ นายใหญ่แห่งสโมสรเชลซี ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากแมตช์ที่พลพรรครักผีจัดการสอยแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ ด้วยชัยชนะเหนือ สเปอร์ส ไม่นาน
 

แรกเริ่มเดิมทีที่ได้อ่านประโยคดังกล่าวยอมรับลึกๆ ว่ามันคล้ายเป็นการกระตุ้นเตือนสตินักเตะเชลซีที่กำลังหงอยเหงาจากผลงานที่สามวันดีสี่วันไข้ของ ผู้จัดการทีมชาติรัสเซีย มากกว่า และจากประโยคดังกล่าวได้ถ่ายทอดออกไปพลังขับเคลื่อนของเชลซีได้หวนสิงสู่ร่างนักเตะอีกครั้ง
 

เห็นได้จากการที่เชลซีแทบจะไม่เหลือลุ้นแชมป์ลีกอยู่แล้วมาถึงตอนนี้พวกเขาเหลือแต้มตามหลังสองทีมนำอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ไม่มากแล้ว และคล้อยหลังจากประโยคปลุกใจสิงห์ ของฮิดดิ้งค์ไม่นานฟอร์มที่เคยเปรี้ยงปร้างเก็บชัยชนะต่อเนื่องเริ่มออกอาการสะดุดให้เห็น แม้ว่าปัจจัยหลักที่ทำให้ ผีแดง เสียดุลย์จะมาจากปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะกำลังหลักมากกว่าก็ตาม แต่มันส่งผลต่อสภาพจิตใจนักเตะสิงห์บลูส์อย่างกว้างขวาง
 

อย่างที่หลายท่านทราบว่า 5 แชมป์ในลิสต์ของปีศาจแดงนั้นเหลืออีกถึง 3 รายการและมันเป็นรายการที่ใหญ่มากๆ และทั้งสามรายการที่เหลือนั้นเชลซีล้วนแต่เข้ามามีเอี่ยวด้วยทั้งสิ้นน ไล่ตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก สิงโตน้ำเงินคราม ยังจ้องเขม็งคอยเป็น ตาอยู่ หยิบชิ้นปลามันในตอนท้าย
 

อีกรายเพิ่งผ่านการพิสูจน์ว่าเชลซีชั่วโมงนี้คือก้างขวางคอของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริงไม่ใช้สลิงแอนด์ตัวแสดงแทนแต่อย่างใดทั้ง นั่นคือฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์อย่าง เอฟเอ คัพ เกมเมื่อคืนแสดงออกถึงเชลซีที่น่าเกรงกลัวอีกครั้ง
 

เกมเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เชลซี เล่นได้ดีกว่าคู่แข่งอย่าง อาร์เซน่อล ค่อนข้างชัดเจน เพราะหลังจากเสียประตูให้ ปืนใหญ่ แบบไม่น่าเสีย เชลซี กลับเป็นฝ่ายครองเกมไว้แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะส่งนักเตะสำรองลงมาเล่นในตำแหน่งไหนล้วนแต่มีส่วนช่วยให้ทีมมีความหลากหลายมากขึ้น
 

โดยเฉพาะลูกยิงตีเสมอของ ฟลอร็องต์ มาลูด้า แสดงให้เห็นความเด็ดขาดในเกมรุกด้วยการใช้พื้นที่ว่างหนีตัวประกบที่ยอดเยี่ยมของ มาลูด้า และการดึงความสนใจจากกองหลังของ ดร็อกบา รวมถึงการจบสกอร์ที่แม่นยำคมกริบ
 

ยิ่งลูกยิงปิดท้ายนั้นต้องขอซูฮกต่อความเด็ดขาดในเกมรุกอย่างชัดเจน และที่ต้องปรบมือให้คือเกมรับที่แข็งแกร่งเหลือหลายพวกเขาไล่บีบพื้นที่จนเกมรุกของปืนโตเจาะไม่เข้าก่อนแย่งบอลกลับมาอย่างรวดเร็ว เหนือสิ่งอื่นใดต้องชมไหวพริบของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ตวัดยาวมาให้ ดร็อกบา เบียดชนะ มิกกาแอล ซิลแวสต์ ก่อนแตะบอลหลบ ฟาเบียนสกี้ ยิงให้ทีมชนะอย่างเร้าใจพร้อมเข้าไปรอชิงชนะเลิศเรียบร้อย
 

ในขณะที่รายการยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก การที่เจอทีมอย่าง บาร์เซโลน่า แม้ว่าไม่ง่ายแต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น โดยเมื่อเปรียบเทียบแต่ละตำแหน่งแล้ว เชลซี ยังดูดีกว่า บาร์เซโลน่า เสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นกองหลังที่แข็งแกร่งกว่า ประตูที่ดูแล้วเหนียบหนึบกว่าพอสมควร มีเพียงในแผงกองกลางและกองหน้าเท่านั้นที่ดูจะใกล้เคียงกัน
 

ที่สำคัญมากๆ คือมันสมองของกุนซือที่คอยแก้เกมข้างสนาม ฮิดดิงค์ มีชั่วโมงบินเหนือว่า โจเซป กวาร์ดิโอล่า มากพอสมควรทีเดียว หากจะมองจากมุมส่วนตัวแล้ว สิงโตน้ำเงินคราม น่าจะมีโอกาสเข้าชิงเป็นปีที่สองติดต่อกันมากว่าทีมจากสเปนเสียอีก
 

แต่อย่างเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นเอาแค่ตอนนี้ชั่วโมงนี้ก่อนดีกว่า เพราะถึงตอนนี้ เชลซี ทำหน้าที่ขวาง ผีแดง ของตัวเองอย่างเคร่งครัด โดยหากนับจากเอฟเอ คัพ มันต้องขึ้นอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองแล้วว่าพวกเขาจะพลาดเอง (แพ้เอฟเวอร์ตันตกรอบเอฟเอ คัพ) หรือว่าจะเข้าไปตัดสินกับ เชลซี
 

ดังนั้นคำกล่าวของ ฮิดดิ้งค์ อาจไม่ต้องลงมือเองก็ได้ แต่มันเริ่มจากเกมในคืนนี้ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สังเวียน เวมบลีย์ นั่นเอง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์