เซ่นฟรายสวิสแพ้เช็ก0-1นัดเปิดสนามศึกยูโร2008









เซ่นฟรายสวิสแพ้เช็ก0-1นัดเปิดสนามศึกยูโร2008

เจ้าภาพร่วม สวิตเซอร์แลนด์ ประเดิมคู่เปิดสนามศึกยูโร2008 ที่สังเวียน เซนต์ จาค็อบ พาร์ค ไม่สวยนัก เมื่อปราชัยให้ สาธารณรัฐเช็ก ต่อหน้าแฟนๆตัวเอง 0-1 แถมโชคร้ายเสีย อเล็กซานเดอร์ เฟร ศูนย์หน้าตัวเก่งที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างเกม โดยเป็น วาคลาฟ สเวร์กอส ที่ทำประตูชัยให้เช็กและเป็นประตูแรกในศึกยูโร2008 นัดเปิดสนามเมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2008)


(วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2551)



(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ)


สวิตเซอร์แลนด์ 0 - สาธารณรัฐเช็ก 1


สนาม :เซนต์ จาค็อบ พาร์ค (ผู้ชม : 42,000 คน)


เจ้าภาพร่วม สวิตเซอร์แลนด์ลงเตะนัดเปิดสนามโดยสองตัวหลักซึ่งต้องเช็คความฟิตทั้งทรานควิลโล่ บาร์เน็ตต้ากับปาทริค มุลแลร์ลงบู๊ได้ตามคาด ขณะที่สาธารณรัฐเช็กก็จัดทัพได้ โดยไม่มีปัญหา แต่ปรับหมากมาเล่นภายใต้ระบบ 4-5-1 ใช้งานแยน โคลเลอร์เป็นหัวหอกตัวเป้ารายเดียว ปล่อยให้ดาวซัลโวสูงสุดศึกยูโร 2004 มิลาน บารอสที่อยู่ในช่วงฟอร์มฝืดสุดขีดนั่ง เป็นตัวสำรอง


เริ่มเกมมาได้แค่สามนาทีแฟนทีมเมืองนาฬิกาก็ได้ลุ้นในจังหวะที่เช็คต่อบอลแถวแดนกลางพลาดเลยถูกโต้เร็วแล้วกองหน้ากัปตันทีมอเล็กซานเดอร์ ฟรายได้โอกาสกระชากบอลขึ้นไปสับไก ระยะ 24 หลา แต่ยังไม่เฉียบคมพอ บอลพุ่งหลุดกรอบออกไป


เกมของเจ้าภาพร่วมคึกคักขึ้นมาทันที ไม่เป็นรองคู่แข่งซึ่งอัดแน่นไปด้วยผู้เล่นประสบการณ์สูงล้นทีมแต่อย่างใด จวบจนนาทีที่ 16 วาลอน เบห์รามี่ก็ลองควบบอลบุกขึ้นกราบขวาไป กระทุ้งแถวมุมเขตโทษ ทว่าปีเตอร์ เช็คนายทวารมือกาวกระโดดคว้าเอาไว้ได้หนึบ


สวิสยังเดินหน้าได้เยี่ยม ผิดกับเช็คที่ตั้งลำไม่ได้เลย และถึงนาทีที่ 19 โกคาน อินเลอร์ก็ได้โชว์ลีลาพาบอลขึ้นกราบขวาไปทำชิ่งกับพรรคพวกแล้วได้ซัลโวหน้าเขตโทษพอดิบพอดี เสียดายก็ แต่ว่าไม่รุนแรงมากพอทำให้เช็กเซฟได้


ล่วงมาอีกสองนาทีทีมชาติเช็คเกือบเสียหายอีก คราวนี้ทีมเมืองนาฬิกาวางบอลยาวจากแดนกลางขึ้นมาแล้วฟรายสปีดตามไปเก็บในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะได้สังหารระยะ 14 หลาดี ที่ว่าเช็คออกมาปิดมุมเร็วทิ้งตัวใช้ขาสกัดได้อย่างเฉียดฉิว


ผ่านมาถึงนาทีที่ 36 สวิสก็ได้เสียวอีกจากจังหวะโต้กลับเร็วที่ฟรายลองเข่นเต็มข้อจากระยะ 32 หลาทำเอาเช็คต้องทุบทิ้งแล้วมาร์โก สเตรลแลร์ปรี่เข้าไปหมายเก็บตก แต่อยู่ในตำแหน่งล้ำ หน้าซะก่อน


ช่วงสองนาทีสุดท้ายก่อนจบครึ่งแรกฟรายมีปัญหาบาดเจ็บเข่าซ้ายจากการถูกซเดเน็ก กรีเกร่าเข้าปั๊มแย่งบอลถึงขนาดต้องออกไปดูอาการอยู่นานบริเวณข้างสนาม ก่อนจะลุกเดินกระ เผลกออกไปโดยเจ้าตัวร้องไห้ออกมาส่งสัญญาว่าไม่น่าจะเล่นต่อไหว กระทั่งครบ 45 นาทีแรกสวิสซึ่งเล่นกัน 10 คนไปพลางๆก็เจ๊ากับเช็คไปแบบไร้สกอร์


ครึ่งหลังเจ้าภาพร่วมเปลี่ยนฮาคาน ยาคินกองกลางตัวเก๋าลงไปแทนศูนย์หน้าฟรายที่กลับลงสนามไม่ไหวต้องอาศัยไม้ค้ำยันช่วยเดินโดยมีลูโดวิช มาแย็งรับบทกัปตัน และนาทีที่ 49 จากลูกเตะมุมสั้นด้านซ้ายมาแย็งก็ลองสับไกระยะ 30 หลาแต่ถูกเช็ครับเอาไว้ได้


จากนั้นอีกนาทีเดียว ยาคินก็ทำดีจู่โจมขึ้นไปจนถูกโทมัส กาลาเซ็คทำฟาล์วหน้าเขตโทษเป็นลูกฟรีคิกระยะ 23 หลา ตัวสำรองของทีมเมืองนาฬิกาจึงลุกขึ้นมาปั่นเอง แต่บอลลอยโด่งข้ามคาน


สถานการณ์ของเช็กยังเป็นรองต่อไปทำให้กุนซือคาเรล บรู๊คเนอร์ตัดสินใจเปลี่ยนยักษ์ขโมดโคลเลอร์ที่เชื่องช้าอืดอาดไร้พิษสงออกให้ดาวยิงวาคลาฟ สเวร์กอสลงไปเสียบแทนในนาทีที่ 57 และถัดมาอีกสองนาทีมาแย็งกองหลังสวิสก็รับใบเหลืองเป็นรายแรกโทษฐานเกี่ยวลิบอร์ ซิออนโก้ล้ม


เจ้าถิ่นยังพยายามกดดันเช็คต่อไป และในนาทีที่ 66 จากลูกโยนทางกราบขวา ยาคินก็ได้บรรจงโขกจากระยะ 12 หลาย้อนศรกลับไปหาเสาแรก แต่บอลไม่เป็นใจเฉี่ยวออกไปอีก


จวบจนนาทีที่ 71 แฟนสวิสก็ต้องช็อคตาตั้งเมื่อเช็กโหมลุยขึ้นไปแล้วแนวรับเจ้าภาพร่วมเคลียร์กันไม่เด็ดขาดพอ ยาโรสลาฟ ปลาซิลจึงกระดกบอลเข้าเขตโทษให้ตัวสำรองสเวร์กอสวิ่งฝ่ากัปดักเช็คล้ำหน้าได้สำเร็จแล้วเข่นจากระยะ 15 หลาเสียบมุมโดยที่สเตฟาน ลิคสไตเนอร์วิ่งกลับไปแหย่สกัดไม่ทันทำให้เช็คที่เกมเป็นรองบานนำก่อน 1-0


เท่านั้นเองเช็กก็เล่นแบบดึงเกมทันที แต่สวิสไม่ยอมง่ายๆทำเกมรุกกันต่อพร้อมทั้งเปลี่ยนกองหน้าโยฮัน ฟอนลานเต็นลงไปแทนกองหลังลิคสไตเนอร์ในนาทีที่ 75 แต่แค่นาทีเดียวฟอนลานเต็นก็ซิวใบเหลืองไปเชยชมอย่างเร็วจี๋จากการเกี่ยวดาวิด ยาโรลิมล้มหลังสูญเสียการครองบอล


ช่วงที่เหลือทีมเมืองนาฬิกาหาทางทวงคืนอย่างขะมักเขม้น และเกือบได้เฮในนาทีที่ 79 จากลูกยิงระยะ 18 หลาของสเตรแลร์ที่เช็คปัดออกมาแล้วบาร์เตต้าตามไปกระโดดวอลเลย์ซ้ำแต่โชคร้ายบอลพุ่งไปกระทบคาน


เจ้าบ้านยังไม่ท้อกางตำราบุกต่อ แต่ก็เจาะตาข่ายคู่แข่งไม่สำเร็จ จบเกมเช็กจึงเก็บสามแต้มเต็มได้ด้วยการกำชัยไป 1-0


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สวิตเซอร์แลนด์ : ดีเอโก้ เบนาโญ่ - สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, ปาทริค มุลแลร์, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, ลูโดวิช มาแญ็ง - วาลง เบห์รามี่, โกคาน อินเลอร์, เกลสัน แฟร์ กน็องเดส, ตรันกีโย่ บาร์เน็ตต้า - อเล็กซานเดอร์ ฟราย (กัปตันทีม), มาร์โก สเตรลแลร์ก
สำรอง : ปาสกาล ซูแบร์บูห์แลร์ (ผู้รักษาประตู), เอลดิน ยาคูโปวิช (ผู้รักษาประตู), โยฮัน ฌูรู, เบนจามิน ฮักเกิ้ล, ริคาร์โด้ กาบานาส, ฮาคาน ยาคิน, เอเรน แดร์ดิย็อค, สเตฟาน กริชติ้ง, ดาเนี่ยล ชีกั๊กซ์, คริสโตฟ ชปีเชอร์, โยฮัน ฟอนลานเต็น, ฟิลิปป์ เดอเก้น
สาธารณรัฐเช็ก : ปีเตอร์ เช็ก - ซเดเน็ค กรีเกร่า, โทมาช อุจฟาลูซี่ (กัปตันทีม), ดาวิด โรเซนาล, มาเร็ค ยันคูลอฟสกี้ - ลิบอร์ ซิออนโก้, ดาวิด ยาโรลิม, โทมาช กาลาเซ็ค, ยัน โปลัค, ยาโรสลาฟ ปลาซิล - ยัน โคลเล่อร์
สำรอง : ยาโรมีร์ บลาเช็ค (ผู้รักษาประตู), ดาเนี่ยล ซิตก้า (ผู้รักษาประตู), ราโดสลาฟ โควัช, มาร์ติน เฟนิน, วาคลาฟ สเวร์กอส, สตานิสลาฟ วิเช็ค, มิชาล คัดเลซ, มิลาน บารอส, มาเร็ค มาเตยอฟสกี้, โทมาช ซิวอค, รูดอล์ฟ สกาเซล
ผู้ตัดสิน : โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ (อิตาลี)
ผู้กำกับเส้น : อเลสซานโดร กริเซลลี่ (อิตาลี), เปาโล คัลคาโญ่ (อิตาลี)
ผู้ตัดสินที่ 4 : สเตฟาน ลันนัว (ฝรั่งเศส)


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์